พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 31 พฤษภาคม 2567
มีชายคนหนึ่งดำน้ำเพื่อศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะปลาแล้วก็พวกปะการัง หอย กุ้ง จู่ๆ ก็มีปลาโลมาตัวหนึ่งว่ายมาหา ทีแรกก็นึกว่าเป็นปลาโลมาเข้ามาทักทาย เพราะว่าโลมานี้ก็ค่อนข้างเป็นมิตรกับคน เห็นคนเข้ามาในถิ่นของตัว คงจะมาทักทาย
แต่เขาก็สังเกตว่า มันไม่ยอมไปไหน ว่ายวนรอบๆ ตัวเขา เป็นอย่างนี้อยู่พักใหญ่เลย แล้วเขาก็สังเกตครีบมันไม่ขยับ ทั้งครีบซ้ายครีบขวา ธรรมชาติของปลาโลมาเวลามันว่ายน้ำก็ต้องขยับหางขยับครีบ แต่โลมาตัวนี้ครีบมันไม่ขยับก็เลยสังเกตดู
เขาพบว่ามีเบ็ดทิ่มอยู่ตรงครีบข้างขวาที่ติดกับลำตัว เขาก็เลยพยายามตัดเอาเบ็ดนั้นออก ใช้เวลานาน เบ็ดก็ไม่ได้ใหญ่อะไร แต่โลมาต้องขยับตัวตลอด มันไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้
แต่แม้ว่าใช้เวลากับการตัดเอาเงี่ยงเบ็ดออก มันก็อดทน รอจนกระทั่งในที่สุดเขาก็เอาเบ็ดออกมาจากครีบของมันได้ ตอนที่เอาออกมา มันคงเจ็บแต่ก็อดทน เพราะมันรู้ว่าคนกำลังช่วยเขาอยู่ ธรรมชาติของสัตว์เวลาเจ็บนี่มันก็จะมีปฏิกิริยา
เหมือนกับเรา เวลาใครเอาเข็มมาทิ่มเราทั้งที่เรารู้ว่าเขาช่วยเรา แต่ว่าบางคนก็มีอาการผลักไส ยิ่งถ้าเป็นอะไรที่มันมากกว่าเข็ม อาจจะเป็นมีดเราก็จะดิ้นเลยแม้ว่าจะเป็นการผ่าเอาบางสิ่งบางอย่างออกจากตัวเรา เช่น กระสุน แต่ว่าโลมาตัวนี้ก็พยายามไม่ดิ้น สุดท้ายก็ปลอดภัย โอ! โลมาดีใจใหญ่
สัตว์อื่นๆก็มี ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากคนซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ในชีวิตประจำวัน อย่างพวกสัตว์ที่เติบโตในธรรมชาติ ไม่ใช่หมาไม่ใช่แมว เพราะว่าสัตว์เหล่านี้ก็มักจะกลัวคน แต่ว่าก็มีสัตว์หลายตัวที่เวลาเดือดร้อน เขาจะนึกถึงคน
อย่างมีอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง มีถนนแล่นผ่าน คนขับรถจะขับช้าๆ แล้ววันหนึ่งมีกวางตัวใหญ่เป็นกวางเอลก์มายืนขวางถนน รถส่วนใหญ่ก็ชลอแล้วก็ขับอ้อมมันอย่างช้าๆ ปรากฏว่ากวางเข้าหารถ ทีแรกนึกว่าจะมาชนรถ ที่จริงไม่ใช่ มันหยุดก่อนที่จะถึงตัว แล้วก็ก้มหัว ไม่ใช่จะพุ่งเพื่อขวิด แต่เพื่อส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง คนก็ไม่เข้าใจ หลายคนขับรถหนีกลัวกวางมาชน
แต่มีรถคันหนึ่งเขาหยุดเลย เขาหยุดเพื่อรอสังเกตดูพฤติกรรมของกวางตัวนี้ กวางตัวนี้พอเห็นรถยนต์ก็มาเลย คล้ายๆ ว่าจะมาสัมผัสกับคน คนก็เปิดหน้าต่างรถ มันก็ยื่นหน้ายื่นหัวเข้ามาให้คนลูบ ทีแรกนึกว่ามาทักทาย อยากเห็นคนอยากเป็นมิตรกับคน ให้คนมาทักทาย พอใจที่คนมาลูบหัวลูบหน้ามัน แต่ว่าไม่ได้ทำแค่นั้น มันร้อง เสียงร้องมันสื่อถึงความทุกข์ ไม่ใช่ความดีใจ
ชายคนนั้นก็เลยแปลกใจ พอลงจากรถ มันก็เดินพาชายคนนี้เข้าไปในป่าเลย เดินไปไม่ไกลนักก็เจอบ่อโคลนข้นคลั่กเลย ปรากฏว่ามีกวางอยู่ 3 ตัว ที่จริง 4 ตัวอยู่ในบ่อ ตัวหนึ่งจมมิดหัวไปแล้ว อีก 3 ตัวกำลังกระเสือกกระสน แสดงว่ากวางตัวนั้นมันมาขอความช่วยเหลือ เพราะว่าเพื่อนกำลังเดือดร้อน มันรักเพื่อน มันไม่ใช่แค่ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพราะอยากจะช่วยเพื่อน แสดงว่าสัตว์ก็มีความรัก ความห่วงใยเพื่อนฝูง ก็อาจจะเป็นเพื่อน อาจจะเป็นคนในครอบครัว
พอคนเห็นก็เลยชวนกันไปเรียกใครต่อใครที่ขับรถผ่านมา ให้มาช่วยกวาง ช่วยยังไง ก็เอาเชือกผูกเขาของมัน เพราะเป็นกวางตัวผู้ มีเขา เขาใหญ่ด้วย สวยด้วย ดึงกวางตัวใหญ่ หลายร้อยกิโล ก็ต้องใช้หลายคนดึง กว่าจะดึงให้มันขึ้นมาจากหลุม จากบ่อนี้ก็นาน
มีตัวหนึ่งหมดแรงไปต่อไม่ได้ นอนหมดสภาพ ปรากฏว่าคนแทนที่จะทิ้งมันไปนะ เพราะว่าอาจจะมีธุระ ก็มีบางคนเฝ้ารอมัน รอให้มันฟื้น แต่ถึงตอนเย็นแล้วมันก็ยังไม่ฟื้นก็เลยเป็นอันว่าต้องนอนค้างอยู่ในป่าเป็นเพื่อนกวาง แล้วก็จุดไฟให้ความอบอุ่น อาจจะช่วยไล่สัตว์ร้ายด้วยเพราะว่าในนั้นมันก็เป็นป่า มันเป็นป่าอุทยาน มีสัตว์ร้ายหลายตัวหลายชนิด
จนถึงเช้า กวางตัวนั้นก็เริ่มมีแรง สามารถจะลุกขึ้นมาแล้วก็เดินเข้าป่าได้ เพื่อนๆ คงจะรออยู่ กวางตัวนั้นพอมันลุกขึ้นมาได้ ก่อนที่จะเดินเข้าป่าก็ส่งเสียงร้อง แต่ตอนนี้เสียงร้องของมันไม่ใช่เสียงแห่งความทุกข์แล้ว มันเป็นเสียงแห่งความสุข อาจจะขอบคุณคนที่ช่วยเหลือเขาเอาไว้
ปรากฏการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เป็นเรื่องธรรมดา เห็นได้ยาก เพราะว่าสัตว์ป่ามันหนีคน กลัวคน แต่ว่าในบางท้องถิ่น ในบางประเทศสัตว์เหล่านี้คงจะรู้ว่าคนเป็นเพื่อนเป็น เป็นมิตรกับเขา ถ้าเป็นเมืองไทยสัตว์จะหนี เพราะว่าคนทำท่าจะทำร้ายสัตว์ แต่ในบางประเทศสัตว์เหล่านี้ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นคนไม่ได้ทำร้ายสัตว์ เป็นมิตรกับสัตว์ มันก็เลยรู้ว่าว่า คนสามารถช่วยเหลือได้ในยามที่เดือดร้อน
ภาพนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้ในเมืองไทย เห็นได้ยาก เพราะว่าเดี๋ยวนี้เราเห็นสัตว์เราคิดแต่จะฆ่า คิดแต่จะไล่ การที่จะช่วยเหลือเขามีน้อย แต่สัตว์ในบางประเทศอย่างในอเมริกา ในยุโรป หรือในญี่ปุ่น เขารู้เลยว่าคนเป็นมิตร ฉะนั้นเวลาเขาเดือดร้อน เขามาแล้ว ไม่รู้จะพึ่งใครก็ต้องพึ่งคนนี่แหละ คนที่ไม่เข้าใจก็มี แต่คนที่เข้าใจก็เยอะ ธรรมชาติของสัตว์เวลาเดือดร้อนเขาก็อยากขอความช่วยเหลือ
คนก็เหมือนกัน เวลาเดือดร้อนอะไร มีความทุกข์ก็อยากขอความช่วยเหลือ แต่บางทีเราก็ต้องเดาให้ออกว่า ทีท่าอาการนี้คือมาขอความช่วยเหลือ สัตว์มันพูดไม่ได้ คนก็ต้องเดาเอาว่าเขามาขอความช่วยเหลือ
แต่คนแม้จะพูดได้บางทีก็ไม่พูดตรงๆ ก็พูดอ้อมๆ บางทีเราก็ต้องคอยสังเกต ไม่ได้สังเกตคำพูด แต่สังเกตความรู้สึก อากัปกิริยา แต่บางคนก็เดาไม่ถูก เห็นใครมาก็ไล่ไป ฉันกำลังยุ่ง ฉันกำลังมีธุระ หารู้ไม่ว่าเขากำลังขอความช่วยเหลือ พอถูกไล่ไป ไม่มีที่พึ่งที่ไหน บางคนก็ฆ่าตัวตาย
คนที่ไล่เพื่อนไปพอมานึกได้ก็เสียใจ โอ ที่แท้เขาเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเรา เขามีความทุกข์มาก เขาอยากจะมาระบาย แต่เราไม่เข้าใจ เราคิดว่าเขาจะมารบกวนแบบนี้ก็เยอะ
เพราะฉะนั้นคนเราก็ต้องหัด หัดสังเกต แล้วก็เดาให้ได้ว่าอากัปกิริยาแบบนี้ คือการมาขอความช่วยเหลือ และถ้าเรารู้ก็ควรช่วย เพราะว่าสิ่งที่เราให้แม้จะเป็นเวลาน้อยนิดมันสามารถจะช่วยเขาได้มาก อาจจะช่วยชีวิตเขาเลยก็ได้.