พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า ในโอกาสวันวิสาขบูชา วันที่ 22 พฤษภาคม 2567
วันนี้เป็นวันดี เป็นวันมงคล เพราะนอกจากเป็นวันพระใหญ่แล้ว ยังเป็นวันสําคัญทางพุทธศาสนา สำคัญที่สุดในรอบปีก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นวันวิสาขบูชา เป็นวันที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าโดยตรง ระลึกถึงวันประสูติ ระลึกถึงวันตรัสรู้ และระลึกถึงวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระบรมศาสดาของเรา
ที่จริงวันนี้จะเป็นวันดี วันมงคลได้อย่างแท้จริง ไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นวันอะไรเท่านั้น ที่สำคัญคือว่าเป็นวันที่เราได้ทําดีด้วย เพราะว่ามงคลในพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่ฤกษ์ยาม ไม่ได้อยู่ที่ดวงดาว จะเป็นวันมงคลหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นวันพระเท่านั้น แต่ว่าอยู่ที่ว่าเป็นวันที่เราได้ทําความดี ถ้าเราได้ทําความดีนั่นแหละมงคลได้เกิดขึ้นแล้ว
เพราะฉะนั้น วันมงคลสําหรับชาวพุทธคือวันที่เราทําความดี แม้จะเป็นวันพระแต่ถ้าเราไม่ทําความดีในวันนั้นก็ไม่ใช่วันมงคล เช่น เป็นวันพระแต่ว่าเรากินเหล้าเมายาหรือว่าผิดศีล เป็นวันดีไม่ได้ เป็นวันมงคลก็ไม่ได้ แต่ถึงแม้เป็นวันธรรมดา เราทําความดี วันนั้นก็เป็นวันมงคลแล้ว
เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากให้วันนี้เป็นวันมงคลอย่างแท้จริง ต้องทําความดีในวันนี้ด้วย ทําความดีนี่ทําได้หลายอย่างหลายวิธี ไม่ใช่แค่ทําบุญตามประเพณีเท่านั้น
ทําบุญตามประเพณีคืออะไร คือว่า ถวายทาน ใส่บาตร รักษาศีล ฟังธรรม รวมทั้งวันสำคัญอย่างวันวิสาขบูชาก็เวียนเทียน แต่นอกจากการทําบุญตามประเพณีแล้ว ยังทําดีได้อีกหลายอย่าง เช่น ให้ทาน
หรือว่าให้อาหารแก่คนที่ทุกข์ยากเดือดร้อนหิวโหย เราเห็นใครที่ทุกข์ยากเดือดร้อน เราก็ช่วยเหลือเขาด้วยการแบ่งปันอาหาร ให้อาหารกับเขาเพื่อบรรเทาความหิวโหย อาจจะบริจาคเงินช่วยเหลือโครงการที่เขาปันอาหารให้กับคนหิวโหย เช่น โครงการปันกันอิ่ม หรือว่าไปเป็นจิตอาสาตามโรงพยาบาล
หลายคนตั้งใจว่าจะทําความดีในวันนี้ด้วยการเป็นจิตอาสาเนื่องในวันวิสาขบูชา อันนี้ก็เป็นการทําให้วันนี้เป็นวันมงคลอย่างแท้จริง
อย่างที่บอกไว้แล้วว่ามงคลในพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่วัน ไม่ได้อยู่ที่ฤกษ์ยาม ไม่ได้อยู่ที่ว่าใส่เสื้อสีอะไร ไม่ได้อยู่ที่ว่าใช้โทรศัพท์เบอร์อะไร กท. (หมายเลขทะเบียนรถ) อะไร เรื่องวันมงคล สีมงคล ดอกไม้มงคล อันนี้ไม่ใช่มงคลในพุทธศาสนา
มงคลในพุทธศาสนา โดยเฉพาะมงคลสูงสุด เรียกว่า อุดมมงคล เป็นเรื่องการทําความดีทั้งนั้น เป็นเรื่องการปฏิบัติด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากให้วันนี้เป็นวันมงคลอย่างแท้จริง และที่จริงก็ควรทําด้วย ให้วันนี้เป็นวันมงคล ก็ต้องทําความดี
นอกจากที่พูดมาแล้ว ความดีอย่างหนึ่งที่สําคัญมาก ที่ควรทํากันเยอะ ๆ ทํากันมาก ๆ คือ การปลูกต้นไม้
ยุคนี้ต้นไม้มีความสําคัญมาก เพราะว่าตอนนี้ใคร ๆ ก็บ่นกันว่าโลกกําลังร้อน อยู่ที่ไหนก็ร้อนถ้าไม่เปิดแอร์ มลภาวะก็มาก พีเอ็ม 2.5 ก็เยอะ ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงวันนี้ หลายคนรับรู้ได้ถึงความแปรเปลี่ยนของดินฟ้าอากาศ และความเสื่อมโทรม
แต่ทั้งหมดนี้ ต้นไม้นี้ช่วยได้ ช่วยลดความร้อนเพราะทําให้เกิดร่มเงา และช่วยลดมลภาวะ ช่วยดักจับฝุ่นพีเอ็ม 2.5 นอกจากนั้นต้นไม้ยังทําให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี เห็นใบไม้สีเขียว เห็นดอกไม้งดงาม จิตใจเราก็พลอยสดชื่นเบ่งบานไปด้วย เบิกบานไปตามดอกไม้ที่เบ่งบาน เพราะฉะนั้น นี่เป็นช่วงเวลาที่เราจะต้องย้ำเตือนถึงความสำคัญของต้นไม้
เท่านั้นยังไม่พอ โดยเฉพาะวันนี้ ควรจะเป็นวันที่เราจะได้ตระหนัก และเกิดสํานึกถึงบุญคุณของต้นไม้ เพราะว่าต้นไม้มีส่วนในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์นี้เท่านั้น พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ย้อนถอยหลังไป 28 พระองค์ ล้วนแต่ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ ต้นไม้ก็ไม่ได้เป็นต้นไม้ที่พิเศษพิสดาร เป็นไม้สามัญ เช่น มะม่วง มะขามป้อม มะเดื่อ มะพลับ หรือไม่ก็สะเดา สน สาระ ไม้ไผ่ใหญ่ก็มี
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ ทั้งในอดีตและอนาคตด้วย อย่างพระศรีอริยเมตไตรยก็มีการพยากรณ์ว่าพระองค์จะตรัสรู้ใต้ต้นกากะทิง ฉะนั้น ต้นไม้มีส่วนในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งหมายความว่ามีส่วนในการก่อกำเนิดพุทธศาสนา
เพราะฉะนั้น ในวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันที่น้อมใจให้เราระลึกถึงการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นอกจากเราจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าด้วยการทําความดี รักษาศีล ปฏิบัติธรรมแล้ว เราควรสํานึกในบุญคุณของต้นไม้ และสิ่งหนึ่งที่เราจะทําได้ คือ ปลูกต้นไม้กันเยอะ ๆ เพราะต้นไม้นี่แหละที่จะทําให้เกิดสภาพที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า รมณีย์
รมณีย์ เป็นคําสําคัญในพุทธศาสนาที่เดี๋ยวนี้ลืมเลือนกันไปแล้ว หลายคนไม่รู้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จออกบวช ทรงหาที่ปฏิบัติธรรม แล้วได้มาเจอที่แห่งหนึ่ง บนฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ที่ตําบลอุรุเวลาเสนานิคม พระองค์เลือกตรงนั้นเพราะว่าเป็นที่รมณีย์
พระองค์ตรัสว่า สถานที่แห่งนี้เป็นถิ่นรมณีย์จริงหนอ ไผ่สวนร่มรื่นน่าชื่นบาน มีแม่น้ำไหลผ่าน น้ำใสไหลเย็นชื่นใจ อีกทั้งชายฝั่งท่าน้ำก็ราบเรียบ แหล่งบิณฑบาตก็มีโดยรอบ สถานที่แห่งนี้เป็นรมณีย์ เหมาะกับการบําเพ็ญเพียร และพระองค์ก็ประทับนั่งลงตรงนั้นด้วยความตกลงใจว่าจะใช้ที่แห่งนี้เป็นสถานที่สําหรับการบําเพ็ญเพียร และสุดท้ายพระองค์ก็ตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ
เพราะฉะนั้น ถ้าเราพยายามช่วยกันปลูกต้นไม้ รักษาสิ่งแวดล้อมให้สงบ ให้ร่มรื่น เป็นถิ่นรมณีย์ ก็เท่ากับว่าเราเจริญรอยตามหรือปฏิบัติตามคําสอนของพระพุทธเจ้า และเป็นการแสดงถึงความสํานึกในบุญคุณของต้นไม้ด้วย
เพราะฉะนั้น วันนี้ที่วัดป่าสุคะโต เราจะมีการปลูกต้นไม้เสริมเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เคยถูกไฟไหม้ให้กลับมาฟื้นตัวด้วยการปลูกต้นไม้ซ่อม เป็นการเพิ่มความเป็นรมณีย์ให้กับป่าสุคะโต ให้เป็นสถานที่เหมาะกับการบําเพ็ญเพียรของชาวพุทธ เช้านี้เราก็จะมีการปลูกต้นไม้กัน
แล้วตอนค่ำเราจะมีการเวียนเทียนด้วยกล้าไม้ เราจะไม่ใช้ธูปเทียนแล้ว เพราะว่าเวียนเทียนด้วยธูปเทียนแล้ว ธูปเทียนก็กลายเป็นขยะ สร้างมลภาวะอีก แต่เราจะใช้กล้าไม้ เพราะเวียนเทียนเสร็จ กล้าไม้ที่เราเวียนเทียนก็นําไปปลูกในที่ของเรา ในวัดของเรา ในถิ่นของเราได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเป็นการเสริมสร้างถิ่นรมณีย์ให้กว้างขวางกระจายออกไป
เพราะฉะนั้น ขอเชิญชวนมาร่วมกันปลูกต้นไม้ ไม่ใช่เฉพาะที่นี่ แต่ทุกที่ที่สะดวกสําหรับเรา ไม่ใช่เฉพาะวันนี้เท่านั้น แต่ว่าวันอื่นด้วย เพราะช่วงนี้ฝนมาแล้ว ฤดูฝนมาถึงแล้ว พื้นดินชุ่มเหมาะกับการปลูกต้นไม้ ปลูกแล้วก็มีโอกาสที่จะรอด เพราะว่าฝนจะพร่างพรมลงมา บํารุงต้นไม้ให้เติบโต
และทําความดีอย่างอื่นด้วย เท่าที่เราสะดวกและมีโอกาส
และถ้าจะเวียนเทียนก็เวียนเทียนด้วยต้นไม้ สุคะโตเราเวียนเทียนด้วยกล้าไม้เช่นเดียวกับวัดอีกหลายวัดในกรุงเทพฯ และหลายจังหวัดทั่วประเทศ ไปติดต่อสอบถามดู ทางเว็บไซต์เขาจะระบุไว้ เว็บไซต์ของมูลนิธิปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ เขาจะแจ้งไว้ว่าที่วัดไหนบ้างที่มีการเวียนเทียนด้วยกล้าไม้ หรือถึงไม่มี เราก็ทําได้ที่วัดของเรา ทําให้เป็นแบบอย่าง ทําให้เป็นจุดเริ่มต้นของการเวียนเทียนด้วยกล้าไม้ในวัดของเรา
ขออนุโมทนาทุกท่านที่ได้มาร่วมกันบําเพ็ญบุญในวันวิสาขบูชานี้.