พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม 2567
สองเดือนที่ผ่านมา อากาศร้อนมาก ไปที่ไหน ๆ ก็มีแต่คนบ่นกันว่าอากาศร้อน ร้อนกว่าที่เคยผ่านมา มันไม่ใช่เป็นเฉพาะเมืองไทย เพื่อนบ้านหลายประเทศ เขาก็เจออากาศร้อนแบบประเภทตับแตกเลย แม้กระทั่งฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่เหนืออยู่สูงกว่าประเทศไทย
ก็ดีขึ้นบ้างที่ 2 วันนี้มีฝน แต่บางแห่งฝนก็แรงมาก เหมือนเป็นพายุ ก็ช่วยทำให้อากาศร้อนน้อยลง แต่ก็เอาแน่ไม่ได้ ว่ามันจะกลับมาร้อนใหม่ เหมือนที่ผ่านมาหรือเปล่า
ก็มีการเถียงกันว่าเป็นเพราะอะไร บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะเอลนินโญ่ แต่ที่เห็นพ้องกันส่วนใหญ่ก็คือว่า เป็นเพราะโลกร้อนขึ้น ปรากฏการณ์โลกร้อนมันคือสิ่งที่เราทุกคนจะต้องเจอ และก็จะเจอไปอีกนานหลายสิบปี
เพราะฉะนั้น นอกจากจะทำให้อากาศมันร้อนขึ้น จนมีคนตายเพราะว่า Heat Stroke หรือว่าลมแดด ผลพวงอย่างหนึ่ง หรือผลกระทบอย่างหนึ่งของโลกร้อนคือโรคระบาด
โรคระบาดตอนนี้ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อ โรคที่มีแมลงเป็นพาหะ เพราะว่าพอมันร้อนขึ้น แม้จะร้อนเพิ่มขึ้นนิดเดียว มันก็มีผลทำให้แมลงเพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ และโรคติดเชื้อที่กำลังมาแรงคือ ไข้เลือดออก กำลังมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ใน 20 ปีที่ผ่านมานี้คนตายเพราะมาลาเรียน้อยลง 30% มาลาเรียก็เป็นโรคร้ายแรง แต่ 20 ปีที่ผ่านมานี่ คนตายเพราะมาลาเรียน้อยลง 30%
ตรงข้ามกับไข้เลือดออก มันเพิ่มขึ้น 200% ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าคิดเป็นตัวเลขก็ยังไม่มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับมาลาเรีย 20 ปีที่แล้วตาย 20,000 คน ตอนนี้ก็ตายประมาณ 40,000 คน แต่ก็เชื่อว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนเป็นโรคนี้เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ก็ร้อยล้านคนเข้าไปแล้ว
และที่รุนแรงมาก ก็คือที่ละตินอเมริกา แถวอเมริกาใต้ 20 ปีที่แล้ว คนป่วยเพราะโรคไข้เลือดออกนี้ 500,000 คน แต่ปีที่แล้วเหยียบ 5 ล้าน มันเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว และเฉพาะปีนี้ แค่ 4 เดือนที่ผ่านมา ก็ป่วยไปแล้ว เกือบ 6 ล้านคน สิ้นปีก็คงจะเพิ่มเป็น หรือเพิ่มมากอีก 2-3 ล้านคน เป็น 7-8 ล้านคน
เมืองไทยตอนนี้ คนเป็นโรคไข้เลือดออกก็มากขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้กำลังเป็นปัญหาที่ต้องจัดการ เพราะว่ามันกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก มาลาเรียแพร่ไปทั่วโลกเรียบร้อยหลายปีแล้ว เป็นร้อยปีแล้ว แต่ว่าโรคไข้เลือดออกนี้ต่อไปก็คงจะแพร่ไปยังประเทศเมืองหนาว อเมริกา ยุโรป เขากะว่าอีกไม่นาน คนที่ป่วยจะเป็นระดับพันล้านเลย
ไข้เลือดออกจะอาการปวด ปวดมากๆ ปวดตามข้อ ปวดกระดูก ไข้สูง แล้วก็มีเลือดออกตามตัว ตามแขน ตามขา รักแร้ หากเลือดออกมาก ๆ ถึงช็อคก็ตายได้เลย
ตอนนี้หลายประเทศพยายามหาทางป้องกัน ที่นิยมทำกันก็คือ กำจัดแหล่งน้ำ โดยเฉพาะน้ำนิ่ง เพราะว่าเป็นที่อยู่ของยุงลาย ยุงลายนี้มันเป็นพาหะ ไม่เหมือนมาลาเรียที่เป็นยุงก้นปล่อง ยุงลายนี้จะหากินเวลากลางวัน ตรงนี้ยาก
เพราะมาลาเรีย ถ้าหากว่าทำให้คนใช้มุ้งมากขึ้น โรคมันก็ลดลงอย่างที่แอฟริกา เดี๋ยวนี้คนใช้มุ้งมากขึ้น คนป่วยก็น้อยลง แต่มุ้งนี้ไม่มีประโยชน์เท่าไหร่สำหรับการป้องกันโรคไข้เลือดออก เพราะว่ายุงลายกัดตอนกลางวัน คนกำลังทำงาน น้อยคนที่จะนอน นอนก็นอนไม่ได้ มันร้อนถ้าใช้มุ้ง
หลายประเทศต้องใช้กำลังคนมากในการกำจัดแหล่งพาหะ รวมทั้งการฉีดยาฆ่าแมลง เช่น DDT ต้องใช้เงินเยอะ แต่ที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าสนใจ ขนาดสิงคโปร์เขาสุขาภิบาลดี คนมีความรู้ ปรากฏว่าไข้มาลาเรียระบาดขึ้น แต่ก่อนก็ใช้วิธีนี้แหละ ส่งเจ้าหน้าที่ไปกำจัดแหล่งน้ำ อันไหนที่เป็นน้ำนิ่งก็จัดการ ภาชนะบรรจุน้ำก็มีฝาปิด ฉีดยาประเภท DDT เขาพบว่ามันใช้เงินเยอะ
เขามาใช้วิธีใหม่ ไฮเทค เลี้ยงยุง เพาะยุงที่มีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียที่ติดมากับยุงสามารถที่จะกำจัดไวรัสเดงกี่(dengue virus) ได้ ไวรัสเดงกี่ทำให้เป็นโรคไข้เลือดออก ไวรัสเข้ามาในตัวยุงลาย ปรากฏว่ามันถูกแบคทีเรียกำจัด ก็ทำให้ยุงลายไม่เป็นพาหะของไข้เลือดออก วิธีนี้ช่วยทำให้ไข้เลือดออกในสิงคโปร์ลดลงไปเยอะเลย ต่อไปอาจจะเป็นที่นิยมในเมืองไทยก็ได้
ปกติเวลาเราพูดถึงไข้เลือดออก เรามักจะพูดกันเวลาฤดูฝน แต่ว่าตอนนี้ แม้ฤดูฝนยังไม่มา ปรากฏว่าคนก็ติดโรคไข้เลือดออกไปแล้ว ที่วัดนี้มีพระป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกแล้วตอนนี้ ทั้งๆที่ ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาแทบไม่มีฝนเลย
เพราะฉะนั้นก็ต้องระวัง อย่าไประวังเฉพาะฤดูฝน เดี๋ยวนี้ฤดูร้อนก็ต้องระวังแล้ว ไข้เลือดออก ที่วัดเราต้องระวัง ถ้ามีแหล่งน้ำ มีภาชนะที่ไม่มีฝาปิด ก็ต้องหาฝาปิดไว้
แล้วก็ระวัง ถ้าเกิดโดนยุงกัด เกิดป่วยขึ้นมา เป็นไข้ขึ้นมา ต้องพิจารณาว่าเป็นไข้เลือดออกหรือเปล่า หากมีไข้สูงก็อย่าไปกินแอสไพริน เพราะแอสไพรินเป็นตัวละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดออกง่าย อาการยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ถ้าจะลดไข้ต้องใช้พาราเซตามอล
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องรู้เอาไว้ เพราะว่าเดี๋ยวนี้มันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว โรคไข้เลือดออก ไม่ใช่เฉพาะโควิดหรือว่าหวัดเท่านั้น.