พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 2 พฤษภาคม 2567
ไม่กี่วันมานี้มีข่าวๆ หนึ่งจากประเทศฝรั่งเศส คณะกรรมการระดับชาติที่ประธานาธิบดีแต่งตั้งขึ้น เพื่อศึกษาเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบของโทรศัพท์มือถือกับเด็กและวัยรุ่น ได้ข้อสรุปว่า มันมีผลเสียไม่น้อยเลยทั้งต่อสุขภาพกายแล้วก็สุขภาพใจ
เขามีข้อเสนอถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสคือ เด็กที่อายุต่ำกว่า 11 ควรห้ามไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน เดี๋ยวนี้มือถือมันก็มีสองแบบ ทั้งมือถือธรรมดา กับมือถือแบบสมาร์ทโฟน
เด็กอายุต่ำกว่า 13 ใช้มือถือธรรมดาได้ แต่ห้ามใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ติดต่อหรือใช้อินเตอร์เน็ตได้
เด็กอายุต่ำกว่า 15 ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงโซเชียลมีเดีย หรือพูดง่ายๆ คือว่าห้ามใช้โซเชียลมีเดียในอายุต่ำกว่า 15
โซเชียลมีเดียก็เช่น เฟซบุ๊ค อินสตาแกรม รวมทั้งติ๊กต๊อก ยูทูบด้วย แต่ถ้าอายุมากกว่า 15 แล้วยังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ใช้โซเชียลมีเดียได้ แต่ว่าใช้ได้แบบจำกัด เข้าถึงเว็บไซต์ที่สมควร ไม่เป็นพิษเป็นภัย ส่วนจะเป็นเว็บไซต์อะไรเขาก็ให้ไปพิจารณากันอีกที
อันนี้เป็นข้อเสนอต่อประธานาธิบดีฝรั่งเศส มันไม่ค่อยเป็นข่าวในเมืองไทยเท่าไหร่นัก แต่เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะว่าเด็กไทยก็ใช้โทรศัพท์มือถือ ใช้สมาร์ทโฟน ใช้โซเชียลมีเดียกันเยอะ แต่ไม่ค่อยเห็นโทษเห็นภัยมันเท่าไหร่ อาจจะเห็นว่า เออ มันแค่เปลืองเงิน สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ แต่พิษภัยมากกว่านั้น
อย่างคณะกรรมการชุดนี้ซึ่งประธานก็เป็นนักประสาทวิทยาที่มีชื่อ แล้วก็เป็นจิตแพทย์ นักจิตบำบัด แล้วก็มีกรรมการที่มีชื่อเสียงหลายคน ทั้งด้านกฎหมาย ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านพฤติกรรมเด็ก เขาบอกโทรศัพท์มือถือ แล้วก็สมาร์ทโฟน โซเชียลมีเดียมันสร้างปัญหาให้กับเด็กหลายอย่าง ตั้งแต่นอนไม่หลับ โรคอ้วน แล้วที่หนักกว่านั้นคือ โรคซึมเศร้า และวิตกกังวล ซึ่งก็นำไปสู่การทำร้ายตัวเอง หรือการฆ่าตัวตาย
กรรมการชุดนี้ เขาเสนอให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกกฎหมายเลย ซึ่งเรื่องนี้มีคนพูดถึงกันมากอยู่แล้ว อย่างในอเมริกา แพทย์ใหญ่เลยนะของรัฐบาลเนี่ยบอกเลยว่า โซเชียลมีเดียมันเป็นอันตรายต่อพฤติกรรมสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่น ตอนนี้บางรัฐมีข้อห้ามแล้ว ห้ามไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 14 บ้าง 16 บ้าง ใช้โซเชียลมีเดีย หรือว่าจำกัดเวลาในการใช้โซเชียล เพราะว่าเขาเห็นโทษมัน
มีผู้รู้คนหนึ่ง ที่จริงก็หลายคน เขาตั้งข้อสังเกตว่าเด็กสมัยก่อนเติบโตมาพร้อมกับการเล่น เป็นวัยเด็กที่มีการเล่นเป็นศูนย์กลาง แต่ว่าในช่วง 10 -12 ปีที่ผ่านมาเด็กที่เติบโตมากับการเล่นมันเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว เด็กส่วนใหญ่เติบโตมากับโทรศัพท์
แล้วก็สังเกตว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ปัญหาเด็กที่เป็นโรคซึมเศร้า ปัญหาเด็กที่มีความวิตกกังวลสูง แล้วก็เด็กทำร้ายตัวเองและฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวเลย มันเป็นเพราะอะไร เขาก็เชื่อว่าเป็นเพราะการใช้โทรศัพท์มือถือ และโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้น
อย่างที่บอก พอเด็กที่เติบโตมาพร้อมกับโทรศัพท์ สิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กันไปคือ ปัญหาเด็กที่เกิดความวิตกกังวลสูง เป็นโรคซึมเศร้า ทำร้ายผู้อื่น ฆ่าตัวตาย มันก็เกิดขึ้น หรือเพิ่มขึ้น พร้อมๆ กัน เขาก็เลยเป็นห่วงมากกับเด็กและเยาวชนที่ใช้โทรศัพท์มือถือและใช้โซเชียลมีเดีย
อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็มีปัญหา เสียผู้เสียคนก็เพราะโทรศัพท์มือถือ ติดเกม ติดการพนัน นอนไม่หลับ โรคอ้วน ซึมเศร้า เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่เหมือนกัน แต่เด็กนี่เป็นกลุ่มที่เปราะบางเป็นพิเศษ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนเป็นพ่อแม่ควรจะรับรู้เอาไว้ เพราะเดี๋ยวนี้เราให้ลูกๆ หลานๆ นี่ใช้โทรศัพท์มือถือกันเป็นว่าเล่น ถ้าไม่โทรศัพท์มือถือก็แท็บเล็ต เด็ก 2-3 ขวบแม่หรือว่าตายายก็ให้เล่นแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์ ดูยูทูบ
แล้วก็เล่นเกมส์ตั้งแต่ 2-3 ขวบ เด็ก 10 ขวบก็มีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน แล้วก็ไม่ควบคุมทั้งเวลา แล้วก็แหล่งข้อมูล หรือเว็บไซต์ ที่จะเข้าถึง
ข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่เลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือว่าแท็บเล็ตมานาน บางทีลูกก็โตไปแล้ว เดี๋ยวนี้พ่อแม่บางคนบอกว่า ลูกนี่เลี้ยงยาก ดื้อ แล้วบางคนก็มีพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง ไม่มีสมาธิ เป็นคนที่กระสับกระส่าย ขี้กังวล วิตกกังวล โรคซึมเศร้า
อันนี้ก็อาจเป็นเพราะว่า เลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์มือถือตั้งแต่เขายังเด็กก็ได้
อันนี้ก็น่าคิด ถ้าพ่อแม่ไม่ให้ลูกใช้โทรศัพท์มือถือแล้วจะทำยังไง เพราะพ่อแม่ก็ไม่มีเวลา แต่ก่อนเลี้ยงลูกด้วยโทรทัศน์นะ แต่เดี๋ยวนี้เลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์ แทบเล็ต แล้วไม่มีเวลา เห็นเด็กมันจู้จี้กวนใจก็ยัดโทรศัพท์มือถือ ยัดแท็บเล็ตให้ เด็กก็นิ่ง แต่ว่านิ่งชั่วคราว พอโตขึ้นก่อความวุ่นวายแก่ตัวพ่อแม่ พ่อแม่กลุ้มใจ ลูกวัยรุ่นพฤติกรรมแปลกๆ ถ้าไมเป็นคนก้าวร้าวก็ซึม วิตกกังวล ซึมเศร้า อันนี้ก็ต้องย้อนกลับไปว่า เราเลี้ยงลูกด้วยอะไร
สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ลูกอ่อน ก็ยังมีเวลาแก้ตัว ปรับตัวทัน อย่าให้โทรศัพท์มือถือกับเด็ก กับลูก ในขณะที่ยังเล็ก หรือแม้เป็นวัยรุ่นแล้วเนี่ยก็ต้องระมัดระวัง
แต่ก็ยากเพราะว่าเด็กก็ร่ำร้อง อยากจะได้ พ่อแม่ก็ขัดใจไม่ได้ บางทีไม่ซื้อให้เด็กอาละวาดฆ่าตัวตายก็มี สงสารคนเป็นพ่อเป็นแม่เวลานี้ ให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือก็มีปัญหา ถ้าไม่ให้เด็กก็จะฆ่าตัวตายเอาง่ายๆ
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดกันให้มากๆ แต่อย่างน้อยก็ให้รู้ว่า มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว การที่ให้เด็กเล็กๆ ใช้โทรศัพท์หรือสมาร์ทโฟน ปัญหานี้มันเกิดขึ้นทั่วโลกเลย.