PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • คำเตือนภัยใน 5 ปีหน้า
คำเตือนภัยใน 5 ปีหน้า รูปภาพ 1
  • Title
    คำเตือนภัยใน 5 ปีหน้า
  • เสียง
  • 13932 คำเตือนภัยใน 5 ปีหน้า /aj-visalo/5-4.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันพุธ, 04 มิถุนายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 2 มิถุนายน 2568
    เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีคําเตือนที่สําคัญมากแต่ไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าไร เป็นคําเตือนที่มาจากหน่วยงานที่ไม่ค่อยรู้จักแต่ว่ามีความสําคัญ
    องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หลายคนคงไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่ว่ารายงานที่เขาเปิดเผยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วสําคัญมาก ต้องฟังเลย เขาบอกว่าภายใน 5 ปีข้างหน้านี้มีโอกาสสูงถึง 86% ที่โลกจะต้องมี ก็คือ ภายใน 5 ปี อย่างน้อยต้องมีปีหนึ่ง ที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี สูงกว่า 1.5 องศา
    ที่จริงที่ผ่านมามันก็มีบางวันบางช่วงที่โลกมีอุณหภูมิเฉลี่ย สูงกว่า 1.5 แต่ว่าพอเฉลี่ยทั้งปีแล้ว มันก็ต่ำกว่า 1.5 องศา
    แต่ว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า 86% ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือชัวร์ เพราะชัวร์สมัยนี้ไม่ได้หมายถึงต้อง 100% แค่ 80% ก็ชัวร์แล้ว อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกทั้งปีเขาก็รวมทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน ทั้งเวลาเช้า เวลากลางคืนรวมกันทั้งหมด แล้วก็เฉลี่ยมาเป็นอุณหภูมิเฉลี่ย ตอนนี้ยังไม่ถึง ยังไม่สูง เกินกว่า 1.5 องศา แต่เฉียดๆแล้ว
    แต่ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้ อย่างน้อยต้องมี 1 ปี ซึ่งถ้าหากว่าอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเพิ่มขึ้น 1.5 องศา อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
    เพิ่มขึ้น 1.5 องศาหมายความว่า เทียบกับเมื่อ 200 ปีก่อนซึ่งเป็นช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม ก่อนยุคอุตสาหกรรมมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งโลกเท่าไหร่ ทุกวันนี้เขาตั้งเป้าว่าอย่าให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งโลกสูงเกิน หรือสูงเพิ่มขึ้น 1.5 องศา
    เพราะเขาคำนวณแล้วว่า ถ้าเกิดอุณหภูมิของโลกเฉลี่ยสูงเพิ่มขึ้นอีก 1.5 องศา เมื่อเทียบกับ 300 ปีที่แล้ว มันจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่จริงมันก็เกิดอยู่แล้วเรื่อยๆ แต่ว่าถ้าหากว่าถึงวันนั้นมันจะหนัก เช่น คลื่นความร้อนสูง เกิดพายุที่รุนแรง เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม ตามมาด้วยโคลนถล่ม สารพัด ยังไม่นับโรคระบาดที่เกิดจากแมลงซึ่งมันก็จะขยายตัวมากขึ้น
    ยังไม่เคยมีรายงานชิ้นไหนที่สรุปฟันธงแบบนี้ เป็นตัวเลขชัดเจน 86% แล้วเขาบอกว่าเตรียมตัวไว้ เตรียมรับมือ เพราะว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ก็ไม่ได้ไกลเลย เผลอๆปีหน้าด้วยซ้ำ เรื่องแบบนี้คนอาจจะฟังแล้ว ฟังอีก ก็ยังเฉย แล้วยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน อากาศก็เย็นสบาย ก็อาจจะไม่ได้นึกถึงความทุกข์ตอนที่อยู่ในช่วงหน้าร้อนที่เราบ่นกันมาก มันร้อนเหลือเกิน มีความแห้งแล้งเกิดขึ้นก็เกิดความตื่นตระหนก เกิดความทุกข์ขึ้นมา
    แต่พออากาศเริ่มเย็น เพราะว่าเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เคลิ้มทั้งวัน คนก็ลืมไปเลย ลืมไปเลยว่า สิ่งที่เราต้องเจอในวันข้างหน้าไม่ใช่เฉพาะฤดูร้อน แต่เรียกว่าทั้งปีนี้เราจะต้องเจออะไรบ้าง เรียกเกิดความชะล่าใจ ก็ต้องถามตัวเองว่าพร้อมหรือยัง ถ้าเกิดว่าน้ำท่วม พร้อมจะไปอยู่บนชั้น 2 หรือว่าไปอยู่บนหลังคาหรือเปล่า
    ก็เกิดขึ้นแล้วตอนนี้ที่แม่สาย เชียงราย พอน้ำท่วมมากๆ หลายคนไม่เคยเตรียมเลยว่าถ้าจะต้องลี้ภัยไปอยู่ชั้น 2 หรือว่าจะต้องไปอยู่บนหลังคาจะทำยังไง หลายคนยังเก็บสมบัติ ของมีค่า บางคนรักหนังสือก็เก็บหนังสือไว้ที่ชั้น 1 พอน้ำท่วมทั้งชั้นก็สูญหมด บางคนก็เก็บสิ่งมีค่าอย่างอื่นไว้ คือไม่ได้เตรียมตัวเลยว่าพอน้ำท่วม เราจะอยู่กับมันยังไง หรือว่าถ้าเกิดอากาศร้อนมากๆ เราเตรียมพร้อมแค่ไหน
    ฝรั่งตายกันเป็นหมื่น เพราะเจอคลื่นความร้อนสูงในยุโรป และไม่ได้ตายแบบฉับพลันเหมือนน้ำท่วม น้ำท่วมจมน้ำก็ตายเลย แต่ว่าคลื่นความร้อนมันทำให้ตายช้าๆ เช่น เป็นโรคหัวใจ หรือว่าช็อคหมดสติ แต่ไม่ได้ตายทันที ก็ไปยื้อไปตายที่โรงพยาบาล บางคนป่วยอยู่แล้วก็ทำให้ป่วยหนัก แล้วก็ตายหลังจากนั้นอีก 2-3 เดือน ตอนที่มีคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในยุโรปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ทำให้มีคนตายจากสภาพที่ว่ามานี้รวมๆ ราว 70,000 จนเฉียดแสน
    บางคนบอกว่าอากาศร้อนก็ติดแอร์สิ จะติดแอร์มันก็ติดได้เฉพาะบางบ้านบางอาคาร แต่ถ้าติดกันหมดก็ใช้ไฟกันหนัก ไฟก็ดับ พอไฟดับก็เดือดร้อนกัน อันนี้ก็ต้องคิดถึงการปลูกต้นไม้ มันยั่งยืนกว่า ปลูกต้นไม้ไม่ใช่เฉพาะรอบบ้าน แต่ว่ารอบพื้นที่ รอบหมู่บ้าน รอบบริเวณเรียกว่าละแวกบ้าน มันช่วยได้เยอะ
    ถ้าปลูกต้นไม้ที่เลือกสรรดีๆ มันช่วยลดอุณหภูมิในละแวกบ้านได้หลายองศาเลยทีเดียว อาจจะไม่เย็นสบายเท่าแอร์ แต่ว่ามันสามารถจะทำได้ทั่วทั้งละแวกบ้าน ทั่วทั้งบริเวณกว้าง แล้วก็ช่วยลดฝุ่นด้วย ตอนนี้คนก็ไม่บ่นเรื่องฝุ่นแล้ว แต่พอถึงหน้าร้อนก็บ่นเรื่อง PM 2.5 พอฝนมาก็เงียบ
    ก็เหมือนกับช่วงแผ่นดินไหว ตื่นตระหนกตกใจกันมาก บางคนหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปหลายวัน ข้าวของอะไรตกหล่นพื้นก็ตกใจ บางคนนอนแล้วก็สะดุ้งตื่น เรียกว่าเกิดอาการประสาทเพราะความตื่นกลัวตอนที่เกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปไม่ค่อยกระตือรือล้นเท่าไหร่แล้ว ว่าอาคารที่เราอยู่มีการเตรียมการแค่ไหนเพื่อรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะตึกสูงๆ
    ตอนเกิดโควิดใหม่ๆ ก็ตื่นตระหนกตกอกตกใจกันมาก อยู่ใกล้กันไม่ได้ ใครมาอยู่ใกล้ก็ผลัก เกิดอาการประสาทเพราะกลัวติดเชื้อโควิด หลายคนลืมไปแล้วตอนปี 64 วิกฤตมาก หลายคนต้องตายในบ้านเพราะว่าไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลเต็ม เตียงยังไม่มี แต่ตอนนี้ก็ประมาทกันแล้ว เรามักจะเหวี่ยง ตอนเกิดเหตุใหม่ๆก็ตื่นตูมจนก็เกิดอาการประสาท แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปก็ประมาท เกิดความชะล่าใจ
    ตอนนี้คนก็ยังประมาทกันอยู่เรื่องโลกร้อน อาจจะตื่นตูมกันหน่อยตอนหน้าร้อน หรือตอนเกิดน้ำท่วมก็บ่น ว่าเป็นเพราะโลกร้อนโลกร้อน แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม จากประสาทก็กลายเป็นประมาทไป
    นี่มันเรื่องใหญ่นะ เพราะว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หมู่บ้านหนึ่งในประเทศสวิส สวยมากเลย เป็นภาพในโปสการ์ด แต่ว่าตอนนี้จมอยู่ในโคลนไปแล้ว เพราะว่าธารน้ำแข็งหรือกราเซียที่อยู่บนภูเขา ห่างไกลจากหมู่บ้านเป็นกิโลๆ ตอนที่มันเป็นภูเขาน้ำแข็งก็สวย แต่พอมันละลายเพราะความร้อน มันกลายเป็นมวลน้ำที่ทะลักลงมา พาเอาดินลงมาด้วย ดินภูเขากลายเป็นโคลนลงมากลบทั้งหมู่บ้าน ไม่เหลือเลย เป็นข่าวใหญ่ แต่โชคดีนะเขาอพยพผู้คนหนีไปก่อน ก็เลยเสียหายแต่เฉพาะทรัพย์สินและก็บ้านเรือน
    มันเป็นข่าวที่เชื่อได้เลยว่า โลกร้อนมาแน่ แล้วก็กำลังเกิดสร้างพิบัติที่ใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ
    ก่อนหน้านี้ แถวอาร์กติก กับ แอนตาร์กติก ขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ น้ำแข็งละลาย พวกหมีหิมะ หมีขาวเดือดร้อนกันมาก คนก็ไม่รู้สึก แต่ตอนนี้ความเดือดร้อนมันใกล้ตัวมาทุกที ก็มาถึงยุโรป ต่อไปก็จะมาถึงเมืองไทย อาจจะไม่ใช่น้ำแข็งละลายเพราะไม่มีอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะเกิดน้ำท่วม พายุหนัก ฝนแล้ง เผลอๆเจอคลื่นความร้อนเข้าไปอีก
    ถามตัวเองว่าพร้อมหรือยัง เตรียมตัวอะไรบ้างหรือยังในการที่จะรับมือกับเรื่องนี้อีก 5 ปีข้างหน้า เพราะว่า 86% เรียกภาษาชาวบ้านคือชัวร์ โลกจะอุณหภูมิสูงกว่าเดิม 1.5 องศา อาจจะเหยียบ 2 องศาด้วย อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เตรียมตัวไว้ แล้วก็ช่วยกันทำให้ภัยพิบัติรุนแรงน้อยลง เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ อย่าให้เกิดเรื่องแล้วค่อยประสาท แล้วพอเหตุการณ์ผ่านไปก็ลืม ประมาท เหมือนกับที่ผ่านๆมา .

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service