พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรและศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต 10 เมษายน 2567
มีผู้ชายคนหนึ่งมากับลูก ๆ ขับรถผ่านอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง เขาขับแบบไม่รีบเพราะว่าอาจจะมีสัตว์วิ่งตัดหน้ารถ จู่ ๆ ปรากฏว่ามีช้าง เป็นลูกช้างวิ่งไล่ตามรถ ทีแรกเขาก็คิดว่า เออ..ช้างคงอยากจะเล่นกับคน แต่ว่าเขามีธุระก็เลยไม่ได้หยุดเพื่อที่จะทักทายช้าง ขับไปเรื่อย ๆ
แต่ช้างก็วิ่งตามมา ตามมาไกลเลย เด็กในรถคือลูกชาย ก็บอกพ่อว่า "พ่อ สงสัยลูกช้างมันคงอยากให้เราทำอะไร หรืออยากให้เราช่วย พ่อก็เลยหยุดรถ
พอหยุดรถ ลูกช้างทำยังไง หันหลังกลับ วิ่งกลับไปทางเดิม แปลว่าอะไร ให้ตามมันไป พ่อก็เลยขับรถคราวนี้ตามช้าง เมื่อกี้ช้างตามรถแต่คราวนี้รถตามช้างแล้ว ตามลูกช้างไปถึงจุด ๆ หนึ่ง ลูกช้างก็หยุด รอรถ พอรถหยุด คนลงจากรถ ลูกช้างก็เดินนำคนเข้าไปในป่าไม่ไกล เจอแบบนี้แปลว่าอะไร ช้างจะหลอกเราหรือเปล่า
ช้างไม่ได้หลอก อยากให้ไปช่วยแม่ที่ป่วยนอนซมเลย คนก็เข้าไปปฐมพยาบาล เรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเยียวยาพยาบาลช้าง ระหว่างนั้นลูกช้างก็อยู่ใกล้ ๆ แม่ ส่วนคนครอบครัวนั้นก็คอยดูแลจนกระทั่งแม่ช้างมีอาการดีขึ้น คือฉีดยา พอฉีดยาก็ดีขึ้น ลุกขึ้นได้ ลูกช้างดีใจ แม่ช้างก็ขอบคุณ
เรื่องนี้สอนอะไรเรา สอนได้หลายอย่าง 1) ความเมตตากรุณาของคนที่มีต่อช้าง 2) ความกตัญญู ลูกช้างเห็นแม่ป่วย ลูกช้างทนไม่ได้ ยอมเสี่ยงวิ่งไล่ตามรถ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะว่าลูกช้างก็ไม่ค่อยคุ้นกับคน แต่ลูกช้างก็ยอมเสี่ยงเพื่อใคร เพื่อแม่ นี่เราเรียกว่าความกตัญญู
เวลาแม่ป่วยลูกช้างก็อยากจะช่วยเหลือแม่ อย่างนี้เรียกว่าความกตัญญูกตเวที เวลาแม่เราป่วย เราคิดถึงแม่ อยากช่วยแม่บ้างไหม ถามแม่ไหมว่าแม่เป็นอะไร อยากได้ยาไหม ยาพาราหรือว่ายาลดไข้ เราถามแม่สักหน่อย หรือไม่ก็ช่วยโยมแม่หรือคุณแม่
เมื่อเรากลับไปที่บ้าน ช่วยงานบ้าน หรืออย่างน้อยก็ไม่ไปทำตัวเป็นภาระให้แม่ต้องเหนื่อยกับการเก็บที่นอน เก็บเสื้อผ้าของเรา คนเรานี้ควรจะมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ นอกจากนี้ควรจะมีน้ำใจ แม้จะไม่ใช่พ่อแม่ แม้จะไม่ใช่คนรู้จัก หรือแม้แต่จะเป็นสัตว์ที่เดือดร้อนก็ต้องช่วย หรือควรจะช่วย
มีชายหนุ่มคนหนึ่งจบ ม.6 เวลาเรียนจบ ม.6 อย่างบ้านเราก็เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ชายหนุ่มคนนี้บอกว่าอยากจะท่องโลกสักพักหนึ่งก่อนจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่จะท่องโลกได้ก็ต้องมีเงิน จะเอาเงินมาจากไหน ขอเงินแม่หรือเปล่า ขอเงินพ่อหรือเปล่า เขาไม่ทำกัน
เขาทำงาน พ่อก็รวยเป็นหมอ แม่ก็เป็นพยาบาล แต่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ขอเงินพ่อแม่ ในเมื่อตัดสินใจว่าจะไม่เรียนต่อในช่วงนี้ เพราะจะไปท่องโลก ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ก็เลยไปทำงาน ไปทำงานที่ไหน ที่โรงเลื่อยตัดไม้แถวอลาสก้า เขาอยู่อเมริกา
เขาไปทำงานขายแรงงานตัดไม้ที่อลาสก้า ที่นี่มีป่าไม้ต้นไม้ใหญ่ ได้เงินก็ไม่มากแต่ว่าได้ประสบการณ์ วันหนึ่งขึ้นเขาไปตัดไม้ ปรากฎว่าเจออะไร เจอหมาป่า แต่หมาป่าตัวนี้กำลังหมดสภาพเพราะว่ามันถูกหนีบด้วยกับดัก เครื่องดักสัตว์มันหนีบขาเอาไว้ ชายหนุ่มคนนี้ สมมติชื่อจอห์น เห็นเข้าก็อยากจะไปช่วย
แต่พอเขาเข้าไปใกล้หมา มันเห่า คำราม แววตามันดุดันมาก ทำไมมันเห่าคำราม เพราะมันกลัวคนจะทำร้าย จอห์นต้องการช่วยแต่ว่ามันไม่ยอมให้ช่วยเพราะมันคิดว่าคนจะไปทำร้ายมัน จอห์นทำยังไง ก็เลยอยู่ห่าง ๆ แต่ว่าหาอาหารให้มัน
ตอนที่เอาอาหารไปโยนให้มันก็สังเกตเห็นที่นม มันมีคราบน้ำนมเป็นทางเลย แสดงว่ามันเป็นแม่ลูกอ่อน มีลูก แล้วลูกมันอยู่ไหน ต้องตามหาแล้ว เพราะถ้าลูกไม่มีแม่มาให้นม ลูกต้องตาย ก็ไปตามหาจนเจอรังของมัน มีลูก 4 ตัว ยังไม่อดนมเลย ก็เอาลูก 4 ตัวนี้มาวางไว้ใกล้ ๆ แม่ แม่จะได้ให้นมลูก
จอห์นคิดอยากจะช่วย เขารู้ว่าถ้าหมาตัวนี้ถูกจับในป่า มันช่วยตัวเองไม่ได้ เกิดมีสัตว์ร้ายมาเล่นงานมัน มันก็จะตายพร้อมลูก กลางคืนเขาต้องกางเต็นท์นอนเฝ้า พอตอนกลางวันไปทำงานก็เอาอาหารมาให้แม่จิ้งจอก
หลังจากที่ทำเช่นนี้ไป 5 วัน แม่จิ้งจอกกระดิกหาง แปลว่าอะไร เริ่มไว้ใจแล้ว ทำต่อไปวันที่ 6 วันที่ 7 วันที่ 8 คราวนี้มันยอมให้เข้าใกล้แล้ว จอห์นก็เลยยอมเสี่ยงเข้าไปใกล้มัน แล้วก็ช่วยให้มันอิสระ พอมันเป็นอิสระ มันทำอย่างไร มันเลียมือของจอห์น แล้วก็ยอมให้จอห์นเอายาทาแผล แล้วมันก็ลุกพาลูก 4 ตัวเดินเข้าป่า
เดินไปได้สักพักมันก็เหลียวหน้าหันมามองจอห์นด้วยแววตาที่อ่อนโยน ไม่ดุตันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เหมือน 6 วันก่อน เสร็จแล้วมันก็ชูคอส่งเสียงร้องยาว ๆ เบา ๆ แปลว่าอะไร ขอบคุณ
จอห์นบอกว่านี่คือประสบการณ์ที่มีค่ามาก เพราะนอกจากเขาจะได้ช่วย 5 ชีวิตให้รอดตายแล้ว เขายังพบความสุขจากการช่วยสัตว์ แม้เขาจะต้องเหนื่อยเดินขึ้นเขาทุกวัน แล้วก็ต้องนอนกางเต้นท์กลางค่ำกลางคืนหนาว อลาสก้านี้มันหนาว แต่ก็มีความสุข
และที่สำคัญเขาได้บทเรียน นอกจากได้ความสุขแล้ว ก็ได้บทเรียนด้วย ว่าในเมื่อเราสามารถที่จะทำให้สัตว์ร้ายมาเป็นมิตรของเราได้ ทำไมเราจะทำให้คนที่เขาทำไม่ดีกับเรา กลับมาเป็นมิตรกับเรา หมาจิ้งจอกมันดุร้าย แต่ก็ยังกลายเป็นมิตรกับเขาได้ เพราะอะไร เพราะน้ำใจ เพราะความช่วยเหลือ เพราะความจริงใจ
เพราะฉะนั้น คนก็เหมือนกัน คนจะดุร้ายอย่างไรแต่ถ้าเราให้ความจริงใจ ให้ความเป็นมิตรกับเขา เขาก็จะกลายมาเป็นมิตรกับเรา
เขาบอกว่า นี่คือประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก และเขาก็เลยตั้งใจว่าเมื่อเขาเจอใครก็ตาม เขาก็จะสันนิษฐานว่าเป็นคนดีไว้ก่อน แล้วเขาก็จะทำดีกับคนเหล่านั้น จริงใจกับคนเหล่านั้น แม้บางคนจะดูก้าวร้าว ดูหยาบคาย
แต่จอห์นก็จะใช้ความจริงใจ ใช้ความเป็นมิตร เหมือนกันที่เขาทำกับหมาจิ้งจอกตัวนั้น และเพราะว่าทำอย่างนี้มันได้ผล เขาก็เลยมีมิตร มีเพื่อน มีคนรัก ไม่ว่าจะที่มหาวิทยาลัยหรือที่ทำงาน พอเขาทำงานจบเขาก็ท่องโลก ท่องโลกเสร็จก็ไปเรียนเข้ามหาวิทยาลัยเป็นวิศวกร
เขาบอกว่าชีวิตเขาราบรื่นมากเพราะว่าเขามีเพื่อนทุกที่เลย เพื่อนนี้ไม่ได้ว่าดีกับเขาเปล่า ๆ แต่ว่าเป็นเพราะเขานี้ได้ทำความดี มีน้ำใจให้กับคนเหล่านั้นก่อน เป็นฝ่ายให้ก่อนจึงได้รับความเมตตา ความเอื้อเฟื้อความมีน้ำใจจากคนรอบข้าง
นี่คือ เขาได้บทเรียนจากหมาจิ้งจอก หมานี้ก็สอนธรรมให้กับเราได้ เป็นประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งกว่าวิชาที่เรียนในโรงเรียนเสียอีก เรียนในโรงเรียนเรียน ในมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้วิชาอะไรก็ไม่มีค่าเท่ากับประสบการณ์ครั้งนั้น อันนี้ก็เป็นเรื่องที่อยากจะมาเล่าให้ฟัง.