พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 9 เมษายน 2567
มีหมอใหญ่คนหนึ่ง เขาพูดเตือนเอาไว้ โดยเฉพาะสำหรับคนสูงวัย หมอบอกว่า คนเราจะล้มกี่ครั้งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อย่าล้มตอนแก่ เพราะว่าถ้าล้มตอนแก่แล้ว ผลกระทบมันร้ายแรง
ตอนเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่นล้มกี่ครั้ง ๆ ก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าพอสูงวัยแล้ว การล้มเพียงครั้งเดียว ก็อาจจะมีผลร้ายแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว
มันไม่ใช่แค่แขนหัก แขนหักยังไม่เท่าไหร่ แต่ว่าถ้าเกิดสะโพกหัก หรือว่ากะโหลกร้าว สมองบวม เป็นอัมพาตนี่ก็แย่เลย
แต่หมอบอกว่ายังมีแย่กว่านั้น ก็คือการนอนติดเตียง สะโพกหัก ขาหัก หรือว่าเป็นอัมพาตนี่ ถ้านอนติดเตียงเมื่อไหร่ เรื่องยาวเลย เพราะนอนติดเตียง ก็ต้องใช้สายสวนปัสสาวะ ก็มีโอกาสที่จะกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ
แล้วเนื่องจากต้องนอนตลอดเวลา เวลากินอาหาร กินในท่านอนก็มีโอกาสสำลักอาหาร สิ่งที่ตามมาคือปอดติดเชื้อ แล้วยิ่งกว่านั้น พอแขนขา โดยเฉพาะขา ถ้าขยับไม่ได้ มันก็อาจจะมีลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ
เพราะว่าเลือดดำของเรา จะไหลเวียนเข้าสู่หัวใจได้ มันก็ต้องอาศัยการเดิน การขยับ ไม่เหมือนกับเลือดแดง เลือดแดงมีหัวใจคอยบีบปั๊มส่งไปเลี้ยงตามร่างกาย แต่พอกลายเป็นเลือดดำแล้ว ต้องอาศัยกล้ามเนื้อขาในการขยับ เพื่อให้เลือดมันไหลขึ้นไปสู่หัวใจ
พอขาเราไม่ขยับ ฝเพราะว่านอนติดเตียง หรือแม้แต่นั่งนานๆ เช่น นั่งเครื่องบินนานๆ โอกาสที่จะมีลิ่มเลือดก็มีสูง ลิ่มเลือดถ้ามันขึ้นไปถึงหลอดเลือดหัวใจ อุดตันได้ ก็ตายได้
และถึงแม้จะยังไม่เกิดอาการที่ว่า แต่แค่ปอดติดเชื้อ กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ นี่ก็เป็นภาระของลูกหลาน ต้องมาคอยดูแล และเดี๋ยวนี้ลูกหลานก็ไม่ค่อยมีเวลา ลูกก็น้อย หลานก็ไม่มาก คนหนึ่งป่วยนี่เรียกว่าทั้งบ้านเดือดร้อนกัน อันนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้สูงวัยจำนวนมาก
อีกอันหนึ่งที่หมอเตือนเลยว่าต้องระวัง นอกจากการล้ม ก็คือการสำลัก ตอนเด็กๆ ตอนเป็นหนุ่มสาว สำลักนี่อาจจะเกิดขึ้นน้อย หรือเกิดขึ้นก็ไม่รุนแรง แต่ถ้าเป็นผู้สูงวัย โอกาสสำลักมีมาก เพราะอะไร
เพราะว่ากล้ามเนื้อที่คอยปิดหลอดลม มันเริ่มหย่อน และเริ่มจะทำงานไม่ค่อยดี เวลาเรากินอาหาร กล้ามเนื้อส่วนนี้มันจะปิดหลอดลม ทำให้อาหารไม่เข้าไปทางหลอดลมได้
แต่พอแก่ตัวเข้า มันเริ่มสับสนนะ มันไม่ปิดหลอดลมแล้ว เรากินอาหารเข้าไป บางทีอาหารมันก็หลุดเข้าไปในหลอดลม หรือกินน้ำเข้าไป น้ำก็เกิดทะลักเข้าไปในหลอดลม เรียกว่าปอดติดเชื้ออย่างเบาๆ
หรืออย่างแรงก็คือว่ามันอุดตัน หายใจไม่ได้ หายใจไม่ได้จะเป็นอย่างไร สมองก็ตาย เป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทรา หรือมิฉะนั้นก็ตายไปเลย แต่ถ้าตายไปเลยก็ยังดีกว่าเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายนิทรา เพราะว่าอาจจะยืดยาวไปเป็น 10 ปี กว่าจะตายเอง
ก็เตือนกัน เวลากินอาหาร ถ้าขณะที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ ผู้สูงวัยอย่าเพิ่งกินน้ำ เพราะถ้ากินน้ำเข้าไปมันอาจจะไหลเข้าไปในหลอดลมได้
ตอนหนุ่มๆ สาวๆ หลอดลมมันถูกปิดกั้นเอาไว้ น้ำมันไหลเข้าไปไม่ได้ แต่พอแก่แล้ว หลอดลมนี่มันปิดกั้นแบบไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ น้ำที่กินเข้าไปขณะที่เคี้ยวอาหาร มันก็เข้าไปทางหลอดลม ปอดติดเชื้อ หรือสำลักเวลากินน้ำให้ กินตอนปากว่าง ไม่ใช่ไปกินตอนเคี้ยวอาหาร และตอนกินน้ำใช้หลอดดูดได้ยิ่งดี
แล้วก็ยังแนะนำอีกว่าเวลากินอาหาร อย่าพูดคุย หรืออย่าหันหัว กินอาหาร เคี้ยวอาหาร อร่อยก็จริง เวลาพูดคุย มีงานเลี้ยงปาร์ตี้สนุกสนาน เจอเพื่อนเก่า เจอลูกเจอหลาน คุย อาจจะเคี้ยวอาหาร เศษอาหารก็สามารถจะเข้าไปในหลอดลม ถ้าไม่ทำให้ปอดติดเชื้อ ก็ทำให้อุดตัน อุดตันแล้วเป็นอย่างไร ตาย หรือว่าสมองตาย เป็นกันเยอะเลย อาหารอุดตัน หายใจไม่ออก
ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ บางคนก็อาจจะใช้วิธีการสำลัก สำลักนี่ก็เป็นปฏิกิริยาของร่างกาย เพื่อทำให้อาหารมันหลุดจากหลอดลม บางทีก็ต้องสำลักแรงๆ บางทีก็เส้นเลือดแตกเลย สารพัดปัญหา
เพราะฉะนั้นเวลากินโดยเฉพาะผู้สูงวัย ที่ต้องระมัดระวังมากก็คือต้องมีสติระหว่างกิน ซึ่งมันก็ยาก เพราะว่าแต่ก่อนคุยไปกินไปก็ได้ เคยทำมาก่อน ตั้งแต่เล็กจนโต จนหนุ่มจนสาว จนวัยกลางคน มันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว
เวลากินข้าว ก็ดื่มน้ำตามเข้าไป เคี้ยวข้าวดื่มน้ำ ไม่มีอะไร แต่ก่อนน่ะเคยทำได้ สมัยยังเด็ก ยังหนุ่มยังสาว ยังอยู่ในวัยกลางคน แต่พอสูงวัยแล้ว สิ่งที่เคยทำได้ ไม่ได้แปลว่าจะทำได้อีกต่อไป มันทำไม่ได้
แต่ว่านิสัยความเคยชิน ทำมาตลอดชีวิต มันก็อดไม่ได้ พอไม่ระวังเข้า ก็เกิดปัญหา เพราะร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว
ผู้สูงวัยต้องระวังมาก เรื่องการล้ม กับการสำลัก ถ้าเจออย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างนี้ ก็อาจจะแย่ได้ ตอนหนุ่มตอนสาวล้มเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร แต่พอแก่แล้ว เป็นเรื่องใหญ่เลย ล้มครั้งเดียว หรือสำลักก็เหมือนกัน สำลักครั้งเดียว หรือว่าเผลอ ปล่อยให้อาหารมันอุดตันหลอดลม ก็ถึงตายได้ หรือไม่ก็ป่วยหนัก
ฉะนั้น เรื่องการมีสติในระหว่างการกินอาหาร ในระหว่างการเดิน สำคัญมาก แต่ก่อนเดินใจลอยก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้พอแก่ตัวแล้ว ทำอย่างนั้นลำบากแล้ว ฝึกสติไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ไม่ใช่ไปฝึกเอาตอนแก่ๆ ถึงตอนนั้นก็อาจจะเผลอ หรืออาจจะสายไปแล้วก็ได้.