พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 7 เมษายน 2567
มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไร นั่นก็คือว่า เขาพบว่าคนอายุไม่มาก คือตั้งแต่ 50 ลงมา เป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต แต่ก่อนมะเร็งมักจะเกิดขึ้นกับคนมีอายุ หรือ ส.ว. พอมีอายุมากก็มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งสูง แต่เดี๋ยวนี้เขาพบว่าแม้อายุไม่มาก คือวัยกลางคนหรือว่าหนุ่มสาวก็เป็นมะเร็งกันมากขึ้น
เขามีตัวเลขพบว่าในช่วงปี 1990 (พ.ศ.2533) ถึงปี 2019 (พ.ศ.2562) ในช่วงเวลาเกือบ 30 ปีนี้ คนที่อายุไม่มากเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขที่สูงมาก และมะเร็งที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ ก็คือ มะเร็งเต้านม แต่ถ้าผู้ชายหรือคนทั่วไปก็คือมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นกันเยอะมากในหมู่คนที่อายุต่ำกว่า 50 อันนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศที่ร่ำรวย เมืองไทยเราก็เหมือนกัน
แล้วเขามีการเปรียบเทียบว่า คนที่เกิดตั้งแต่ปี 2533 หรือ 1990 เมื่อเทียบกับคนที่เกิดปี 2493 จะมีแนวโน้มโอกาสเป็นมะเร็งเกี่ยวกับลำไส้ เช่น คนที่เกิดปี 2533 มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็น 2 เท่าของคนที่เกิดปี 2493 และถ้าพูดถึงมะเร็งลำไส้ตรง คนเกิดปี 2533 มีโอกาสเป็นมะเร็งชนิดนี้สูงเป็น 4 เท่าของคนที่เกิดปี 2493 นี่เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก
แล้วเกิดคำถามขึ้นมาว่า เป็นเพราะอะไร พบว่าตัวการที่สำคัญก็คืออาหาร และการใช้ชีวิต รวมทั้งสิ่งแวดล้อมด้วย อาหารที่ว่านั้นเป็นอาหารที่ผ่านการปรุงแต่ง ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมมาก มีการเติมแต่งสูงด้วยสารเคมี
รวมทั้งการกินของหวานเยอะ เช่น น้ำอัดลมหวาน แต่เดี๋ยวนี้ความหวานไม่ได้มีอยู่เฉพาะในน้ำอัดลม แม้กระทั่งโยเกิร์ต นมเปรี้ยว น้ำผลไม้ หรือว่าชา ชาเขียวนี่น้ำตาลสูงมาก รวมทั้งกินเนื้อ กินไขมันเยอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการกินเหล้า สูบบุหรี่ หรือว่าการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งมันทำให้เป็นโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ เขาสงสัยว่าจุลชีพในกระเพาะของคนเราตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงไประหว่างรุ่น คนอายุมากจุลชีพในกระเพาะอาหารอาจจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากเท่ากับคนที่อายุต่ำลงมา เขาพบว่าเดี๋ยวนี้จุลชีพในกระเพาะอาหารมีความสำคัญมากทั้งต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งสมอง และอาจจะเกี่ยวพันกับการเกิดหรือไม่เกิดมะเร็งด้วยก็ได้
เขาสันนิษฐานว่า อาหารที่คนสมัยใหม่กินคงจะไปทำลายหรือทำให้เกิดความผันผวนในระบบจุลชีพในกระเพาะอาหาร หรือกระทั่งการกินยาปฏิชีวนะ กินยาปฏิชีวนะมาก ๆ ก็ไปฆ่าจุลชีพในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะพวกแบคทีเรีย และรวมทั้งยาที่เรากินกันสารพัด อาจจะเป็นยาแก้ปวดก็ดี หรือว่ายาสารพัดก็ดี ไปทำให้ระบบจุลชีพแปรเปลี่ยนไป ตอนนี้เขาสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวพันกับการที่คนรุ่นใหม่เป็นมะเร็งกันมากขึ้น
และตัวการหนึ่งที่เขาสงสัย นั่นก็คือการคลอด เด็กที่ผ่านการคลอดแบบผ่าท้องมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งสูง เพราะว่าการที่ไม่ได้คลอดตามธรรมชาติทำให้โอกาสที่จะได้รับจุลชีพจากแม่ทางช่องคลอดน้อยลง เด็กได้รับจุลชีพจากแม่ผ่านการคลอดตามธรรมชาติ แต่โอกาสนี้หมดไปเพราะว่าผ่าท้องเพื่อคลอด เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ทำกันเยอะ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะได้รับจุลชีพจากแม่ก็น้อย จุลชีพในกระเพาะอาหาร รวมทั้งในลำไส้ต่าง ๆ ของเด็ก พอโตขึ้นมาก็จะไม่สมบูรณ์ ซึ่งก็อาจจะมีส่วนทำให้เกิดเป็นมะเร็งได้
นี่เป็นเรื่องที่เขากำลังศึกษากันอยู่ แล้วมีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นไปได้ เป็นเรื่องที่เราควรจะรู้ไว้ โดยเฉพาะคนที่อายุต่ำกว่า 50 ลงมาจะต้องใส่ใจเรื่องอาหาร เรื่องการบริโภค เรื่องการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้เราจะพบว่าคนอายุไม่มากเป็นมะเร็งกันเยอะ 40 ก็เป็นกันแล้ว บางที 20-30 ก็เป็นกันแล้ว บางที 10-20 ขวบก็เป็นกันแล้ว อาจจะเป็นเพราะเหตุปัจจัยอย่างที่ว่ามาก็ได้
เพราะฉะนั้น เวลาเรากินอาหารให้เราคำนึงถึงเรื่องพวกนี้ด้วย อย่าคำนึงแต่ความอร่อย แต่ก็อย่าประสาทเกินไป ประสาทเกินไปก็ไม่ดี ทำให้ผวา แล้วเกิดความคิดปรุงแต่งมากมาย.