พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 31 มีนาคม 2567
เมื่อสัก 30 กว่าปีมาแล้ว มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งในอเมริกาเขาต้องการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคอเลสเตอรอลกับโรคหัวใจ ตอนนั้นความรู้ของเราเกี่ยวกับเรื่องโรคหัวใจยังน้อยกว่าตอนนี้มาก
แล้วมีทฤษฎีว่า คอเลสเตอรอลสูง ๆ มีผลทำให้เกิดโรคหัวใจ แต่เขาอยากจะรู้ให้แน่ชัด จึงทำการทดลอง ไม่ได้ทดลองกับคน ทดลองกับสัตว์ สัตว์ที่ว่านี้ก็คือกระต่าย
เขาเอากระต่ายมาทดลองหลายสิบตัว ใส่ไว้ในกรง แล้วกรงเยอะมาก จึงต้องแบ่งเป็น 2 ชั้น กรงล่างกับกรงบน กรงบนก็สูง กระต่ายที่อยู่ในกรงนี้ได้รับอาหารเหมือนกัน คืออาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ๆ หลังจากผ่านไปหลายเดือน เขามาตรวจว่ากระต่ายเหล่านี้หัวใจเป็นอย่างไร
สิ่งที่เขาพบทำให้เขาแปลกใจมาก เขาบอกว่ากระต่ายในกรงชั้นบนจะป่วยเป็นโรคหัวใจมากกว่ากระต่ายในชั้นล่าง เขาแปลกใจเพราะว่าอาหารที่ให้เหมือนกัน มีคอเลสเตอรอลสูง ๆ เขาพยายามศึกษาตัวแปรตัวอื่น ๆ เช่น การถ่ายเทของอากาศ และอย่างอื่นด้วย พบว่าเหมือนกันทั้งกรงบนและกรงล่าง
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาสังเกตว่า คนเลี้ยงมักจะชอบพูดชอบคุยกับกระต่ายในกรงล่าง บางทีก็เอาออกมาลูบ คุยด้วย เพราะว่ากระต่ายน่ารัก คนเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เห็นว่ากระต่ายน่ารักก็ลูบบ้าง คุยบ้าง จับมาอุ้มบ้าง เขาจึงพบว่านี่คือตัวแปรสำคัญ
ตัวที่อยู่ในกรงบน คนไม่ได้แตะเพราะว่ามันอยู่สูง ไม่ได้มีการพูดคุย คนเลี้ยงไม่ได้พูดคุยกับมัน ไม่ได้จับมาลูบหรือเอาออกมาจากกรงมาพูดคุยด้วย
เขาไม่แน่ใจ เขาจึงเปลี่ยนใหม่ คราวนี้แบ่งกระต่ายเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้รับการสัมผัส การเล่น การพูดการคุยจากคนเลี้ยง อีกกลุ่มหนึ่งอยู่แต่ในกรง ไม่มีการสัมผัส ไม่มีการพูดคุยกับคน กรงหนึ่งก็ตัวหนึ่ง แล้วพบว่า อย่างที่คิด สัตว์กลุ่มแรกที่ได้รับการสัมผัสกับคน ได้รับการลูบไล้จากคน โรคหัวใจมีน้อยกว่า เขาดูจากหลอดเลือดหัวใจมีภาวะแข็งตัวน้อยกว่าอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มีการสัมผัส ไม่ได้มีการพูดคุยกัน น้อยกว่าถึง 60 เปอร์เซ็นต์
แสดงว่าอะไร แสดงว่าการสัมผัส การพูดคุย มีผลต่อโอกาสที่จะเกิดโรคหัวใจหรือไม่ก็ได้ เขาจึงพบว่าโรคหัวใจไม่ได้ขึ้นอยู่กับคอเลสเตอรอลอย่างเดียว แต่ขึ้นกับภาวะอารมณ์ด้วย
เพราะว่ากระต่ายทั้ง 2 กลุ่ม ถ้าพูดถึงระดับคอเลสเตอรอลในอาหาร การเต้นของหัวใจ ความดันเลือด เหมือนกัน เท่ากัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเดียวก็คือว่าการได้รับความเอ็นดู ความรัก ความห่วงใยจากคน แปลว่าอะไร แปลว่ากระต่ายที่ได้รับความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่จากคน มีโอกาสจะเป็นโรคหัวใจน้อยกว่ากระต่ายที่ถูกปล่อยอยู่ตัวเดียว
อันนี้เป็นความรู้ใหม่ที่ทำให้ตอนหลังเขาพบว่า โรคหัวใจไม่ได้เกี่ยวกับคอเลสเตอรอลอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับอารมณ์ด้วย เช่น ความเครียด ความเหงา อันนี้เป็นเรื่องอารมณ์แท้ ๆ คนที่มีคอเลสเตอรอลต่ำหรือปกติ ความดันปกติ แต่ว่ามีสิทธิ์เป็นโรคหัวใจได้ หลอดเลือดแข็งตัว หรือเลือดอุดตัน เพราะอะไร เพราะว่าอยู่คนเดียว เหงา หรือเครียด
มีการวิจัยที่มหาวิทยาลัย Harvard ประเทศอเมริกา เขาจัดทำตั้งแต่เมื่อก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 และทำต่อเนื่องเรื่อยมา ผู้วิจัยเปลี่ยนมา 4 รุ่นแล้ว คนที่ได้รับการวิจัยตอนนี้ก็เข้าสู่รุ่นที่ 3 แล้ว ศึกษาต่อเนื่องกันมา 80-90 ปี ดูทั้งเรื่องของสุขภาพร่างกาย แล้วก็พิจารณาแม้กระทั่งเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องการงาน เรื่องอาชีพ เรื่องฐานะทางเศรษฐกิจ เรื่องสีผิว
เขาได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือว่า สำหรับคนอายุ 50 คอเลสเตอรอลจะสูงหรือต่ำ ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าพออายุ 60-70 จะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า ตัวบ่งชี้คืออะไร คือความรู้สึกพอใจกับชีวิต โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่มีอยู่ บางคนคอเลสเตอรอลต่ำ แต่ว่ามีปัญหากับครอบครัว มีชีวิตคู่ที่ร้าวฉาน หรือบางคนเหงา เขาพบว่า ผ่านไป 10 ปี 20 ปี โอกาสเป็นโรคหัวใจ หรือตายเพราะโรคหัวใจสูงมาก
เขาบอกว่าตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าสุขภาพจะเป็นอย่างไรใน 10 ปี 20 ปีข้างหน้าสำหรับคนวัยกลางคนก็คือ อารมณ์ ซึ่งสัมพันธ์กับเรื่องของความสัมพันธ์
ฉะนั้น ทุกวันนี้คนเราแม้ว่าจะคุมอาหารอย่างไร แต่ตราบใดที่ชีวิตหงอยเหงา ซึมเศร้า หรือว่าเครียด ไม่ได้แปลว่าจะปลอดพ้นจากโรคหัวใจ แล้วก็ไม่แปลกที่ปัจจุบันนี้คนเป็นโรคหัวใจเยอะมาก ตายเพราะโรคหัวใจกันสูงมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะอาหาร แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าความเหงา ความว้าเหว่ ไร้เพื่อน หรือถึงแม้จะมีครอบครัวแต่ว่าก็ร้าวฉาน
และความเหงาก็สำคัญเหมือนกัน เป็นกันเยอะมาก เพราะเดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็ถือคติ No สน No แคร์ ฉันไม่สนไม่แคร์ใคร ไม่สนใครแล้วก็ไม่มีใครมาสนตัวเองด้วย จึงหงอยเหงา สุดท้ายถ้าไม่เป็นมะเร็งก็เป็นโรคหัวใจ หรือไม่ก็โรคสมอง โรคหลอดเลือดสมอง Stroke อัมพฤกษ์อัมพาต อันนี้เป็นธรรมดาของยุคปัจจุบันนี้ไปแล้ว