พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรและศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต วันที่ 29 มีนาคม 2567
ลูกเณร ลูกศีล มีใครรู้จักจตุจักรบ้าง จตุจักรคืออะไร จตุจักรคือ เขต เขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ชื่อว่าเขตจตุจักร และ เป็นชื่อตลาดที่อยู่ในเขตนั้น จึงชื่อว่าตลาดจตุจักร
อย่าไปจำสลับกับตลาดจัตุรัสนะ รู้จักจัตุรัสหรือเปล่า จัตุรัสก็เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เป็นชื่ออำเภอ อำเภอจัตุรัส
ตลาดจตุจักรมีใครเคยไปบ้าง ลูกเณรลูกศีลเคยไปหรือเปล่า อ้อ มีลูกเณรหลายคนเคยไปตลาดจตุจักร ไปซื้ออะไร ซื้อแมว ซื้อหมาเหรอ ซื้อนกหรือซื้อปลา จตุจักรเป็นตลาดที่มีร้านค้าเยอะมาก ขายทุกอย่าง ยกเว้นมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เครื่องบินเท่านั้นแหละ เรือรบก็ไม่มีขาย สากกะเบืออาจจะมีขายนะ แล้วก็สัตว์นานาชนิด แม้กระทั่งตัวอีกัวน่า ขาดก็แต่ไดโนเสาร์ไม่มีขาย(เณรแอบยิ้ม/หัวเราะ)
อย่างที่บอก จตุจักรนี้มีร้านค้าเยอะแยะ มีผู้ชายคนหนึ่งก็มาเปิดร้านที่จตุจักรขายของประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า ข้างๆ ก็มีร้านค้าอยู่เหมือนกัน แต่ว่าต่อมาพ่อค้าที่มาเปิดร้านที่อยู่ติดกันเขาก็ย้ายออก มีพ่อค้าคนใหม่มาแทนที่ แล้วก็ขายของประเภทพวกภาพ ภาพวาด ภาพถ่าย ติดกรอบสวยราคาแพงๆ
2-3 วันแรกก็ไม่มีอะไรนะ ทุกอย่างราบรื่นปกติ แต่หลังจากนั้นร้านข้างๆ สมมุติว่าเขาชื่อเพชรนะ ก็เริ่มออกลายแล้วคือ เอาภาพมาตั้งไว้ที่หน้าร้าน แล้วตอนหลังก็เอาภาพนั้นมาวางบังร้านของพ่อค้าคนนี้ สมมุติว่าชื่อสมชายนะ ภาพถ่ายของเพชรมาวางบังหน้าร้านของสมชาย ทั้งที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่วัน
สมชายเห็นก็รู้แล้วนะว่านิสัยของคนที่ชื่อเพชรนี้เป็นยังไง เห็นแก่ตัว แล้วก็เอาเปรียบ ของไม่ได้มาวางไว้ที่หน้าร้านของตัวนะ แต่ว่าไปบังร้านของคนอื่นที่อยู่ติดกันด้วย อย่างนี้แสดงนิสัยที่ไม่ดีนะ
สมชายเจอแบบนี้ทำอย่างไร เขาก็รู้นะว่าถ้าไปต่อว่ามันก็จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน เสร็จแล้วก็จะเปลืองตัว
คนบางคนไปทะเลาะกับเขาเปลืองตัวเปล่าๆ ไม่เป็นอันขายของ มีแต่กระแนะกระแหน ต่อว่าด่าทอ พูดจาประชดประชันเสียดแทงกัน อยู่ไม่เป็นสุขขืนไปต่อว่าเขา สมชายก็เลยคิดว่าไปต่อว่าเขา ไม่มีประโยชน์ แต่ว่าเขาก็ไม่อยู่เฉยนะ เขาทำยังไง
วันหนึ่งเขาออกไปข้างนอก ก็ไม่ไกลนะไปธุระแถวจตุจักร กลับมาเขาก็หิ้วถุงผลไม้ มีส้มแล้วก็มีสับปะรด 2 ถุงใหญ่ ถุงละกิโลได้ หิ้ว 2 ถุงนั้นมาที่ร้านของเพชร แล้วก็พูดกับเพชรว่า “เมื่อกี้ผมไปห้องน้ำมา เจอรถขายผลไม้ เห็นผลไม้มันน่ากินก็เลยซื้อมาฝากเฮีย เพราะรู้ว่าเฮียชอบทานผลไม้ แล้วผลไม้มันก็น่ากินด้วย”
ทีแรกเพชรทำหน้างงๆ นะ ออกอาการแปลกใจ แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “เกรงใจ” สมชายบอกว่า “ไม่ต้องเกรงใจเฮีย เราค้าขายอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน” เสร็จแล้วก็คุยกัน คุยไปก็กินผลไม้ไปด้วย อาการนี้เหมือนกับสนิทสนมกันเลยนะหลังจากที่สมชายเอาผลไม้มาฝาก สนิทสนมเหมือนกับรู้จักกันมาหลายปี ยิ้มแย้มแจ่มใส เสร็จแล้วสมชายก็กลับไปที่ร้านของตัวขายของตามปกติ
วันรุ่งขึ้นเปิดร้าน ปรากฏว่าภาพถ่ายที่เคยมาปิดหรือมาบังร้านของตัวนี้หายไปแล้ว สมชายก็เลยแปลกใจไปถามเพชรว่า “เฮีย รูปตรงนี้ขายได้แล้วเหรอ” ตรงนี้ก็คือหน้าร้านที่รูปภาพบังร้านของสมชาย เพชรบอกว่า “ยังขายไม่ได้หรอก แต่ผมย้ายไปไว้ข้างในแล้ว”
สมชายก็เลยถามว่า “อ้าวเฮีย ทำไมไม่มาวางไว้ที่เดิมล่ะ” เพชรตอบว่ายังไง เพชรบอกว่าวางตรงนี้คือในร้านนี่มันดีแล้ว วางตรงนั้นคือวางไว้ที่หน้าร้านมันน่าเกลียด เพราะว่ามันจะไปบังร้านของสมชาย เดี๋ยวลูกค้ามา จะซื้อของร้านสมชายก็มองไม่เห็น ผมก็เลยเอาภาพนี้มาเก็บไว้ในร้าน
พฤติกรรมของเพชรเปลี่ยนไปเลยนะ เมื่อวานนี้ยังเห็นแก่ตัวเอาเปรียบอยู่เลย เอาภาพนี้มาวางไว้บังร้านของสมชาย แต่วันนี้เอาภาพไปเก็บไว้ในร้านแล้ว เพราะอะไร เพราะว่าเพชรเขามองว่าเราเพื่อนกัน เอาเปรียบกันไม่ดี เอาภาพเอาสินค้าของเราไปบังร้านของเพื่อน มันไม่ดี เกิดความเกรงใจขึ้นมาแล้ว ทีแรกไม่เกรงใจเลยนะ แต่ตอนหลังเกรงใจเพราะอะไร เพราะเป็นเพื่อนกันแล้ว
เป็นเพื่อนกันเพราะอะไร หรือเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ก็เพราะว่าสมชายทำยังไง ซื้อผลไม้ไปฝากแสดงน้ำใจ ถ้าเป็นคนอื่นนะก็อาจจะไปต่อว่าเพชรว่า “อ้าว แกเอาภาพมาวางบังร้านฉันได้ยังไง นี่มันร้านของฉัน” แต่สมชายฉลาด รู้ว่าทำอย่างนี้ไม่มีประโยชน์ รู้ว่ามีวิธีที่ดีกว่าก็คือการผูกมิตร
ผูกมิตรยังไง เอาผลไม้มาฝาก มาให้ พอเป็นมิตรเป็นเพื่อนกันแล้ว ความเกรงใจก็เกิด สมชายไม่ได้บอกอะไรเลยนะ ไม่ได้ต่อว่า “เฮีย ทีหลังอย่าเอาภาพมาบังร้านผมนะ” สมชายไม่พูดเลย แต่เพชรได้สำนึกเอง แล้วก็นับแต่นั้นมา ทั้งสมชายกับเพชรก็โอภาปราศรัยกันดี อันนี้เรียกว่าวิธีแก้ปัญหา
คนเรามักจะคิดว่าเวลามีปัญหา ถูกเอาเปรียบ ถูกแกล้ง จะต้องต่อว่า ตำหนิ หรือบางทีก็ด่าทอกัน แต่ว่ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้นนะคือการผูกมิตร เรียกว่าชนะใจ
มีเด็กคนหนึ่งอายุ 13 อายุใกล้ๆ กับสามเณรลูกศีลนะ ถูกรุ่นพี่ขาใหญ่อายุ 17 ชอบแกล้งเป็นประจำเลย ตบหัวบ้างล่ะ หรือว่ามาเอาขนมแย่งกินมั่งล่ะ
ไปโรงเรียนทีไร เด็กคนนี้ไม่อยากไปโรงเรียนเลยเพราะว่าถูกแกล้งเป็นประจำ แต่วันหนึ่งแกก็รู้ว่ายอมอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ดีแล้ว ต่อไปนี้ฉันไม่ยอมแล้ว จะไม่อยู่เฉยแล้ว
แกทำยังไงรู้ไหม วันรุ่งขึ้นไปที่โรงเรียนก็ไปหาขาใหญ่คนนี้เลย ไม่หนีแล้ว คราวนี้ไปหาเลย แล้วก็พูดกับขาใหญ่ว่า “ฉันกำลังจะสร้างหนังเรื่องหนึ่ง” ขาใหญ่คนนี้แกชอบหนัง สมัยก่อนมันมีกล้อง 8 มิลลิเมตร เอาไว้ถ่ายหนัง
เด็กคนนี้ชอบถ่ายหนังตั้งแต่เล็กอายุ 13 แล้วก็มีกล้องถ่ายของตัวแล้ว ซื้อมาจากการเก็บหอมรอมริบ ไม่ได้ขอเงินแม่เงินพ่อ พอได้กล้องมาแล้วทำยังไง บอกว่ากำลังสร้างหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า “ตามล่านาซี” ยังขาดพระเอก “เธอจะมาเป็นตัวเอกให้ฉันได้ไหม”
ขาใหญ่คนนั้นงงเลย “วันนี้มาไม้ไหน” แต่ว่าอยากเป็นพระเอก ก็เลยรับเป็นดาราในหนังเรื่องนี้ ทำหนังได้สักอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏว่าหลังจากนั้นขาใหญ่นี้แกเป็นเพื่อนกันเลยกับเด็กคนนี้ แล้วก็คอยปกป้องรักษาไม่ให้ใครมารังแก
ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นนะ ก็เพราะว่าเขาขอบคุณ เขาขอบใจ เขาซาบซึ้งน้ำใจ แต่ก่อนนี้ขาใหญ่คนนี้ไม่มีคนสนใจเลย พ่อแม่ก็ไม่รัก ใครๆ ก็รังเกียจ เพราะเรียนไม่ค่อยดี แถมพูดจาก็ไม่เพราะ
รู้สึกว่าตัวเองนี้ไม่มีใครสนใจ ก็เลยแสดงอาการเกกมะเหรกเกเรก้าวร้าว เด็กคนไหนเรียนดี เด็กคนไหนหน้าตาดี ก็ไปแกล้งเขา อิจฉาเขา รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า
คนบางคนเด่นทางดีไม่ได้ ก็เด่นทางชั่วก็แล้วกัน ยังไงก็ขอให้เด่นไว้ก่อน เคยเจอคนแบบนี้บ้างไหมลูกเณรลูกศีล เจอแล้วทำยังไง สู้เขาเหรอ สู้ไม่ได้หรอก
แต่ว่าเด็กคนนี้ใช้วิธีผูกมิตรด้วยการเชิญมาเป็นพระเอก โอ๊ย ขาใหญ่นี้ไม่เคยคิดเลยนะว่าตัวเองนี้จะเล่นหนังเป็นพระเอกได้ เพราะไม่มีใครสนใจ แต่ว่าเด็กคนนี้มาให้โอกาสฉัน นับแต่นั้นมาก็เลยซาบซึ้งน้ำใจแล้วก็เป็นเพื่อน เด็กคนนี้คือใครรู้ไหม สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) รู้จักหรือเปล่า
น่าจะไม่รู้จักหรอก เขาเป็นนักสร้างหนังที่ยังดังอยู่ทุกวันนี้ ไปถามพ่อแม่นะ “โยมพ่อโยมแม่รู้จักสตีเวน สปีลเบิร์กหรือเปล่า” เคยดูหนัง E.T. หรือเปล่า เคยดูหนังจอหรือเปล่า แล้วก็อินเดียนา โจนส์ (Indiana Jones) นะ สปีลเบิร์กก็เป็นคนสร้าง ตอนหลังก็สร้างหนังหนักๆ Saving Private Ryan
สตีเวน สปีลเบิร์กเขาเอาชนะขาใหญ่ได้ ไม่ใช่ด้วยกำลัง แต่ด้วยน้ำใจ ด้วยการผูกมิตร พวกเราในชีวิตอาจจะเจอพวกขาใหญ่พวกนี้มาแกล้ง
เคยโดนบูลลี่บ้างหรือเปล่า ลูกเณรรู้จักบูลลี่ไหม เวลาเจอคนบูลลี่ อย่าไปทะเลาะกับเขา อย่าไปใช้กำลังกับเขา ไม่มีประโยชน์ เปลืองตัว ไปต่อยเขา เดี๋ยวก็ถูกครูลงโทษอีก ที่โรงเรียนของหลวงพ่อนะ ถ้าเด็กต่อยกันนะ ไม่มีคำว่าใครผิดใครถูกหรอก ถูกลงโทษทั้ง 2 คนเลย เผลอๆ ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเลย ไม่ว่าใครเริ่มก่อน ก็ผิดทั้งนั้น
เราก็เลยต้องฝึกวิธีการที่จะแก้ปัญหาโดยไม่ใช้กำลัง เราก็หลบสิ อย่างนักมวยโลกชื่อแคสเซียส เคลย์ (Cassius Clay) โดนต่อย 21 หมัด รู้จักแคสเซียส เคลย์ หรือเปล่า หรือเรียกมูฮัมหมัดอาลี โดนต่อย 21 หมัด ในเวลา 10 วินาที ไม่เคยโดนกำปั้นสักหมัดเดียวเลย เขาหลบ หลบได้ไวมากนะ 21 หมัดไม่โดนสักหมัดเลยนะ ภายใน 10 วินาที
ที่เขาแก้ปัญหาได้ แล้วรอดมาได้เพราะเขาไวมาก แล้วก็ฉลาดในการหลบ อันนี้ก็ดี แล้วก็อย่าลืมการผูกมิตรเวลาเจอคนมุ่งไม่ดี เขาก็จะกลายเป็นมิตรกับเราได้นะ.