พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรกับศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต วันที่ 28 มีนาคม 2567
มีเด็กคนหนึ่งชื่อแม็ก อายุ 7 ขวบ อยู่ ป. 1 วันหนึ่งเลิกเรียน แม่มารับแม็กที่โรงเรียน พอแม็กเห็นแม่ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาเลย “แม่ ขอเงินหน่อย 10 บาท”
แม่ถามหาเหตุผล บอกว่า “เมื่อเช้าเพิ่งให้ค่าขนมไป 20 ทำไมแม็กมาขอเงินแม่อีก” แม็กตอบว่า “จะเอาเงินไปให้เก่งครับ” เก๋งเป็นเพื่อนแม็ก อยู่ชั้นเดียวกัน เก๋งเป็นลูกชายภารโรงของโรงเรียน
แม่ถามว่า “ทำไมถึงเอาเงินไปให้เก๋งเล่า” “เก๋งทำเงินหายครับ” แม่เลยถามว่า “แล้วหนูทำให้เก๋งเงินหาย 10 บาทหรือเปล่า” แม็กตอบว่า “เก๋งทำเงินหายเองครับ”
แม่เลยถามว่า “อ้าว ถ้าเก๋งทำเงินหาย เก๋งก็ต้องรับผิดชอบเงินของตัวสิ จะมาให้หนูรับผิดชอบได้อย่างไร ถ้าเก๋งทำเงินหายทุกครั้ง หนูไม่ต้องมาขอเงินแม่ทุกครั้งหรือ” แม่พยายามชี้แจงอธิบายเหตุผลว่าทำไมไม่ควรเอาเงินไปให้เก๋ง
แต่แม็กก็ยืนกรานว่าอยากจะได้เงินเอาไปช่วยเก๋ง สุดท้ายแม็กก็บอกว่า “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้แม่ไม่ต้องให้เงินค่าขนมผมก็ได้ หรือว่าหักค่าขนมผมก็ได้ ผมอยากจะช่วยเก๋ง เพราะว่าถ้าเก๋งทำเงินหายแล้วพ่อรู้ เก๋งจะถูกพ่อตี พ่อของเก๋งดุมากด้วย หนูสงสารเก๋ง ไม่อยากให้ถูกตี”
พอได้ยินแบบนี้เข้า แม่ใจอ่อนเลย ประทับใจว่าลูกชายมีน้ำใจมาก ไม่อยากเห็นเพื่อนเดือดร้อน ไม่อยากเห็นเพื่อนถูกพ่อตี ขนาดยอมอดค่าขนม ยอมอดกินขนม เพื่อเอาเงินไปให้เก๋ง โอ้ น้ำใจของลูกประเสริฐมาก เสียสละเพื่อเพื่อน สุดท้ายแม่จึงให้เงินแม็กไป 10 บาท
แล้ววันรุ่งขึ้นคิดว่าแม่จะให้เงินค่าขนมแม็กไหม แม่ก็ให้ ทำไมถึงให้ เพราะว่าทีแรกแม็กบอกว่าขอ คล้าย ๆ ขอยืมเงินค่าขนมวันรุ่งขึ้นเอามาจ่ายให้เก๋งเลย แม่ไม่ต้องจ่ายค่าขนมให้แล้วพรุ่งนี้ หรือหักค่าขนมไปก็ได้ ปกติให้แม็ก 20 บาท หักค่ายืมเงิน 10 บาท พรุ่งนี้ก็ให้แม็กแค่ 10 บาท แต่ปรากฏว่าแม่ซาบซึ้งประทับใจลูกมาก
เพราะฉะนั้น 10 บาทนี่แม่ก็ให้ไปฟรี ๆ วันรุ่งขึ้นแม่ก็ให้ค่าขนมแม็กตามปกติ แล้วแม่ก็อิ่มใจว่าลูกมีน้ำใจ ยอมที่จะอดค่าขนมเพื่อช่วยเพื่อน
ถ้าแม็กมีคาถาว่า No สน No แคร์ แม็กก็คงไม่สนใจเก๋ง แล้วสิ่งที่เป็นคุณธรรมสำคัญของเด็กก็คือ ความมีน้ำใจ แล้วน้ำใจนี่ก็ควรมีให้กับคนทุกคนที่เดือดร้อน ไม่ใช่เฉพาะเพื่อน หรืออย่าว่าแต่คนเลย แม้กับสัตว์
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหลวงพ่อพุธ หลวงพ่อพุธท่านมรณภาพไป 20 ปีแล้ว ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ ป่านนี้ก็อายุ 100 ปี ท่านเป็นพระที่ผู้คนเคารพนับถือมาก มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ หลวงพ่อพุธท่านมาบวชตั้งแต่ยังเป็นเณร ไม่ใช่บวชพระ แล้วเณรสมัยก่อนไม่ค่อยได้อาหารมาก
วันหนึ่งขณะที่กำลังล้างบาตรอยู่ ปรากฏว่าเห็นหมาขี้เรื้อนตัวหนึ่งผอมแล้วเดินโซซัดโซเซมา แสดงว่ามันไม่ได้กินอาหารมานานแล้ว เณรพุธเห็นแล้วก็สงสาร แต่จะทำอย่างไร เพราะว่าข้าวในบาตรก็ไม่เหลือแล้ว ฉันหมดไปแล้ว เศษข้าวก็ล้างไปเรียบร้อยแล้ว เหลียวมองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีอาหารอะไรที่จะให้หมาตัวนี้เลย
เณรพุธทำอย่างไรรู้ไหม คิดว่าทำอย่างไรให้หมาตัวนี้มีอาหารกิน ก็อาเจียน แล้วจะอาเจียนได้อย่างไร เอามือล้วงเข้าไปในคอเพื่อให้อาเจียนออกมา
ปรากฏว่าอาหารที่เพิ่งฉันพุ่งออกมาหมดเลย หมาเห็นก็ค่อย ๆ เดิน ไม่ค่อยมีแรงวิ่ง ต้องเดินไป เดินมากินอาหารที่พุ่งมาจากท้องของเณรพุธ กินจนหมด
ส่วนเณรพุธเป็นอย่างไร ก็หิว เพราะว่าอาหารที่อยู่ในท้องออกมาหมดแล้ว แต่ว่าเณรพุธภูมิใจมาก มีความสุขที่ได้ช่วยชีวิตหมา เณรพุธมองว่า วันนี้เราอดข้าวมื้อหนึ่ง ไม่เป็นไร ไม่ตาย แต่ถ้าหมาตัวนี้ไม่ได้กินข้าวอีกวันหนึ่งสงสัยอาจจะตายก็ได้ แล้วใครจะไปรู้ มันอาจจะมีลูกก็ได้ อาจจะมีลูกที่รอมันอยู่ ที่มันผอมโซอาจจะเป็นเพราะว่ามันเลี้ยงลูก ให้ลูกกินนมจนผอมก็ได้
เณรพุธนี้ใจประเสริฐ สงสารหมา และหมาก็ไม่ใช่หน้าตาน่ารัก ไม่ใช่หมาแบบที่เราเห็นในหมู่บ้าน สวย ๆ ทั้งนั้น หมาไซบีเรียบ้าง หรือว่าหมาโกลเด้นบ้าง แต่ว่าหมาที่เณรพุธเจอเป็นหมาขี้เรื้อน แต่ถึงจะเป็นหมาขี้เรื้อนก็มีหัวใจ มีชีวิต แล้วเณรพุธก็สงสาร อยากจะช่วย ไม่รู้จะหาอาหารจากไหน ก็เอาอาหารจากท้องจากกระเพาะนี่แหละให้เขา น่าประทับใจมาก
ถ้าพวกเรามีน้ำใจอย่างเณรพุธก็ดี อย่างแม็กก็ดี ถือว่าใจใหญ่ ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ น่าเคารพ น่านับถือ ให้เรามีน้ำใจแบบนี้ แม้ว่าเราจะมีกำลังน้อย แต่เราก็สามารถจะช่วยคนที่เดือดร้อนได้
แม็กไม่มีเงินก็ขอยืมเงินแม่ หักค่าขนมก็ยังได้ ส่วนเณรพุธไม่มีข้าวอยู่ใกล้มือหรืออยู่ในบาตร ก็เอาข้าวในกระเพาะในท้องที่เพิ่งฉันนี่แหละ เผื่อแผ่ให้หมาขี้เรื้อนตัวนั้น คนเราเล็กแค่ไหนก็ยังสามารถช่วยคนที่เดือดร้อนได้ถ้าเรามีความเสียสละแล้วก็มีสติปัญญา.