พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรกับศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต วันที่ 27 มีนาคม 2567
มีหมาตัวหนึ่งเป็นหมาตัวใหญ่ มันคงเคยมีเจ้าของ แต่เจ้าของอาจจะตายหรือว่าย้ายบ้าน ก็เลยทิ้งมันไว้ จากหมาที่เคยมีเจ้าของ ก็กลายเป็นหมาจรจัด หมาเร่ร่อน วัน ๆ หนึ่งก็เดินเร่ร่อนไปตามถนนซึ่งมีบ้านมีร้าน ถามว่ามันเดินไปทำไม มันเดินไปหาอาหาร เพราะว่าเจ้าของไม่อยู่แล้ว
แต่ว่าวันๆ หนึ่ง มันจะใช้เวลาไม่น้อยเลย เป็นชั่วโมง ๆ มานั่งอยู่ตรงท่อระบายน้ำ แล้วก็จ้องมองท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นตะแกรงโลหะ ถามเณร ศีลจาริณีว่านึกภาพออกไหม ท่อระบายน้ำทำด้วยโลหะเป็นตะแกรง มันจะมีช่องเล็ก ๆ หมาตัวนี้อย่างที่บอกมันก็เร่ร่อนไปตามร้าน ตามถนนที่มีคนอยู่ เป็นอย่างนี้หลายวันทีเดียว
แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเธอเพิ่งมาทำงานแถวนั้นก็เห็นหมาตัวนี้ ทีแรกก็ไม่ได้สังเกตอะไร ไม่ได้เอะใจอะไร เห็นมันเดินอยู่ตรงนั้นทุกวัน ๆ ก็เลยสงสัยว่ามันคงจะหาอาหารและสารรูปของมันก็ดูผอม คงหิวด้วย เธอก็เลยซื้ออาหารให้มัน เป็นเนื้อบ้างเป็นสเต็กบ้างให้ แล้วเธอก็ไปทำงาน ไม่ได้สังเกตอะไร
แต่มีวันหนึ่งเธอสังเกตว่า ให้ไปแล้ว มันไม่กิน มันคาบอาหารนี้ออกไปที่อื่น เธอก็สงสัยว่าทำไมไม่กินทันที
ทั้งที่น่าจะหิว ทำไมคาบอาหารนี้ไปที่อื่น วันหนึ่งเธอก็เลยเดินตามไป ถามว่ามันไปไหนรู้ไหม มันไปที่ท่อระบายน้ำ แล้วมันก็หย่อนอาหารที่มันได้มา แบ่งครึ่งหนึ่งปล่อยลงไปในรูท่อระบายน้ำ
ผู้หญิงคนนั้นก็เลยสังเกตว่า เอ๊ะ มันคงต้องมีอะไรอยู่ใต้ตะแกรงเหล็ก เดินไปดู ทีแรกหมาไม่ยอมให้เข้าใกล้ แต่เธอก็อาศัยที่มันไว้ใจเธอแล้ว เพราะว่าเธอให้อาหารมันกินทุกวัน เธอก็เลยมองไปที่ใต้ท่อระบายน้ำ แล้วจึงรู้คำตอบเลยว่าทำไมหมาตัวนี้ทุกวันนี้ชอบมานั่งเฝ้าอยู่ตรงท่อระบายน้ำ แล้วก็จ้องมองท่อระบายน้ำอยู่ทุกวัน วันละเป็นชั่วโมงๆ
พอเธอรู้ ถามว่าเธอทำอย่างไร เธอไปเรียกตำรวจ เรียกมาทำไม เพื่อมารื้อเอาตะแกรงท่อระบายน้ำออก เพราะมันหนัก มันเป็นตะแกรงเหล็ก พอเอาตะแกรงเหล็กออก พบอะไร เธอพบว่ามีลูกแมว 5 ตัวอยู่ใต้ตะแกรงเหล็ก มันคงตกลงไปเพราะว่าแม่มันอาจจะถูกหมาตัวอื่นไล่ แล้วลูกแมวก็พลัดตกไถลตกลงไปในท่อเพราะมันมีช่องให้มันตกลงไป
หมานี้มันรู้เพราะมันได้กลิ่นได้ยินเสียงของลูกแมวว่าอยู่ใต้ตะแกรงเหล็ก และมันก็คงจะรู้ว่าลูกแมวหิว เผอิญลูกแมวนี้หย่านมแล้วโชคดีหน่อย เพราะฉะนั้นมันก็เลยกินอาหารแข็งได้ หมาตัวนี้มันหิว แต่ว่าพอมันได้อาหาร มันไม่ได้กินหมด แบ่งครึ่งหนึ่งให้กับลูกแมว คราวนี้พอเอาลูกแมวขึ้นมาได้ 5 ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เลยรับไป รวมทั้งพาหมาตัวนี้ไปอยู่บ้านด้วย
แล้วเธอก็หาบ้านให้แมว 4 ตัวไปอยู่ที่อื่นพร้อมกับหาเจ้าของ คงจะประกาศทางเฟซบุ้ก ใครจะมารับลูกแมวบ้าง ส่วนเธอเก็บลูกแมวไว้ตัวหนึ่ง และหมาจรจัดตัวนี้เธอก็เอามาอยู่บ้านด้วยตั้งชื่อให้ว่า เบนนี่ เป็นหมาที่น่ารัก
ปกติหมากับแมวนี้ไม่ค่อยถูกกัน แต่หมาตัวนี้มีน้ำใจ มันรู้ว่าลูกแมวนี้กำลังเดือดร้อน กำลังหิวโหย มันก็พยายามที่จะดูแลเอาใจใส่ลูกแมว แล้วก็ช่วยลูกแมวเท่าที่จะทำได้คือ เอาอาหารมาแบ่งให้มันกิน เพราะมันเป็นหมาที่เรียกว่ามีน้ำใจ มีคุณธรรม เสียสละ
อีกเรื่องหนึ่ง มีหมาตัวหนึ่ง บ้านที่มันอยู่นี้เกิดไฟไหม้ เจ้าของบ้านพอรู้ว่าไฟไหม้ อย่างแรกที่นึกถึงก็คือหมาตัวนี้ แต่หมาตัวนี้มันถูกล่ามเอาไว้ในบ้าน เจ้าของทำยังไง ต้องปลดโซ่ให้มันเป็นอิสระ เพราะว่าถ้าไม่ปลดโซ่ หมาที่ล่ามติดอยู่ในนั้นก็ถูกไฟครอกตาย เขาก็รีบปลดโซ่
หมาตัวนี้พอเป็นอิสระ มันรีบวิ่งออกจากบ้านเลยพร้อม ๆ กับเจ้าของ จะไม่วิ่งได้ไงก็ไฟไหม้ เป็นพวกเรา(ถามสามเณร ศีลจาริณี) วิ่งไหม วิ่งเร็วไหม แน่นอนวิ่ง แต่สักพักมันหยุด แล้วมันก็วิ่งกลับเข้าไปใหม่ เข้าไปในบ้านที่กำลังไหม้ ไปทำไม ไปคาบลูกแมวออกมา เพราะว่าที่บ้านนี้เลี้ยงแมว แล้วแมวก็เพิ่งออกลูก
แต่ไม่รู้ว่าแม่แมวอยู่ไหน แม่คงไม่หนีหรอก แม่คงจะออกไปหาอาหารเพราะถ้าแม่อยู่ แม่คงจะคาบลูกแมวออกมาแล้ว
แต่หมาตัวนี้มันรู้ว่า มีลูกแมวอยู่ในบ้าน แล้วก็ไม่ปลอดภัย พอมันหนีไฟออกมาจากบ้านแล้ว มันนึกถึงลูกแมว ธรรมชาติของหมา เมื่อเจอไฟมันหนีเลย แต่นี่มันวิ่งเข้าไปในบ้านแล้วไปคาบเอาลูกแมวออกมา
คนถ่ายรูปไว้ มันคาบลูกแมวอยู่ในปาก หมาไม่ได้เคี้ยวกินแมว มันคาบเพื่อช่วยให้ปลอดภัย อย่างที่บอกหมากับแมวนี้ไม่ถูกกัน แล้วก็มีหมาจำนวนไม่น้อยที่รักแมว มีน้ำใจ หรือว่าหมาผู้ใหญ่นี้เห็นลูกแมวก็สงสาร อยากจะช่วย บางทีก็เป็นเพื่อน แล้วก็ยอมเสี่ยงอันตราย
อย่างที่เล่ามา หมาตัวหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายที่เกิดจากไฟไหม้ อีกตัวหนึ่งยอมหิวทั้งที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะมีกินอยู่แล้ว อันนี้มันแสดงว่าหมานี้มีคุณธรรมมีน้ำใจ แล้วก็ถือว่าเป็นอาจารย์ของเราได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนจำนวนมากนี้ไม่ค่อยมีน้ำใจ ไม่ค่อยนึกถึงคนอื่นเท่าไหร่
เดี๋ยวนี้มันมีคติ คำพูด ไม่รู้ลูกเณรลูกศีลจาริณี เคยได้ยินหรือเปล่า "No สน No แคร์" เราต้องสน ต้องแคร์ ดูขนาดหมายังสนยังแคร์เลย หมานี้สนลูกแมว หมาแคร์ลูกแมว ยอมเสี่ยงชีวิต เราเป็นคนจะโนสน โนแคร์ได้ยังไง ต้องแคร์ต้องสน แต่ว่าสนให้มันถูกเรื่อง
ใครเดือดร้อน ต้องช่วย จะเป็นหมา จะเป็นแมว จะเป็นเพื่อน ก็ต้องช่วย เพราะเราเป็นคน ขนาดหมายังมีน้ำใจเลย แล้วลูกเณรลูกศีลฯจะไม่มีน้ำใจได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่เอาเลยกับโนสน โนแคร์ ควรต้องสน ต้องแคร์เอาไว้ โดยเฉพาะคนที่เขากำลังเดือดร้อน หรือสัตว์ที่เดือดร้อน
เราเห็นอะไรในวัดนี้ เห็นหมา เห็นแมว เห็นนกที่เขาเดือดร้อน ช่วยๆเขาหน่อย หรือว่าเพื่อนๆเณรที่เขาหิว ช่วยเขาหน่อย เขาหนาว หาอะไรให้เขาห่มหน่อย หรือว่าอย่างน้อยๆ เวลาอยู่แถวตักอาหาร นึกถึงเขา นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังบ้าง ไม่ใช่ตักของชอบหมดเลย คนอยู่ข้างหลังเราไม่สนใจ อย่างนี้เรียกว่าโนสน โนแคร์ อย่างนั้นไม่ได้
เราต้องเปลี่ยนเป็น "ต้องสน ต้องแคร์"