พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรกับศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต วันที่ 26 มีนาคม 2567
มีผู้ชายคนหนึ่ง เที่ยงคืนครึ่งแล้วยังไม่ยอมหลับเลย พวกเราเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า เคยเป็นไหม เที่ยงคืนตี 1 แล้วยังไม่หลับเลย เพราะอะไร กินกาแฟ เล่นเกมหรือเปล่า
เดี๋ยวฟังก่อน ๆ ผู้ชายคนนี้นี่เที่ยงคืนครึ่งแล้วก็ยังไม่หลับ ไม่ใช่เพราะเล่นเกม แต่เพราะยังทำงานไม่เสร็จ งานด่วน จะตี 1 แล้วก็ยังไม่หลับ หลับไม่ได้ เสร็จแล้วก็รู้สึกหิว หิวข้าว ไม่ได้หิวกาแฟ ก็เลยโทรศัพท์เรียกเดลิเวอรี่ สักพักไรเดอร์ รู้จักไรเดอร์ไหม ไรเดอร์ก็มาถึง เขาก็ออกไปรับข้าว
แต่ปรากฏว่าภาพที่เขาเห็นก็คือชายหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์มากับหญิงสาว แล้วไม่ใช่แค่นั้นมีเด็กตัวเล็ก ๆ นอนคอตกอยู่ในอกของแม่ เรียกว่ามากันทั้งครอบครัวเลย เที่ยงคืนครึ่งแล้ว เขาเห็นเขาก็รู้สึกสะดุดใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่ได้พูดอะไรมาก ถามว่าข้าวราคาเท่าไหร่ 106 บาทครับ แกก็ยื่นเงินให้ ในใจนี่อยากจะให้ไปอีกหนึ่งพันแล้วก็บอกไรเดอร์ว่า ดึกแล้วให้พาลูกพาเมียกลับบ้านได้แล้ว มันจะตี 1 อยู่แล้ว ลูกก็ยังไม่ได้นอนสบาย ๆ เลย ต้องนอนบนมอเตอร์ไซค์
เขาคิดอย่างนี้อยากจะบอกไรเดอร์ว่ากลับไปนอนได้แล้ว แล้วก็ให้เงินไปหนึ่งพัน แต่เขาไม่กล้าทำ ไม่กล้าพูด ก็เลยให้ไปแค่ 106 บาท ค่าอาหาร
พอกลับมาที่โต๊ะ ภาพเด็กน้อยคงจะอายุสักขวบสองขวบ นอนคอตกอยู่ในอ้อมกอดของแม่มันก็ติดตาเขามา แล้วที่เขารู้สึกแย่กว่านั้นก็คือว่า ทำไมเขาไม่ทำอย่างที่ตั้งใจ ทำไมไม่ทำอย่างที่อยาก ที่เขาอยากที่เขาตั้งใจคืออะไร
จำได้ไหม ให้เงินหนึ่งพันบาทกับไรเดอร์แล้วก็บอกว่า พาลูกพาเมียกลับบ้านไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว เขาก็ถามตัวเองว่า เอ๊ะ มันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำไม่ใช่หรือ แล้วทำไมจึงไม่กล้าทำ เขารู้สึกอาย ตอนนั้นเขาบอกเขารู้สึกอายมาก ทำไมเราอายที่จะทำความดี ทีความไม่ดีนี่เราทำหน้าตาเฉย กล้าทำ แต่เวลาความดีหรือสิ่งที่ควร ทำไมเรากลับอาย
คิดอย่างนี้นี่แกก็เลยหยิบโทรศัพท์มา แล้วก็ไปทัก ส่งข้อความไปทักไรเดอร์ว่า ขอเบอร์บัญชีธนาคาร เขาเรียกว่าพร้อมเพย์ ไรเดอร์ก็ส่งมาให้ เขาก็เลยโอนเงินไปให้หนึ่งพัน แล้วก็บอกว่าดึกแล้วพาลูกพาเมียกลับไปนอนที่บ้านได้แล้ว ไรเดอร์ดีใจมากเลย ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เงินหนึ่งพันจากคนใจดีกลางดึก แล้วก็อวยพรชายคนนั้นใหญ่เลย
หลังจากเหตุการณ์นั้นชายคนนั้นมาเขียนลง Facebook บอกถึงความรู้สึกว่า ทำไมเราจึงไม่กล้าทำความดี ทำไมเราถึงอาย ไม่ตัดสินใจที่จะบอกไรเดอร์ต่อหน้าว่า เอาเงินไปเลยหนึ่งพันแล้วก็กลับไปนอน แต่เขาก็กล้าที่จะบอกตรง ๆ ว่าอาย อายที่จะทำความดี แต่ว่าพอได้ทำแล้วมันสบายใจ เสียเงินไปหนึ่งพัน ไม่ได้เสียไปเปล่า ๆ เป็นการให้ แต่สิ่งที่ได้มาคือความสุขความสบายใจ
แต่ก็ได้บทเรียนว่า ความดีนี่แม้น่าทำ แต่ว่าเราก็อายที่จะทำ ในขณะที่ความไม่ดีเรากล้าที่จะทำแบบไม่คิดหน้าคิดหลังเลย แล้วก็มาได้คิดอีกอย่างหนึ่งว่า โอ้ ไอ้เราทำงานดึก ๆ ดื่น ๆ เรานึกว่าเราแย่แล้ว มีคนที่ลำบากกว่าเราอีก อย่างครอบครัวนี้ ดึกแล้วเที่ยงคืนนี่เขายังต้องทำงานส่งอาหาร แสดงว่าคงมีความเดือดร้อนเรื่องเงิน
มีลูกมีเมีย แต่ก็ไม่กล้าทิ้งเมียเอาไว้ที่บ้าน ก็เลยพามาด้วย เมียก็อาจจะมาช่วยงานผัวก็ได้เพราะว่าต่างก็ลำบาก แต่มาช่วยงานแล้วจะทิ้งลูกไว้ที่บ้านก็กระไรอยู่ ก็เลยต้องเอาลูกมา ลูกแทนที่จะได้นอนสบาย ๆ เหมือนพวกเรา นอนสบาย ๆ กลางคืนแม้จะร้อนแต่ก็ยังได้นอน แต่เด็กคนนั้นไม่ได้นอนสบายแบบเรา นอนบนมอเตอร์ไซค์ เสียงก็ดัง แต่ว่าเด็กก็คงอ่อนเพลียมาก หลับเลยคาอกแม่ คอตกด้วย
เขาเลยได้คิดว่า เรานี่สบายกว่าคนอื่นเยอะเลย คิดว่าเราลำบากแล้ว แต่ที่จริงเราโชคดี แต่สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูดนี่ว่า ทำไมเราจึงอายที่จะทำความดี มันน่าคิด เพราะว่าหลายคนเป็นอย่างนั้น
เคยมีเด็กอายุประมาณ 10 ขวบ อายุเท่าพวกเณรเดินตามพระบิณฑบาตที่ภูหลง ปิดเทอมพอดี เด็กคนนี้ก็มาเดินตามพระที่ภูหลง เพื่อน ๆ ในหมู่บ้านที่เห็นก็หัวเราะใหญ่เลย หยอกล้อ เด็กวัด เด็กวัด
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเด็กคนนี้ไม่มาเดินตามพระบิณฑบาตเหมือนเคย พอพระไปถาม เด็กก็บอกว่า กลัวเพื่อนล้อครับ อันนี้เรียกว่าอายเหมือนกัน อายที่จะทำความดี การเดินตามพระบิณฑบาตเป็นเด็กวัดนี่เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ เป็นความดี แต่ว่าเด็กอาย อายเพราะอะไร อายเพราะเพื่อนล้อ
แต่คนเรานี่มันจะมีลักษณะอย่างหนึ่ง กล้าทำชั่ว กลัวทำดี วัยรุ่นหลายคนเลยเวลาจะยกพวกตีกัน ไม่ลังเล ไม่คิดหน้าคิดหลังเลย พร้อมจะไปลุย ยกพวกตีกัน ยกพวกตีกันมันดีไหม มันไม่ดีแต่กล้าทำ
แต่ว่าเวลานั่งรถเมล์หรือรถไฟฟ้านี่เห็นคนท้องคนแก่ยืนอยู่ อยากจะลุกให้ที่นั่งแต่อาย พวกเราเคยเป็นไหม อยากจะลุกให้ที่นั่งกับคนแก่คนท้องแต่ว่าอาย ไม่อายใช่ไหม เออ ดีมาก แต่มีหลายคนอาย เลยไม่ลุกให้ แล้วก็แกล้งทำเป็นดูโทรศัพท์มือถือ
หรือบางคนเห็นคนเป็นลมนอนอยู่ริมถนน คนก็เดินผ่านไปผ่านมา แต่เจ้าตัว คนที่เห็นอยากจะไปถามหน่อยว่าเป็นอะไร อยากจะไปช่วย แต่ก็อาย ไม่กล้าทำ ไม่กล้าไปถามคนที่เขาป่วยอยู่ว่าเป็นอะไร ทำไมไม่กล้า เพราะว่าคนอื่นเขาไม่ทำกัน คนอื่นเขาเดินผ่านไปผ่านมา เราจะไปช่วยเขาก็กระไรอยู่ นี่เรียกว่าอายที่จะทำความดี
แต่เวลาทำชั่วนี่กล้า ลักขโมยบ้าง ยิงนกตกปลาบ้าง หรือว่าขโมยของเพื่อนบ้าง นี่กล้า แล้วเราต้องระวังอย่าให้ความคิดว่ากล้าทำชั่วกลัวทำดีมันเกิดขึ้นในใจ
ทำดีคือสิ่งที่ต้องกล้าทำ ใช่ไหม แล้วความชั่วคือสิ่งที่ต้องกลัว กลัวทำชั่วกล้าทำดี อันนี้ดีกว่า พวกเรามาบวชเณร มาบวชศีลจาริณี มันจะมีโอกาสที่เราจะได้ทำดี ให้กล้าทำแม้คนอื่นเขาจะไม่กล้าทำก็ตาม
ถึงเวลาทำชั่วคนอื่นเขาทำแต่เราไม่ทำเพราะเรากลัว กลัวทำชั่วกล้าทำดี ไม่ใช่กล้าทำชั่วกลัวทำดี อันนี้ต้องระวัง.