พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า และแสดงธรรมให้กับค่ายสามเณรกับศีลจาริณี วัดป่าสุคะโต วันที่ 25 มีนาคม 2567
โจทย์มีสัตว์อยู่ 4 ชนิด ไก่ หมา แมว ลิง ถ้าให้เราเลือก จะเลือกเป็นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง ลองนึกในใจดู มีให้เลือกแค่ 4 แต่จะไปเอาเป็นเสือเป็นหมีไม่ได้
มีแม่คนหนึ่ง มีลูกสี่ 4 นี้ไม่ใช่ 4 คน แต่ 4 ตัว ตัวหนึ่งก็คือไก่ ตัวที่ 2 คือหมา ตัวที่ 3 คือลิง ตัวที่ 4 คือแมว ทุกเช้าได้เวลาอาหารเช้า แม่จะให้ลูกทุกตัวเลย ยืนอยู่บนเก้าอี้ อาหารจะวางไว้บนโต๊ะ นึกภาพออกไหม มีโต๊ะกลมอยู่โต๊ะหนึ่ง มีเก้าอี้ 4 ตัว แล้วก็ลูกทุกตัวเลย ไก่ หมา ลิง ยืนอยู่บนเก้าอี้ ยกเว้นแมว แมวตัวเล็กก็ยืนอยู่บนโต๊ะ
แล้วแม่ก็เอาอาหารมาให้ วางบนจานหน้าสัตว์ทุกตัวเลย ทีแรกก็เอาอาหารตักใส่จานให้ไก่ก่อน ตัวอื่นก็เฝ้าดู ไม่แย่งไม่โวยวาย ยืนอยู่นิ่งๆ แล้วก็มาตักอาหารให้หมา ตัวอื่นก็เฝ้าดู ไม่แย่ง ไม่ยุ่งกับอาหารในจานของน้องหมาเลย ตักอาหารให้น้องหมาเสร็จก็ตักอาหารให้น้องลิง แล้วก็มาตักอาหารให้แมว ตัวอื่นก็เฝ้าดูอยู่นิ่งๆ
ทุกตัวก็ไม่กินอาหารของตัวด้วย ไก่ก็ไม่กินอาหารที่อยู่ข้างหน้า หมาก็ไม่กินอาหารในจานที่อยู่ข้างหน้า ทุกตัวอยู่ในอาการสงบ ถ้าเป็นคน หรือเณร เราเรียกว่าสำรวม
พอตักอาหารให้ไก่แล้ว หมาแล้ว ลิงแล้ว ก็ตักอาหารให้แมว ตลอดเวลาที่ตักอาหาร ทุกตัวนี้สงบ ไม่ยุ่งอาหารของคนอื่น แล้วก็ไม่ด่วนกินอาหารของตัวเองก่อน ทุกตัวนี้รอจนกระทั่งแม่นี้ตักอาหารให้ครบทั้ง 4 จาน ครบแล้วยังไม่กิน จนกว่าแม่จะบอกว่ากินได้ ถึงเวลานั้นไก่ก็กินอาหารของไก่ หมาก็กินอาหารของหมา ลิงก็กินอาหารของลิง แมวก็กินอาหารของแมว ไม่แย่งกัน
แล้วอาหารที่กิน ไม่น่าเชื่อว่า ไม่หล่นออกไปนอกจานเลย แปลว่ากินไม่มูมมาม อาหารอยู่ในจาน ไม่ตกออกมานอกจานเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเลย ทำได้ยังไง สัตว์นี้มันฝึกได้ ฝึกให้รู้จักอดทนรอคอย ไก่นี้มีอาหารอยู่ข้างหน้าแล้ว หมามีอาหารอยู่ข้างหน้าแล้ว ลิง แมวก็เหมือนกัน มีอาหารอยู่ข้างหน้าแล้ว แต่ไม่ด่วนกิน รอจนกว่าเพื่อนจะได้อาหารครบ แล้วแม่ให้สัญญาณ
อย่างนั้นเรียกว่ารู้จักอดทน รู้จักรอคอย ควบคุมความอยากได้ เพราะว่าปกติสัตว์มันเห็นอาหาร อยากกินก็รีบเลย แต่นี่มันอดทนได้ เพราะอะไร เพราะว่าผ่านการฝึกมา ฝึกให้มีวินัย
พวกเราก็ทำได้อย่างนี้เหมือนกัน แล้วก็อยากให้ทำด้วย เพราะว่าเราไม่ใช่เด็กธรรมดา เป็นลูกเณรลูกศีลฯ ผ่านการฝึกมา ขนาดไก่ หมา ลิง แมว ยังทำได้เลย แล้วเราจะทำไม่ได้เหรอ
เช้านี้เราสมมุติกันนะว่าเราเลือกเป็นไก่บ้าง เป็นลิงบ้าง เป็นหมาบ้าง เป็นแมวบ้าง เราก็ลองฝึกอยู่นิ่งๆ ขณะที่ไม่ว่าจะเป็นพระก็ดี หลวงพ่อก็ดี หรือว่าเพื่อนเรา จะเป็นน้องเณรก็ดี น้องศีลฯก็ดี ตักอาหาร เขาตักก่อน ส่วนเรานั่งอยู่ในห้อง อยู่ในศาลา เราก็ไม่เดือดร้อนอะไร จนกว่าจะถึงเวลาของเรา
ตอนที่เราไปตัก เราอยู่ข้างหลัง เพื่อนอยู่ข้างหน้าเราก็ไม่โมโหเพื่อนว่าทำไมตักช้า รอให้เพื่อนตักก่อน ถึงคราวของเราเราจึงค่อยตักอาหาร ไม่มีอาการโวยวาย ไม่มีอาการตีโพยตีพาย ไม่ว่าจากการแสดงออกหรือในใจ สงบเพราะว่าเราฝึกมาแล้ว
เราจะเป็นอย่างน้องไก่ น้องหมา น้องลิง น้องแมว ที่หลวงพ่อได้เล่าให้ฟัง เราจะเป็นอย่างเขา ทำให้ได้อย่างเขา ตักอาหารมาข้างหน้าแล้ว มาวางไว้ข้างหน้าแล้ว เราก็สงบสำรวม เห็นอาหารก็ไม่ได้น้ำลายไหล ไม่จำเป็นต้องอดทนอดกลั้นต่อความอยาก เพราะว่าใจเราอยู่กับลมหายใจ
ระหว่างที่นั่งคอยเพื่อน อาหารอยู่ข้างหน้าเรา แต่เราก็ไม่รีบกิน สงบสำรวม ไม่ใช่ทางกายวาจาอย่างเดียว ใจด้วย ใจเราอยู่กับลมหายใจ อย่าเพิ่งไปนึกถึง อย่าไปสนอาหารที่อยู่ข้างหน้า สนใจแต่ลมหายใจ หายใจเข้าก็บริกรรมไปว่า- “ทนได้” หายใจออก- “สบายมาก” หายใจเข้า-“ทนได้” หายใจออก-“สบายมาก” อันนี้เรียกว่าภาวนา
แล้วเราจะรอได้อย่างมีความสุข น้องไก่ น้องหมา น้องแมว น้องลิง เขาไม่รู้จักการภาวนา “ทนได้” “สบายมาก” นี้เขาไม่รู้จัก แต่เขาก็ยังคอยได้ ไม่กินอาหารที่อยู่ข้างหน้าจนกว่าเพื่อนจะมีอาหารตักเสร็จเรียบร้อย แล้วก็รอจนกว่าแม่จะให้สัญญาณ ให้เราเป็นอย่างนี้ดู
แล้วเวลาเราตักอาหารนี้ ขอให้เรานึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังด้วย อย่าตักเอาความอยากของตัวเองเป็นหลัก ต้องนึกถึงคนอื่นด้วย เรามาบวชเณร บวชศีลจาริณีแล้ว เราต้องนึกถึงคนที่อยู่ข้างหลัง ใจเราจะใหญ่หรือไม่ อยู่ตรงนี้ ตัวใหญ่แต่ใจเล็กก็มี
แต่ตัวเล็กใจใหญ่ ใจใหญ่คือว่านึกถึงคนอื่น เราตักพอกิน แล้วก็เผื่อให้คนข้างหลัง ให้เขาได้กินบ้าง ไม่ใช่เราคิดแต่จะกินของเราคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นขนม หรือว่าไก่ย่าง หรือไก่ทอด
หลวงพ่อเคยเห็นเคยดู มีห่านตัวหนึ่ง เพื่อนมันคืออะไรรู้ไหม คือปลา ปลานี้เยอะแยะเลย ปลาตัวนี้มายืนอยู่ริมบ่อ พอห่านตัวนี้มา ปลาก็มากันใหญ่เลย ปลานี้เห็นห่านตัวนี้มาทีไร ปลาก็จะมารุมมารอเลย รออะไร รออาหาร ห่านตัวนี้จะตักอาหารปลา คาบอาหารปลา โยนให้ปลาในบ่อในสระ ใจดีมาก ไม่ต้องให้คนมาเลี้ยงปลา น้องห่านทำเองเลย เพราะน้องห่านรู้ว่าปลานี้ชอบกินอาหารชนิดนี้
เรียกว่าห่านยื่นให้ก็ได้ ให้ปลามากินอาหารที่คาบมา นี่เรียกว่านึกถึงคนอื่น ใจดีมีเมตตา เห็นว่าปลานี้ชอบกินอาหาร ก็เอาอาหารนี้มาให้ปลา คาบมาให้ คาบใส่ปากเลย อันนี้เรียกว่าน่าทึ่งมาก เราก็ทำได้ มีน้ำใจนึกถึงเพื่อนของเรา ให้เรานึกถึงคนอื่นด้วย
อย่าลืมนะว่าเราเป็นไก่ เป็นหมา เป็นแมว เป็นลิงแล้ว วันนี้เราก็ลองทำให้ได้จากตัวอย่างที่หลวงพ่อเล่าให้ฟัง.