พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2567
ช่วงนี้โรงเรียนทั้งหลายปิดเทอม แต่ว่าก็มีเด็กหลายคนไม่ได้หยุดเรียนไปด้วย หลายคนพ่อแม่ให้ไปเรียนพิเศษ บางคนพ่อแม่ให้ไปเรียนถึงต่างประเทศ เรียกว่าซัมเมอร์แคมป์ หรือว่าหลายคนพ่อแม่ก็ให้ไปเรียนกวดวิชา เพื่ออะไร จะได้ไม่ได้อยู่เปล่าๆ แล้วก็เคว้งคว้าง หรือมิฉะนั้นก็เล่นเกม
แต่ว่าพวกเราหลายคนในที่นี้พ่อแม่อยากให้มาเรียนเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอย่างที่ใคร ๆ เขาเรียนกัน เป็นการเรียนพิเศษในวัดเรียกว่า บวชเรียนภาคฤดูร้อน การมาบวชเรียนภาคฤดูร้อนจะเรียกว่าเป็นการพาตัวเองมาใกล้ชิดพระศาสนาก็ได้ มาใกล้ชิดด้วยการบวช
แต่ไม่ใช่บวชเพื่อเอาบุญ ที่ว่าบวชเขาเรียกว่าบวชเรียนแต่ไม่ได้เรียนเหมือนเพื่อนหลายคนที่เขาไปเรียนพิเศษ อันนั้นเขาเรียกว่าไปเรียนวิชาการ แต่พวกเราที่จะไปเป็นสามเณรในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เราจะมาเรียนวิชาชีวิต
วิชาชีวิตมันไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ หรือท่องมาก ๆ แต่เป็นการเรียนจากประสบการณ์ให้เข้าใจเรื่องความสุข สุขที่ประเสริฐคืออะไร เข้าถึงได้อย่างไร และความทุกข์มันเกิดจากอะไร รวมทั้งรู้จักรักษาใจให้ไกลทุกข์ แม้กายจะทุกข์กายจะเหนื่อยแต่ว่าใจไม่เหนื่อยใจไม่ทุกข์
เพราะฉะนั้นวิชาชีวิตอันนี้สำคัญมาก เพราะว่าสามารถจะใช้ได้ตลอดชีวิตจนถึงลมหายใจสุดท้าย วิชาการเรียนไปบางทีก็ไม่ได้ใช้ หรือไม่ก็ลืม ยังไม่นับความรู้ที่เรียนมามันใช้ไม่ได้ มันเปลี่ยนไปเสียแล้ว อย่างแต่ก่อนเขาบอกว่าดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์ในสุริยะจักรวาล เรียนกันมาตั้งแต่เด็ก สมัยหลวงพ่อยังเด็ก พลูโตเป็นดาวเคราะห์ในสุริยะจักรวาล ต้องท่องเอา เดี๋ยวนี้เขาก็บอกว่า พลูโตไม่ใช่แล้ว
แต่ก่อนเขาบอกว่าคอเลสเตอรอลไม่ดี ทำให้เป็นโรคหัวใจ แต่ตอนหลังมาบอกว่าที่ดีก็มี ที่ไม่ดีก็มี ตอนหลังก็บอกอีกว่าที่ดีคือ HDL แต่มีมาก ๆ ก็ไม่ดี ต้องมีพอประมาณถึงดี ความรู้ที่เราเรียนมาหรือวิชาการ มันเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ เรียนมา 100 จากโรงเรียน พอโตขึ้นอาจจะใช้ได้แค่ 25% ยังไม่นับที่ลืมอีก แต่วิชาชีวิตได้ใช้ตลอดชีวิตจนลมหายใจสุดท้าย
การเรียนส่วนใหญ่ เป็นการเรียนเพื่อเติมความรู้ลงไปในสมอง วิชาการส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ เติมความรู้ลงไปในสมอง เป็นการบำรุงสมอง เน้นที่สมอง ให้คิดเก่ง คิดเร็ว คิดทน คิดได้นาน แต่ว่าคนเราไม่ได้อยู่ด้วยสมองอย่างเดียว เรามีหัวใจ เรามีมือ อย่างเขาบอกว่า การเรียนที่ถูกต้องสมบูรณ์มันต้องมีครบ 3 อย่าง ย่อ 3 H Head Heart แล้วก็ Hand
Head - หัว Heart – หัวใจ และ Hand - มือ การเรียนในโรงเรียนส่วนใหญ่ หรือแม้แต่เรียนพิเศษ ก็ไปเน้นที่ Head คือป้อนข้อมูลลงไปในหัวสมองเยอะ ๆ และคิดว่าจะทำให้มีชีวิตที่ผาสุก หรือว่ามีการงานที่มั่นคง แต่ที่จริงแล้ว Head อย่างเดียวไม่พอ มันต้อง Heart ด้วย ต้องบำรุง Heart พัฒนาหัวใจให้เจริญ
เราจะทำให้หัวใจเจริญส่วนหนึ่งก็อาศัยการออกกำลังกาย ออกกำลังกายบ่อย ๆ เด็กเดี๋ยวนี้หัวใจอ่อนแอเพราะว่าไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แถมกินอาหารที่ไปทำลายหัวใจด้วย หัวใจไม่ได้ออกกำลังกาย แถมหัวใจก็มีไขมันเยอะตามเส้นเลือดตั้งแต่เด็กเลย แต่ว่าถ้าหากว่าเราบำรุงหัวใจดี ๆ ออกกำลังกาย แล้วก็กินอาหารสุขภาพ ไขมันน้อย ๆ หัวใจก็แข็งแรง
แต่หัวใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงหัวใจที่อยู่ในอกของเราทางซ้ายมือเท่านั้น แต่ยังหมายถึงจิตใจด้วย การศึกษาที่ดีหรือการเรียนรู้ที่ถูกต้อง มันต้องช่วยทำให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง รู้จักอดทนอดกลั้นต่อความโกรธ เอาชนะความอยากความโลภได้ อยากเล่นเกมแต่ว่าก็ระงับความอยากไว้ได้ อยากได้โน่นได้นี่ อยากซื้อของ อยากได้มือถือ อยากได้แท็บเล็ต อยากเล่นเกม แต่ว่ารู้จักคุมอารมณ์ความอยากไว้ได้ เพราะว่ามีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่า
หรือเพราะรู้ว่ามันเป็นเวลาหลับเวลานอนแล้ว เล่นนานเกินไปแล้ว รู้จักเบรก รู้จักยับยั้ง เรียกว่าต้องอาศัยหัวใจ คือ จิตใจที่มีกำลัง ระงับอารมณ์ความอยาก มีความโกรธ โมโห อยากจะโวยวาย ต่อว่าด่าทอ แต่คุมอารมณ์ได้ เรียกว่าอาศัยจิตใจ จิตใจที่มีพลังในการควบคุมความอยาก
แล้วก็เป็นจิตใจที่มีเมตตากรุณาเรียกว่าใจใหญ่ด้วย ใจใหญ่คือ ไม่ได้คิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ตัวเองมันใจแคบ ใจเล็ก แต่ถ้าใจใหญ่มีเมตตากรุณา แล้วมันดีกับเราด้วยเพราะว่ามันทำให้เราเป็นคนที่ทุกข์ยาก แล้วก็สุขง่าย เพราะคนที่รู้จักคิดถึงคนอื่น ความทุกข์ของตัวเองจะเป็นเรื่องเล็กลง
คนเราถ้าหากว่าเราคิดถึงแต่ตัวเอง มันทุกข์ง่าย ได้โทรศัพท์มือถือก็ยังทุกข์ เพราะอยากได้แท็บเล็ต ได้แท็บเล็ตก็ยังทุกข์ เพราะว่าเป็นแท็บเล็ตที่ราคาถูก อยากได้ราคาแพง พอได้แล้วก็ยังอยากได้เครื่องเล่นวีดีโอเกม มันอยากได้ไม่จบไม่สิ้น พอไม่ได้ก็เลยทุกข์
แต่ถ้าหาว่าเรามีจิตใจที่ไม่เห็นแก่ตัว นึกถึงผู้อื่น ไม่มีโทรศัพท์มือถือก็ไม่ทุกข์เพราะว่าเด็กคนอื่นรองเท้าใส่ยังไม่มีเลย กินข้าวยังไม่ครบ 3 มื้อเลย พอเห็นแบบนี้แล้ว เราสบายกว่าเขาเยอะเลย! คิดแบบนี้ก็รู้สึกว่าเราโชคดีแล้ว ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีแท็บเล็ต เราก็มีความสุขได้ เพราะคนอื่นเขาลำบากกว่าเราเยอะ อันนี้เรียกว่ามีการพัฒนาทางด้านจิตใจ
แล้วก็มีการฝึกทางด้านทักษะ มือหมายถึงทักษะ เด็กที่มาบวชเณรเราจะฝึกทักษะหลายอย่าง รวมทั้งทักษะทำครัวด้วย ทักษะวาดรูป ย้อมผ้า พวกนี้เดี๋ยวนี้ทำกันไม่เป็นแล้ว ทำอะไรอย่างอื่นที่นอกจากเรียนหนังสือก็ทำไม่เป็นแล้วทั้งที่สำคัญ คนเราถ้าหากว่าเรามีความสามารถในการทำอะไรหลายอย่าง วาดรูปหรือว่าย้อมสีผ้า ต่อไปจะพบว่าทำแล้วมีความสุข กลับไปบ้านแล้วทำเป็นงานอดิเรก
รู้จักไหมงานอดิเรก เดี๋ยวนี้ไม่รู้จักกันแล้ว งานอดิเรกก็คือ สิ่งที่ทำแล้วเพลิดเพลินในยามว่าง เดี๋ยวนี้ว่างทีไรก็ไถโทรศัพท์มือถือ คนเดี๋ยวนี้อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน อันนี้เรียกว่าเสพ เป็นสุขที่เกิดจากการเสพ เครียดก็ไปหาอะไรกิน หาของหวาน ๆ กิน แทนที่จะรู้จักทำอะไรที่เพลิดเพลินเจริญใจแล้วหายเครียด ปลูกต้นไม้ วาดรูป หรือว่าถักนิตติ้ง หรือแม้แต่เลี้ยงสัตว์ มันก็ทำให้มีความสุข คลายเครียดได้ อันนี้เรียกว่างานอดิเรก ซึ่งทำแล้วทักษะมันก็จะเกิด แล้วก็เอาไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้ด้วย นอกจากคลายเครียดแล้วบางทีเอาไปทำมาหากินได้อีก
เพราะฉะนั้นในค่ายที่นักเรียนจะมาบวชเราจะมาฝึกทั้ง 3 อย่างเลย Head Heart Hand ถ้าเรียกสมัยใหม่ ส่วนที่เรียกแบบโบราณคือ ศีล สมาธิ ปัญญา มาเพิ่มเข้าไป เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ที่สมบูรณ์ เป็นการรู้ที่เรียกว่า วิชาชีวิต
ฉะนั้นที่พ่อแม่แนะนำชักชวน เกลี้ยกล่อม ล่อหลอกให้พวกเรามาบวช ถือว่ามาถูกทางแล้ว มาเรียนวิชาชีวิต มาพัฒนาทั้ง หัว หัวใจ แล้วก็มือคือทักษะ จะได้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของเราในภายภาคหน้า ที่จริงไม่ใช่ภายภาคหน้า วันนี้ก็ได้ประโยชน์แล้ว.