แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 27 มกราคม 2567
ผู้ชายคนหนึ่งนั่งขอทานอยู่ตรงสวนสาธารณะ คนเดินผ่านไปผ่านมา ไม่สนใจชายคนนี้ที่นั่งขอทานซึ่งท่าทางจะเป็นคนไร้บ้าน จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมา แล้วก็ทำโทรศัพท์มือถือตก ตรงหน้าชายผู้นั้นเลย ชายขอทานเห็นโทรศัพท์ราคาแพง แทนที่จะดีใจ หน้าเขาเหมือนกับตกใจ หันไปยังเจ้าของโทรศัพท์ที่เดินผ่านไปแล้ว พยายามเรียกชายที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์ แต่เขาคงไม่ได้ยิน เพราะเขาเดินเร็วเขาก็ทำท่าจะลุก เพื่อจะวิ่งตาม แต่คงจะรู้ว่าตามไม่ทัน ก็เลยไม่รู้ทำไง นั่งที่เดิมแล้วก็คงงง ไม่รู้จะทำยังไงกับโทรศัพท์มือถือ สักพักเจ้าของโทรศัพท์ก็เดินย้อนกลับมา ทำท่าทำทางมองหาโทรศัพท์ตามพื้น พอชายขอทานคนนั้นเห็นเจ้าของโทรศัพท์ เขาก็เรียกเลย แล้วก็ยื่นโทรศัพท์ให้ ถามว่า โทรศัพท์คุณหรือเปล่า เจ้าของโทรศัพท์ดีใจมากที่ได้โทรศัพท์คืน
มีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งขอทานเหมือนกัน ท่าทางก็เป็นคนไร้บ้าน อยู่หัวมุมถนน คนเดินผ่านไปผ่านมา เพราะมันเป็นย่านชุมชน แต่ก็ไม่ค่อยมีคนให้สตางค์เธอเท่าไร จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง ยังหนุ่มอยู่เลยมาขอเงินเธอ บอกว่าไม่มีเงินค่ารถจะกลับบ้าน ถูกล้วงกระเป๋า ไม่รู้จะพึ่งพาใคร จะมารบกวนขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้ทั้ง ๆ ที่เป็นขอทาน แล้วเธอก็คงจะไม่รู้ว่า วันนี้จะมีกินหรือเปล่า แต่พอมีคนเดือดร้อนอยู่ข้างหน้า เธอก็หยิบสตางค์ในกระป๋อง ทีแรกให้เหรียญหนึ่งก่อน แต่ตอนหลังให้อีกสองสามเหรียญ คือว่าให้หมดเลยเท่าที่จะมีในวันนั้น ผู้ชายคนนั้นดีใจมาก ขอบอกขอบใจใหญ่เลย
เหตุการณ์ที่ 3 คล้าย ๆ กัน คนขอทานเหมือนกับเป็นคนไร้บ้าน นั่งอยู่ริมถนน เผอิญช่วงนั้นก็มีคนใจดีเอาพิซซ่ากล่องใหญ่เลยมาให้เขา คงเห็นว่าเป็นคนยากจนไม่มีอะไรกิน ก็เลยเอาพิซซ่ากล่องใหญ่มาให้ ชายขอทานยังไม่ทันได้กินเลย ปรากฎว่ามีคนหนึ่งมาบอกว่าไม่มีอะไรกินเลยเช้านี้ นี่ก็บ่ายแล้ว ขอปันพิซซ่าให้เขาได้ไหม ชายไร้บ้านคนนั้น ใจดี เขายกให้เอาไปเลย ชายคนนั้นก็บอกว่า เอาแค่ครึ่งเดียวก็พอ เพราะพี่ก็คงไม่มีอะไรกินเหมือนกัน ชายคนนั้นก็ยินดีให้ครึ่งหนึ่ง และก็กินด้วยกัน
เหตุการณ์ทั้ง 3 เหตุการณ์นี้ ที่จริงก็มีคนแอบถ่ายไว้ ถ่ายคลิปวีดิโอ เพื่อดูว่าคนขอทาน คนไร้บ้าน เขาจะมีน้ำใจไหม ปรากฎว่าทั้งที่เขายากจน ไม่รู้ว่าจะมีกินในวันนั้นหรือเปล่า บ้านก็ไม่มี แต่ปรากฎว่ามีน้ำใจ เรียกว่าไร้ทรัพย์แต่ว่ารวยน้ำใจ ใครมาขอเงินก็ให้ด้วยความสงสาร ไม่มีอะไรกินก็แบ่งอาหารที่ตัวเองได้รับไปให้ โดยที่ไม่รู้ว่ามีคนแอบถ่าย เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า คนยากคนจน แม้ว่าจะไร้ทรัพย์ แต่ว่าความมีน้ำใจ หรือความซื่อตรงก็มีอยู่ อาจจะมากกว่าคนที่มีเงินด้วยซ้ำ อันนี้ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจว่า อย่าไปดูแคลนคนยากจนว่า แม้เนื้อตัวเขาจะสกปรก ไม่มีเงิน แต่เขาอาจจะมีน้ำใจ หรือมีคุณธรรมก็ได้
บางคนอาจจะเคยเจอคนที่มาหลอกเอาเงิน ตามสถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ มาบอกว่าไม่มีเงินกลับบ้าน ขอเงินหน่อย พอได้เงินเสร็จก็เอาไปกินเหล้า หรือมาขอทานขอเงินตามร้านอาหาร คนจะให้มากินอาหารก็ไม่ยอม จะเอาแต่เงิน พอได้เงินไปแล้ว ก็ไม่รู้เอาเงินไปทำอะไร แบบนี้ก็มี แต่เมื่อเจอแล้ว ก็อย่าไปมองว่า คนยากจนเขาเป็นอย่างนี้หมด คนที่ดี ๆ เขาก็มี คนที่มีคุณธรรมก็ไม่น้อย ใครบางคนเวลาเจอถูกหลอกแบบนี้ เรียกว่า เสียความรู้สึก เสื่อมศรัทธา ถึงกับเรียกว่า ตั้งใจเลย ใครมาขอ จะไม่ให้แล้ว เพราะไม่อยากถูกหลอก เห็นคนพวกนี้คดโกง ไม่ซื่อ แต่ที่จริงอาจจะเป็นส่วนน้อย นึกภาพถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่ได้เล่าเมื่อสักครู่ แม้จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่ว่าในเมืองไทย คนที่มีน้ำใจ แม้จะยากจน ก็ไม่น้อย
เพราะฉะนั้น อย่าให้คนไม่ดี คนที่ไม่ซื่อ บางคนที่เราเจอ มาทำให้เราเสื่อมศรัทธาในผู้คนทั้งหลาย
หรือมองคนยากจนในทางลบ แบบเหมารวม ที่ดี ๆ ก็มีไม่น้อย ให้นึกถึงคนเหล่านี้เอาไว้ ว่าที่เป็นคนดีมีคุณธรรม และก็เดือดร้อนจริง ๆ ก็มีเยอะ อันนี้รวมถึง คนที่อยากจะช่วยเหลือคนยากคนจน บางร้านประกาศเลย คนอายุ 65 ปี ขึ้นไป หรือคนยากคนจนมากินฟรีได้ แต่ก็เจอบางคนมากินในร้านไม่พอ ขอใส่ถุงกลับบ้าน 10 ถุง ทั้งที่แต่งตัวก็ดี เจ้าของร้านเจอแบบนี้ เรียกว่าหมดศรัทธาเลย ถึงกับลังเลใจว่า จะทำอย่างนี้ต่อไปดีไหม ก็อยากจะบอกว่า คนเห็นแก่ตัวมีอยู่ แต่คนดี ๆ ก็มีไม่น้อย อย่าให้คนที่เห็นแก่ตัว ไม่ซื่อ ไม่ดีบางคน มาทำให้คนที่ดี ๆ แต่เขายากจนขาดโอกาส ถูกมองไปในทางลบด้วย ให้เรามองแบบแยกแยะบ้าง แล้วก็ตระหนักว่าคนที่ยากไร้ แต่ว่ารวยน้ำใจมีคุณธรรมก็มีไม่น้อยเลย.