แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
มีหมอคนหนึ่ง ร่วมทีมผ่าตัดเด็กชายคนหนึ่งซึ่งป่วยหนัก แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น เด็ก เสียชีวิตคาเตียงเลย หมอคนนี้ก็เสียใจมาก เมื่อเดินออกจากห้องผ่าตัด ก็เดินไปหาแม่ของเด็กคนนี้ แล้วก็บอกขอโทษ แม่ของเด็กคนนี้ก็ตกใจ ทั้งเสียใจแล้วก็โมโหมากที่ลูกตัวเองตายคามือหมอ ก็เลยฟ้องร้องค่าเสียหาย
พอเรื่องขึ้นถึงศาล ปรากฏว่าหมอในทีมผ่าตัดทุกคนถูกฟ้องโดยแม่ของเด็กคนนี้ ยกเว้นหมอคนที่ว่า ซึ่งทนายความและคนอื่นๆ รวมทั้งจำเลยพากันแปลกใจ ว่าทำไมหมอคนนี้เป็นคนเดียวที่ไม่ถูกฟ้อง ทนายความไปถามหมอคนนี้ว่า ทำไมคุณหมอไม่ถูกฟ้อง ผมก็ตอบไม่ได้ หมอบอก เพราะไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลยกับแม่ของเด็กที่ตายหลังจากที่เกิดเหตุ
ทนายความก็เลยไปถามแม่ของเด็ก แม่ของเด็กให้เหตุผลว่า ที่ไม่ฟ้องก็เพราะว่าหมอเป็นคนเดียวที่ใส่ใจ ใส่ใจในที่นี้หมายถึงใส่ใจความรู้สึก หรือว่าความทุกข์ของผู้เป็นแม่ที่เสียลูก อะไรที่ทำให้แม่รู้สึกว่าหมอคนนี้ใส่ใจในความทุกข์หรือความสูญเสียของตัว สิ่งนั้นก็คือ คำขอโทษ หมอคนนั้นเป็นคนเดียวที่ขอโทษแม่ของเด็กที่เสียชีวิต แล้วก็คำขอโทษนี้มีพลังหรือว่ามีผลกระทบต่อความรู้สึกของแม่ของเด็ก
แม่เด็กโกรธหมอที่ทำให้ลูกตัวเองตาย แต่ว่าคำขอโทษของหมอคนนี้ ทำให้แม่โกรธหมอคนนี้ไม่ลงเพราะว่าหมอมาแสดงความเสียใจ มาแสดงความรับรู้เป็นทุกข์กับการสูญเสียของแม่ แม่ของเด็กก็เลยไม่ฟ้องหมอคนนี้
คำขอโทษนี้ ก็มีแค่ไม่กี่คำ ผมขอโทษ แค่ 3 คำนี้ สามารถจะช่วยลดทอนความโกรธของอีกฝ่ายหนึ่งได้ ที่จริงที่มันลดทอนความโกรธได้เพราะมันเป็นการช่วยเยียวยาความทุกข์ของผู้ที่สูญเสีย ไม่มากก็น้อยแล้วมันก็เป็นคำที่สามารถเปลี่ยนท่าทีของคนที่กำลังเป็นปฏิปักษ์กัน หรือว่าเป็นคู่กรณีกันได้อย่างขนิดที่เรียกว่าคาดไม่ถึง
มีนักธุรกิจคนหนึ่งขับรถบนทางด่วน เขาขับรถอยู่ทางเลนขวา โดยที่ไม่ตระหนักว่ามีรถคันหนึ่งอยู่ข้างหลังซึ่งพยายามเร่งเครื่อง แล้วก็พยายามแซง แต่แซงไม่ได้ เพราะว่าเขาอยู่เลนขวา สุดท้ายรถคันนั้นก็แซงซ้าย แซงเสร็จกดแตรดังเลย แล้วก็เปิดหน้าต่างตะโกนด่านักธุรกิจคนนี้
นักธุรกิจคนนี้ก็โมโห ตัวเองก็ว่าอยู่เฉยๆทำไมถึงถูกด่า เลยคิดจะเอาคืน ขับรถไล่ตาม เร่งเครื่องจนกระทั่งพอรถตีคู่ขนานกัน นักธุรกิจคนนี้ก็ลดกระจกลง เตรียมจะตะโกนด่า ในชั่วขณะนั้น เขาเกิดได้คิดขึ้นมาได้ แทนที่จะตะโกนด่าว่าเป็นหมาเป็นหมู เขากลับพูดขึ้นมาว่า ผมขอโทษ
รถอีกคันหนึ่งซึ่งก็ตั้งท่าไว้แล้ว เตรียมตอบโต้ เพราะรู้ว่าเขาคงจะมาด่าคืน ก็เตรียมจะด่ากลับลดกระจกลงเหมือนกัน แต่ว่าพอเจอคำขอโทษของรถคันนั้น อึ้งไปเลย และแทนที่จะตะโกนด่า ก็พูดออกไปว่า ผมก็ขอโทษเหมือนกัน เปลี่ยนใจกะทันหัน จากความรู้สึกโกรธ พร้อมที่จะด่าตอบโต้ กลับกลายเป็นว่า แสดงความเสียใจ
เท่านี้ยังไม่พอ ขณะที่รถตีคู่ขนานกัน แทนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแล่นแซง เพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็คงเร่งรีบทั้งคู่ ไม่งั้นก็คงไม่แซงกัน แต่คราวนี้ไม่ยอมแซง นักธุรกิจคนนั้นก็บอกรถอีกคันหนึ่งว่า คุณไปก่อน รถอีกคันก็บอกว่าคุณไปก่อนก็ได้ กลายเป็นว่าเอื้อเฟื้อกัน ทั้งที่เมื่อครู่ยังโกรธกันอยู่เลย แล้วก็คิดแต่ที่จะแซงกัน คิดแต่จะแย่งผิวถนนกัน
แต่ตอนนี้กลับเอื้อเฟื้อเจือจานให้อีกฝ่ายหนึ่งไปก่อน ท่าทีเปลี่ยนไปกะทันหัน จากการที่ความโกรธเคืองถึงขั้นบีบแตรตะโกนด่า มากลายเป็นมิตร เอื้อเฟื้อกัน เปิดทางให้อีกฝ่ายไปก่อน อันนี้เพราะอะไร ก็เพราะคำขอโทษ นักธุรกิจคนนั้นทีแรกเขาก็บอกว่า ตั้งใจจะด่า แต่จู่ๆก็เปลี่ยนใจมาขอโทษแทน
เขาคงได้คิดว่า เราก็คงจะขับรถไม่ถูกต้องก็คือไปชิดขวา ทำให้ไปขวางรถอีกคันหนึ่ง ซึ่งเขาขับได้เร็วกว่า เขาคงรับรู้ถึงความรู้สึกความทุกข์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากตัวเอง ก็เลยรู้สึกผิดขึ้นมา พอได้โอกาสก็เลยขอโทษ
คำขอโทษเป็นคำที่มีพลังในทางที่จะบรรเทาความทุกข์ บรรเทาความโกรธของผู้คน และก็ลดความเป็นปฏิปักษ์ แถมยังสามารถสร้างความเป็นมิตรให้เกิดขึ้นได้ แต่ว่าคนเรามักจะคิดว่าการขอโทษถือว่าเป็นเรื่องยาก ผมขอโทษหรือฉันขอโทษ บางทีจะให้ออกจากปาก ยากเหลือเกิน เพราะอะไร
เพราะความรู้สึก ส่วนหนึ่งเพราะความรู้สึกกลัวเสียหน้า ถ้าขอโทษไปก็แสดงว่าฉันผิด อัตตาหรือตัวกู ไม่ค่อยอยากจะยอมรับว่าฉันผิด เป็นธรรมชาติของมัน สัญชาตญาณของมันก็ได้ที่ต้องการแสดงว่ากูเก่ง กูดี กูถูก กูแน่ หรืออย่างน้อยๆกูไม่ผิด มึงต่างหากที่ผิด อันนี้เป็นนิสัยหรือธรรมชาติหรืออัตตา แล้วมันก็ทำให้คนปิดปาก ไม่เอ่ยคำขอโทษ ทั้งๆที่บางทีก็รู้ว่าตัวเองผิด แต่ว่าไม่ยอมพูดออกไป
เพราะว่ากลัวว่าจะเปิดช่องให้อีกฝ่ายหนึ่งเล่นงาน อย่างเช่น หมอหลายคน อาจจะรู้สึกว่าขอโทษไม่ได้ ถ้าขอโทษแล้วอีกฝ่ายหนึ่งจะเอามาเป็นเหตุในการฟ้องร้องว่า ตัวเองทำผิดพลาด หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นการแสดงความอ่อนแอสำหรับใครบางคน ซึ่งคิดว่ากูแน่ กูเก่ง กูเข้มแข็ง โดยเฉพาะคนที่เป็นผู้ชายจะไม่ค่อยอยากจะแสดงความอ่อนแอ
ทั้งๆที่คำขอโทษแสดงถึงความเข้มแข็งที่จะเอาชนะอัตตาได้ คนเราถ้าหากว่ารู้จักขอโทษเมื่อทำผิด หรือบางทีไม่ได้ทำผิดโดยเจตนา แต่ตระหนักว่า การกระทำของตัวมันก่อความทุกข์ให้กับผู้อื่น แล้วก็อยากจะแสดงความรู้สึกเสียใจ มันก็สามารถที่จะช่วยเยียวยาอีกฝ่ายหนึ่งได้ อย่างที่แม่ของเด็กพูดไว้ หมอคนนี้เขาเป็นคนเดียวที่ใส่ใจ ใส่ใจในความรู้สึก ใส่ใจในความทุกข์ของเธอ
คำขอโทษแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกถึงความใส่ใจในความทุกข์ของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการกระทำของตัวเองจะโดยตั้งใจหรือไม่ ก็แล้วแต่ จะโดยเจตนาหรือไม่ ก็แล้วแต่ แต่เพียงแค่แสดงความรับรู้ ใส่ใจความทุกข์ของอีกฝ่ายหนึ่ง มันก็ช่วยอีกฝ่ายหนึ่งได้มาก แล้วมันก็เป็นคุณกับผู้ที่เอ่ยคำขอโทษด้วย เพราะทำให้ความโกรธความเกลียดชังลดน้อยลง และอาจจะมีความเป็นมิตรเกิดขึ้นก็ได้
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 7 กันยายน 2564