พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 30 สิงหาคม 2568
เวลาพูดถึงสัตว์ หลายคนก็นึกต่อไปว่าสัตว์เดรัจฉาน สัตว์หน้าขน และมองว่าธรรมชาติของสัตว์คือ เห็นแก่กิน เห็นแก่ปากท้องเป็นใหญ่ แต่ก็ไม่แน่เสมอไป
เคยมีการทดลองโดยเอาลิงวอกมาใส่ไว้ในกรง 2 กรงติดกัน แต่ละกรงมีลิง 1 ตัว
ในกรงของลิงตัวแรกจะมีคันโยกอยู่ 2 คัน คันแรก ถ้าลิงโยกก็จะมีอาหาร คือ กล้วย ถั่ว แต่ถ้าโยกคันนี้เมื่อไหร่ตัวเองได้อาหารก็จริง แต่อีกตัวที่อยู่กรงติดกันก็จะโดนไฟช็อต จนกระทั่งมันร้อง
ส่วนคันโยกอีกคันหนึ่ง ถ้าลิงโยกก็จะได้อาหารแต่ได้ครึ่งเดียว และข้อดีคือลิงที่อยู่ติดกันในกรงไม่โดนไฟช็อต
เขาก็ดูว่าลิงจะเลือกโยกคันไหน ปรากฏว่าลิงส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไม่โยกคันแรก ทั้งๆที่ได้อาหารอิ่มหมีพีมันทีเดียว เพราะอะไร เพราะมันรู้ว่าถ้าโยกคันนี้อีกตัวหนึ่งก็จะเจ็บปวดทุกข์ทรมานเพราะโดนไฟช็อต ยิ่งถ้าเกิดว่าเป็นลิงที่เคยเป็นเพื่อนกัน หรือเคยอยู่ในกรงเดียวกัน
ลิงตัวแรกจะไม่ยอมแตะคันโยกคันแรก เพราะจะทำให้เพื่อนทุกข์ทรมาน แม้ว่ามันจะมีอาหารกินก็ตาม มีหลายตัวไม่แตะเลยไม่ว่าคันโยกที่ 1 หรือ 2 ยอมอดก็มีบ้างเหมือนกันที่แตะ แต่ว่าแตะคันโยกที่ 2 ได้กินแต่ว่าหิวบ้าง ก็ยังดีกว่าตัวเองอิ่มแต่เพื่อนเดือดร้อน
และมีลิงบางตัวไม่แตะคันโยกทั้ง 2 เลยเป็นเวลาเกือบ 2 อาทิตย์เลยคือ 12 วัน ยอมหิว ยอมหิวเพื่อเพื่อน ในแง่ที่ว่าถ้าตัวเองแตะคันโยกเพื่อมีอาหารกินเมื่อไหร่ เพื่อนก็อาจจะทุกข์ทรมานเพราะโดนไฟช็อต
เป็นการทดลองที่ทำให้เห็นว่าลิงก็มีน้ำอกน้ำใจ มีความรู้สึกเข้าใจ หรือจะเรียกว่าเห็นอกเห็นใจในความรู้สึกของลิงอีกตัวหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าเกิดว่าเป็นเพื่อนกัน หรือเคยอยู่ด้วยกัน ก็จะเข้าอกเข้าใจกันมากจนเกิดความเห็นใจ และเกิดความมีน้ำใจ
น่าสนใจที่ลิงยอมอดเพราะไม่ต้องการให้เพื่อนเดือดร้อน ลิงไม่เลือกที่จะอิ่มถ้าหากว่าเพื่อนทุกข์ทรมาน
สิ่งเหล่านี้ก็มีในคนเหมือนกัน เพราะคนก็มีความเมตตา จะว่าไปแล้วนี่เป็นคุณสมบัติหนึ่งที่จะวัดความเป็นมนุษย์ของคนเรา ก็คือ มีความเห็นอกเห็นใจ และยอมที่จะอด หากว่าความอิ่มของตัวทำให้เพื่อนเดือดร้อน
แต่เดี๋ยวนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกจะอิ่ม เลือกจะรวย เลือกจะมั่งคั่ง แม้ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เพื่อนหรือคนอื่นเดือดร้อน ลิงไม่ทำ แต่คนจำนวนหนึ่งทำ เรียกว่าเห็นแก่ตัวเองมากกว่าคนอื่น อยากรวย เลือกที่จะรวย เลือกที่จะมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ แล้วปล่อยให้เพื่อนมนุษย์เดือดร้อน ทุกข์ทรมาน
ในแง่นี้ลิงซึ่งเราเรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน สัตว์หน้าขน ก็มีคุณธรรมมากกว่าคนเราบางคน และนอกจากลิงมีน้ำใจแล้ว ประเภทว่ายอมอดถ้าหากว่าเพื่อนเดือดร้อน
ยังมีบางสถานการณ์ที่ลิงยอมอด แต่ไม่ใช่เพราะว่าเพื่อนเดือดร้อน ถ้าเพื่อนมีมากเกินไป ลิงก็ไม่พอใจเหมือนกัน
มีการทดลองอีกที่หนึ่งทำกับลิงคาปูชิน คล้ายๆกัน อยู่ในกรงติดกัน กรงละตัว ผู้ทดลองให้ลิงทั้ง 2 ตัวทำการบ้านง่ายๆ คือยื่นก้อนหินหรือก้อนกรวดมาให้คน ถ้ายื่นมาให้ก็จะได้รับรางวัล
ลิงตัวแรกยื่นก้อนหินมาให้ก็ได้รางวัล ก็คือ แตงกวา ลิงตัวที่ 2 ทำแบบเดียวกัน ยื่นก้อนหินมาให้แต่ได้รางวัลเป็นองุ่น องุ่นนั้นลิงชอบ มันอร่อย มันหวาน
ลิงตัวแรกเห็นตัวที่ 2 ได้องุ่นก็ไม่พอใจ ทำไมฉันได้แค่แตงกวา เที่ยวที่ 2 ทำเหมือนกัน ลิงตัวแรกก็ยื่นก้อนหินมาให้ พอคนได้ก้อนหินก็ให้รางวัลเป็นแตงกวาเหมือนเดิม
คราวนี้ลิงตัวที่ 1 ไม่พอใจแล้ว พอได้แตงกวา ก็เอาแตงกวาขว้างใส่คนเลย กูไม่กินแล้วแตงกวา เพราะอะไร เพราะตัวเองควรจะได้องุ่นเหมือนกับเพื่อนอีกตัวหนึ่ง
รอบนี้ ลิงตัวที่ 2 นั้นทำแบบเดิมเดียวกัน เอาก้อนหินคืนมาให้กับคน คนก็ให้องุ่น ลิงตัวแรกไม่พอใจมาก
เที่ยวที่ 3 เหมือนเดิม มันเอาก้อนหินยื่นมาให้คน คนก็ให้แตงกวาเหมือนเดิม มันโกรธมากเอาแตงกวาขว้างใส่คน ไม่ยอมกินแตงกวา แล้วก็เขย่ากรง ไม่พอใจ
ลิงตัวแรกยอมอดทั้งที่มันชอบแตงกวา แต่มันไม่พอใจที่อีกตัวหนึ่งได้ดีกว่าคือได้องุ่น
ยอมอดเพราะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม มันมีทั้งความรู้สึกอิจฉา อิจฉาตัวที่ 2 ที่ได้องุ่น และโกรธมนุษย์ โกรธคนที่ไม่เป็นธรรมกับมัน ทำไมมันได้แตงกวาแต่เพื่อนได้องุ่น
ทั้งที่มันหิวแต่มันไม่กินแล้วแตงกวา มันเอาแตงกวาขว้างใส่คนเลย จะว่ามันโง่ก็ได้ เพราะพอมันเอาแตงกวาขว้างมันก็อดกิน แต่มันยอมทำ อาจเพราะความโกรธ ถ้าเป็นคนก็อาจจะเรียกว่าลืมตัวก็ได้ หรือจะเป็นเพราะต้องการประท้วง ต้องการประท้วงว่าแตงกวาไม่เอา เอาองุ่นมาให้ฉันดีกว่า
นี่ก็เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ลิงนั้นนอกจากจะมีความเมตตา มีน้ำใจ มีความเห็นอกเห็นใจเพื่อนที่เดือดร้อนแล้ว มันยังมีความอิจฉา ถ้าเพื่อนได้มากกว่ามัน รวมทั้งมีความโกรธ ถ้าคนไม่มีความเป็นธรรมกับมัน
สิ่งเหล่านี้ก็มีในคนเหมือนกัน คนก็มีทั้งความเมตตา เห็นอกเห็นใจเพื่อนที่เดือดร้อน และความเดือดร้อนตอนหลังก็ขยายไปถึงคนอื่นด้วย แม้จะไม่ใช่เพื่อน แม้จะไม่ได้เป็นคนรู้จัก แต่ถ้าเดือดร้อนเราก็ช่วย
คนนั้นจะดีกว่าสัตว์ก็ตรงที่ขยายความเห็นอกเห็นใจความเมตตาออกไปกว้างขวาง ไม่ใช่เฉพาะกับเพื่อน ไม่ใช่เฉพาะกับครอบครัว แต่รวมไปถึงเพื่อนต่างเผ่า คนต่างศาสนา คนต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา เรื่องนี้คือสิ่งที่แสดงถึงมนุษยธรรม
เราเรียกว่ามนุษยธรรม เพราะความใจกว้างแบบนี้ ความเมตตาแบบนี้เราเชื่อว่ามีเฉพาะในมนุษย์ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่แน่ เพราะสัตว์ก็มีเหมือนกัน ช่วยเพื่อนที่เดือดร้อนต่างเผ่า มีเยอะ
ปลาโลมาช่วยแมวน้ำ หรือว่าเต่าช่วยคน สัตว์ก็มีเช่นกัน แต่เราในฐานะที่เป็นมนุษย์ต้องไม่ลืมว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่วัดความเป็นคนหรือความเป็นมนุษย์อย่างหนึ่ง
ถ้าเราสนใจแต่ความสุขความสบายของตัวโดยไม่สนใจความเดือดร้อนของคนอื่น ก็แปลว่านอกจากเราจะไม่มีความเป็นมนุษย์แล้ว บางทีเราแย่กว่าสัตว์ด้วย
เช่นเดียวกันสำนึกในความเป็นธรรมก็มีในคนเหมือนกัน แต่การแสดงออกซึ่งความเป็นธรรม หรือเรียกร้องความเป็นธรรมของคนเรา บางทีเราก็ต้องใช้สติเพราะไม่งั้นก็จะกลายเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับตนเอง
แต่แน่นอนว่าบางทีการที่เราจะเสียสละเพื่อความเป็นธรรม เพื่อความถูกต้อง ก็จะต้องเดือดร้อนบ้าง แต่ก็ต้องทำด้วยสติ ทำด้วยปัญญา ไม่ใช่ทำด้วยความโกรธ ไม่ใช่ทำเพราะว่าความเคียดแค้นชิงชัง เรื่องนี้คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์เรา จะว่าไปแล้วก็เหนือกว่าสัตว์ สัตว์เองก็มี แต่มันทำไปด้วยอารมณ์ แต่คนเราควรจะทำอะไรได้มากกว่าเหตุผลทางอารมณ์.