PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • เปิดประตูใจของคนทุกข์
เปิดประตูใจของคนทุกข์ รูปภาพ 1
  • Title
    เปิดประตูใจของคนทุกข์
  • เสียง
  • 14066 เปิดประตูใจของคนทุกข์ /aj-visalo/2025-09-15-03-07-47.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันจันทร์, 15 กันยายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 สิงหาคม 2568
    มีผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งชื่อลูเซีย อายุก็ 60 ต้น ๆ บ้านเธอเป็นบ้านเล็ก ๆ อยู่ริมถนนซึ่งเป็นถนนสายเล็ก ๆ อยู่กับสามี 2 คน เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเป็นผู้ชายชื่ออีแวนส์ อายุประมาณ 60 แต่อยู่กันมาหลายปี อีแวนส์ก็ไม่เคยทักทายเพื่อนบ้าน คือลูเซียกับสามีเลย ทั้งที่รั้วนี้ก็เป็นรั้วเตี้ย ๆ
    ฝรั่งในอเมริกาถ้าอยู่ชานเมืองเขาไม่ค่อยสร้างกำแพงสูง เขามีรั้วเตี้ย ๆ หรือบางทีก็มีต้นไม้เป็นพุ่มเป็นแถวเป็นแนวยาวบอกอาณาเขต เพราะฉะนั้นใครทำอะไร เช่น ตัดหญ้า เพื่อนบ้านก็รู้ เห็น
    แล้วลูเซียก็สังเกต ทุกเช้าอีแวนส์จะถือบัวรดน้ำมารดต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้เป็นแปลงเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เป็นกุหลาบสีแดง เวลามารดน้ำก็ไม่เคยโบกมือทักทายเธอแล้วก็สามีเลย ทั้งที่เห็นหน้ากันอยู่ เรื่องพูดคุยกันไม่ต้องพูดถึง ไม่มีการทักทายสวัสดีอะไรทั้งสิ้น
    ออกมาข้างนอกเพียงแค่รดน้ำ รดน้ำเสร็จก็กลับเข้าบ้าน แล้วไปทำงาน แต่ระยะหลัง ลูเซียสังเกต อีแวนส์นี่เงียบซึมลง แต่ว่ากิจวัตรก็ยังมารดน้ำแปลงกุหลาบเหมือนเดิม แต่ท่าทางจะอ่อนแรงลงไปเรื่อย ๆ
    วันหนึ่งขณะที่เธอนั่งอยู่บนระเบียงบ้านเห็นอีแวนส์เอาบัวรดน้ำมารดกุหลาบ แต่ว่าบัวรดน้ำคงจะหนัก ที่จริงมันก็หนักเท่านี้มานานแล้ว แต่ว่าคราวนี้มือของอีแวนส์เริ่มสั่น แล้วสุดท้ายบัวรดน้ำก็ตกลงจากมือ พื้นหญ้าเปียกหมดเลย อีแวนส์นั่งมองพื้นอย่างละเหี่ยใจ ไม่พูดอะไร แล้วก็ไม่แม้กระทั่งเก็บบัวรดน้ำมารดน้ำต่อ แต่ว่าเดินเข้าบ้านไปเลย
    ลูเซียเห็นอย่างนี้ก็รู้สึก มันมีเสียงอะไรบางอย่างในใจว่า น่าจะทำอะไรสักอย่าง แต่เธอไม่กล้าเพราะว่าอีแวนส์เป็นคนที่ท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่ว่าคราวนี้มันมีสัญญาณบ่งบอกว่า อีแวนส์คงจะแย่ อาจจะเจ็บป่วย หรืออะไรสักอย่าง ไม่สามารถจะรดน้ำได้เหมือนเคย นอกจากไม่มีกำลังวังชาแล้วไม่มีกำลังใจด้วย ละเหี่ยใจ ถึงปล่อยให้บัวรดน้ำนี่มันนอนอยู่บนพื้นหญ้าอย่างนั้น
    ลูเซียเห็นอย่างนี้ก็เลยรวบรวมความกล้า เดินไปที่บ้านของลูเซีย ฝรั่งนี่เขาไม่มีรั้วบ้าน หลายแห่งนี่ เพราะฉะนั้นเดินเข้าไปถึงตัวบ้านได้เลย แล้วเธอก็ชั่งใจอยู่นานว่าควรจะเคาะประตูดีไหม แต่สุดท้ายเธอก็เคาะประตู มือก็สั่นเพราะรู้ว่าอีแวนส์เป็นคนที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
    พอประตูเปิด เห็นหน้าอีแวนส์ แต่แกก็ไม่ได้พูดขับไล่ไสส่งอะไร ไม่ได้พูดว่า มาทำไม อยู่เงียบ ๆ ถอยหลัง เหมือนกับว่าจะยอมให้เธอเข้าไปในบ้านได้ แต่เธอก็ไม่เข้าไปในบ้าน เธอถามว่า เป็นอะไรหรือเปล่าคุณ เห็นคุณรดน้ำแล้วทำบัวรดน้ำตก ข้อมืออักเสบหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวนี่ฉันช่วยรดน้ำให้
    อีแวนส์ไม่พูดอะไรแต่ส่งสัญญาณทำให้เธอรู้ว่า เออ เขายอมให้เธอไปรดน้ำ แล้วเธอก็ไปรดน้ำแปลงดอกกุหลาบ แปลงกุหลาบ วันรุ่งขึ้นเธอทำอย่างนั้นอีก แล้วก็ทำอย่างนี้ติดต่อกันหลายวันเพราะว่าอีแวนส์นี่ท่าทางจะหมดสภาพไปแล้ว อีแวนส์รู้ว่าเธอมารดน้ำ ก็มายืนอยู่บนระเบียงเงียบ ๆ ไม่พูดไม่คุยอะไร ไม่แม้กระทั่งขอบคุณ แต่ยังดีไม่ขับไล่ไสส่ง ไม่ตะโกนว่ามาจุ้นจ้านอะไรเรื่องของฉัน
    ต่อมาเธอเอาน้ำชาไปให้อีแวนส์ เพราะว่าตอนนี้อีแวนส์เกษียณแล้ว อยู่บ้านทั้งวัน ลูเซียก็ชงน้ำชาร้อน ๆ ไปให้ ไปยื่นให้เขาที่หน้าบ้าน หน้าประตู อีแวนส์รับแล้วไม่พูดอะไร เธอก็ทำอย่างนี้ทุกวัน รดน้ำต้นไม้ให้แล้วก็เอาน้ำชาไปให้
    จนกระทั่งมีวันหนึ่ง อีแวนส์เริ่มแตะมือของเธอตอนที่ยื่นน้ำชาให้ มือนั้นเย็นมาก อย่างน้อยก็แสดงว่าเริ่มมีปฏิสัมพันธ์แล้ว ตอนหลังอีแวนส์เริ่มมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น พอออกมาจากบ้านมาที่สนามหญ้าก็โบกไม้โบกมือ ทักทาย สวัสดี อรุณสวัสดิ์ Good morning เริ่มพูดเริ่มคุยแล้ว
    จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูเซียก็ไปพูดคุยกับอีแวนส์ที่บ้าน ไม่ได้นั่งคุยในบ้านแต่ว่าคุยกลางสนามหญ้า บรรยากาศก็ดี แล้วอีแวนส์ก็เริ่มเปิด เปิดใจ คุยกันเรื่องคนรัก สามี ภรรยา ความทรงจำเก่า ๆ แล้วก็เลยมารู้ว่า อีแวนส์สูญเสียภรรยาไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แล้วเขารักภรรยามาก ภรรยาก็ชอบดอกกุหลาบสีแดง แม้ตายไปแล้วเขาก็ยังนึกถึงภรรยา ก็เลยรดน้ำที่ภรรยาเคยปลูก รดน้ำจนกระทั่งรดไม่ไหว ไม่ใช่ไม่มีกำลังแต่ว่าใจมันห่อเหี่ยวมาก
    จนกระทั่งบางทีก็สงสัยว่า ฉันรดน้ำไปทำไม เมียก็ตายไปแล้ว และฉันก็ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง แต่ตอนนี้เริ่มมีกำลังวังชา เริ่มมีกำลังใจ แล้วก็เริ่มเปิดใจพูดคุยกับเพื่อนบ้าน นอกจากทักทายแล้วก็เปิดใจเล่าเรื่องความสุข ความทุกข์ ความพลัดพรากสูญเสียให้ฟัง
    ลูเซียก็เล่าเหมือนกัน ก็เลยกลายเป็นว่าเริ่มมีปฏิสัมพันธ์ เริ่มมีความเป็นมิตรกันมากขึ้น เจอกันเมื่อไหร่ก็ทักทายกัน ถ้าอยู่ไกล ๆ ก็โบกมือ แล้ววันหนึ่งอีแวนส์ก็เอาดอกกุหลาบสีแดงมาให้ลูเซีย แล้วก็ยิ้มแย้ม แล้วก็ฝากความระลึกถึงสามีด้วย สามีชื่อจอห์น แล้วก็บอกขอบคุณ ขอบคุณที่มองเห็นผม
    ตั้งแต่นั้นมาอีแวนส์ก็กลายเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มีน้ำใจ เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมา แตกต่างจากตอนแรก ๆ เลย ห่อเหี่ยว ไม่มีความเป็นมิตร ไม่พูดไม่คุยกับใคร ไม่ทักทาย ไม่สบตาเลยทั้งสิ้น แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว
    แสดงว่าจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนแย่ แต่ว่าเขามีความทุกข์ใจ ความทุกข์ใจคือการสูญเสียภรรยา อาจจะเริ่มเสียใจตั้งแต่ภรรยาป่วยหนัก แล้วพอตายก็หมดสภาพเลย ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม เลยไม่ค่อยมีความเป็นมิตรกับใคร
    ในขณะที่ลูเซียแกเป็นคนมีน้ำใจ แล้วก็สามารถที่จะรู้ว่า คนที่ไม่มีความเป็นมิตร ที่น่าระอานี่เขามีบาดแผลภายใน แล้วก็กล้าที่จะเข้าไปทักทาย แต่เธอก็ไม่ทำอะไรมาก ทีแรกเธอก็แค่ไปเคาะประตูบ้าน แต่เธอบอกต้องใช้ความกล้ามากในการเคาะประตูบ้าน แล้วพบว่าแค่เคาะประตูบ้านมันก็ช่วยเปิดใจของอีแวนส์ ที่ทำให้มีสิ่งดี ๆ ตามมามากมาย
    เธอพบว่า การทำความดี การมีน้ำใจ มันไม่ต้องทำอะไรมากมายยิ่งใหญ่ มันแค่ไปช่วยรดน้ำต้นไม้ให้ เคาะประตูบ้านไต่ถามทุกข์สุข เอาน้ำชาไปให้ แล้วก็อยู่กับคน ๆ นั้นโดยที่ไม่ต้องไปจุ้นจ้านอะไรมาก บางคนก็ปรารถนาดี ไปจุ้นจ้านอะไรต่ออะไรมากมาย
    แต่ว่าลูเซียนี่แกรู้ว่า ควรทำแค่ไหน ไม่รุกล้ำโลกส่วนตัว แล้วก็ไม่ทำอะไรที่ทำให้อีแวนส์ตกใจ คนดี คนปรารถนาดีบางคนนี่เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการ จัดบ้านให้โดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันจะขอ บางทีเข้าไปในบ้านเลย อาสาทำอะไรหลายอย่าง ก็ดีแต่ว่าบางทีคนทุกข์เขายังไม่พร้อม เรียกว่าต้องวางระยะ แล้วก็รู้จังหวะ
    ในแง่หนึ่งก็ชี้ให้เห็นว่า การช่วยคนนี่ก็ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมาก ขอให้มีใจ ทักทายพูดคุย แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่า เมื่อจะทำแล้ว เมื่อจะช่วยแล้ว อย่าช่วยชนิดไปรุกล้ำเขา ค่อย ๆ ให้เวลา ให้โอกาสเขาค่อย ๆ เปิดใจ
    และทีละน้อย ๆ อีแวนส์ค่อย ๆ เริ่มเปิดใจเข้าหาลูเซียและสามี และสุดท้ายก็กลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิม เพราะว่ารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อนบ้าน เพราะว่าตอนหลังนี้ก็ไม่ใช่มีแค่ลูเซียคนเดียวที่มาหยิบยื่นน้ำใจให้ เพื่อนบ้านหลายคนพอรู้ก็มาเยี่ยม เอาขนมมาให้ หรือไม่ก็มาทักทาย
    แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำโดยที่ไม่เป็นรุกล้ำเจ้าตัวมากเกินไป เพราะถ้ารุกล้ำมากไป คนบางคนเขาอาจจะรู้สึกว่า เขาถูกรบกวนความเป็นส่วนตัว คนบางคนเขาก็มีโลกส่วนตัวสูง เพราะฉะนั้นจะเข้าไปแต่ละทีก็ต้องให้เขาอนุญาต ถ้าเขาไม่ขับไล่ไสส่งก็แสดงว่าเขาอนุญาต
    อันนั้นก็เรียกว่าเป็นวิธีการที่จะช่วยคนให้เขากลับมามีชีวิตชีวา กลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิมหลังจากที่สูญเสียคนรักไป อันนี้ก็เป็นแง่คิดที่ดีสำหรับการเข้าใจคนที่บางคนไม่เป็นมิตรเอาเลย ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนมีนิสัยเสีย แต่ว่าเขามีความทุกข์ใจบางอย่าง ถ้าเราเข้าใจเขาเราก็สามารถจะช่วยให้เขากลับมามีความสดชื่นแจ่มใสเหมือนเดิมได้.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service