PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ของดีที่ควรรู้จัก
ของดีที่ควรรู้จัก รูปภาพ 1
  • Title
    ของดีที่ควรรู้จัก
  • เสียง
  • 14010 ของดีที่ควรรู้จัก /aj-visalo/2025-07-29-04-02-44.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันอังคาร, 29 กรกฎาคม 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 26 กรกฎาคม 2568
    โลกรอบตัวเรามีสิ่งมีชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแมลง นก ปลา หรือว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีมากมายหลากหลาย ร่างกายเราก็เหมือนกัน จะว่าเป็นโลกอีกแบบหนึ่งก็ได้ เพราะว่ามีสิ่งมีชีวิตมากมายตามผิวหนังของเรา อาจจะมีพวกแบคทีเรียเกาะอยู่ตามผิวหนัง
    สมัยก่อนบนหัวก็มีเหา เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว ยิ่งตัวโลนก็ไม่มี เดี๋ยวนี้เด็กสมัยใหม่ไม่รู้จักแล้ว โลนคืออะไร แต่ก่อนมันเป็นแมลงที่หาได้ง่ายมาก อยู่ตามเนื้อตัวเรา ไรอีกต่างหาก หมัด เดี๋ยวนี้ถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้วในเมือง
    แต่ในร่างกายเรามีสิ่งมีชีวิตมากมาย สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ใช่แค่พยาธิ ยังมีที่เล็กกว่านั้นเขาเรียกว่าจุลชีพ หรือจุลชีวัน มีอยู่ทั่วร่างและทั้งตัวเราโดยเฉพาะในกระเพาะอาหาร ตอนนี้เขาประมาณว่ามีจุลชีวันหลายพันชนิด
    เวลาพูดถึงจุลชีวัน เราก็นึกถึงแบคทีเรีย และพอนึกถึงแบคทีเรีย เราก็รู้สึกว่ามันคือตัวก่อโรค เป็นเชื้อโรค บางทีเราเรียกว่าเชื้อโรค
    แต่จุลชีวันส่วนใหญ่ในกระเพาะอาหารของเราไม่ได้ก่อโรค แถมมีประโยชน์ด้วย มีประโยชน์อย่างที่เรานึกไม่ถึง อย่างเช่นตอนนี้ เรารู้แล้วว่าพวกจุลชีวันในกระเพาะอาหารจำนวนมากช่วยย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต โปรตีน หรือว่าสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายเราย่อยสลายได้ยาก
    ย่อยสลายมีประโยชน์อย่างไร มีประโยชน์คือ ทำให้มีสารอาหารมาช่วยบำรุงเลี้ยงร่างกาย ถ้าไม่มีจุลชีวันเหล่านี้แล้ว อาหารที่เรากินเข้าไปมีประโยชน์ต่อร่างกายเราน้อยมาก มันกลายเป็นปฏิกูลไปหมด ของดี ๆ ก็ออกไปทางอุจจาระ ปัสสาวะ แต่เป็นเพราะมีจุลชีวันดี ๆ เยอะช่วยย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และสารอาหารหลายชนิด ทำให้ร่างกายเรามีสารอาหารบำรุงเลี้ยง
    มิหนำซ้ำยังช่วยสร้างด้วย สร้างสารอาหารบางอย่างที่ร่างกายเราผลิตไม่ได้ แต่มีประโยชน์ และจำเป็นมากต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี วิตามินบีบางชนิดไม่สามารถจะหาได้จากอาหาร
    แต่โชคดีที่มีจุลชีวันบางชนิดเขาสังเคราะห์วิตามินบีบางชนิดนี้ขึ้นมา รวมทั้งกรดไขมันบางอย่างด้วย กรดไขมันมีประโยชน์อย่างไร มีประโยชน์มาก มันช่วยบำรุงภูมิคุ้มต้านทานในร่างกาย และลดการอักเสบ
    เขาเชื่อว่าการอักเสบทำให้เกิดเป็นโรคหัวใจได้ เพราะมันทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันหรือเขาเรียกว่าพลัค (Plaque) คราบพลัคจะเกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือดหัวใจ และสมอง พอมีมาก ๆ เข้า เส้นเลือดก็อุดตัน ตีบ ตัน แตก เพราะว่าการอักเสบที่เกิดขึ้นมีได้มากมาย ไม่ใช่เกิดขึ้นแต่ตามผิวหนังเวลามีแผล ข้างในเราก็มีอักเสบเกิดขึ้นได้เยอะมาก แต่ว่ากรดไขมันที่แบคทีเรียหลายชนิดสร้างช่วยป้องกัน
    และสารบางอย่างที่แบคทีเรียหรือจุลชีวันสร้างยังไปช่วยกระบวนการเผาผลาญร่างกายที่เราเรียกว่า เมตาบอลิซึม (Metabolism) พวกนี้มีประโยชน์มาก เพราะว่าถ้ามีปัญหาจะเกิดโรคหลายอย่าง อย่างเช่นเขาพบว่า คนที่แบคทีเรียหรือจุลชีวันบางอย่างหายไปจะเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ไม่ใช่ประเภทที่ 1 ซึ่งประเภทที่ 1 เป็นกรรมพันธุ์ แต่ประเภทที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อโตแล้ว
    พูดอีกอย่างหนึ่งคือว่า แบคทีเรียหรือจุลชีวันในกระเพาะอาหารของเรา ถ้ามีมากมายอุดมสมบูรณ์ มันทำให้โรคหลายชนิดเกิดขึ้นได้ยาก แต่ถ้ามีน้อยจะเกิดโรค เช่น เบาหวาน เกิดโรคอักเสบในกระเพาะอาหาร เขารู้ได้อย่างไร
    เขารู้ได้เพราะการสังเกตศึกษากระเพาะอาหารของคนที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 หรือคนที่มีการอักเสบในกระเพาะอาหาร พบว่าความหลากหลายของแบคทีเรียหรือจุลชีวันมีน้อยมาก แปลว่าแบคทีเรียตัวดี ๆ หายไปจากกระเพาะอาหาร เลยทำให้เป็นโรคเบาหวาน ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าการที่มีแบคทีเรียดี ๆ เยอะ ๆ มันไปช่วยเบียดขับเชื้อโรคที่ไม่ดีหรือจุลชีวันที่ไม่ดีออกไป
    ในกระเพาะอาหารเรา มีจุลชีวันที่ดีและไม่ดี พวกนี้แย่งอาหารกัน ถ้าเกิดว่ามีจุลชีวันดี ๆ มันก็กินอาหาร แย่งชิงพื้นที่ ทำให้จุลชีวันที่ไม่ดีอยู่ได้ยาก แต่พอจุลชีวันดี ๆ หายไป หรือว่าลดน้อยถอยลง จุลชีวันที่ไม่ดีหรือเป็นตัวก่อโรค ก็อิ่มหมีพีมัน เพราะคู่แข่งน้อย และมีพื้นที่แพร่เผ่าพันธุ์ เลยเกิดอาการอักเสบในกระเพาะอาหาร และเกิดโรคนานาชนิด
    และเดี๋ยวนี้เขาพบว่า จุลชีวันดี ๆ มีประโยชน์มากกว่านั้น มีผลดีต่อสมองเรา ผลของมันยาวไปถึงสมองของเรา ทำให้อารมณ์ดี แต่ถ้าเกิดว่าจุลชีวันดี ๆ หายไป มีโอกาสที่จะทำให้เกิดอารมณ์ไม่ดี เช่น เกิดโรคซึมเศร้า เขารู้ได้อย่างไร
    เขารู้ได้เพราะว่ามีการทดลองกับหนู เอาจุลชีวันทั้งระบบที่เขาเรียกว่าชีวนิเวศ หรือ Biome ของคนป่วยโรคซึมเศร้าถ่ายไปสู่ร่างกายหรือกระเพาะของหนู หนูดี ๆ กลายเป็นหนูซึมเศร้า หนูที่มีอาการดี ๆ กระฉับกระเฉงกลายเป็นหนูซึมเศร้า
    เขาพบว่าเป็นไปได้มากว่าจะเกิด เพราะว่าเอาจุลชีวันจากร่างกายของคนที่มีปัญหามาใส่เข้าไป มันทำให้กระเพาะอาหารของหนูดี ๆ เพี้ยนไป จุลชีวันดี ๆ หายไป มีแต่จุลชีวันที่ไม่ดี จุลชีวันที่ดี ๆ ที่เคยควบคุมทำให้ระบบอารมณ์ของคนเราดีเลยผิดเพี้ยนไป เลยเกิดโรคซึมเศร้า
    เขายังไม่ได้ทดลองกับคน แต่เขาทดลองกับหนูแล้วพบว่า มีความเชื่อมโยงกันระหว่างจุลชีวันที่มีความหลากหลายน้อยในกระเพาะอาหารกับการเกิดโรค
    แล้วไม่ใช่แค่โรคซึมเศร้าเท่านั้น โรคปอดบวมหรือว่าโรคหวัด เขาทดลองกับหนูแล้วพบว่า หนูที่แข็งแรงป่วย ปอดบวม ถ้าเกิดว่ากระเพาะอาหารของหนูมีความหลากหลายทางจุลชีวันน้อย เขาทำได้อย่างไร เขาเอาจุลชีวันหรือระบบชีวนิเวศของคนที่ป่วยใส่เข้าไป ทดลองกับหนู หนูเลยป่วยตาม
    เพราะฉะนั้น เราเป็นหนี้บุญคุณพวกจุลชีวันเล็ก ๆ น้อย ๆ มาก แต่ก่อนเรามองว่าเป็นตัวก่อให้เกิดโรค แต่จุลชีวันหรือแบคทีเรียที่เป็นตัวร้ายมีส่วนน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่ดี
    แต่ว่าชีวิตของเราตอนนี้ การบริโภคของเรากำลังทำลายจุลชีวันดี ๆ ไปเยอะ เพราะว่าจุลชีวันดี ๆ จะเกิดขึ้นได้จากอาหารที่มีเส้นใยสูง รวมทั้งผัก ผลไม้ และพวกอาหารที่เปรี้ยว อย่างเช่น โยเกิร์ต หรือว่า คอมบูชา (Kombucha) รวมทั้งถั่วที่มีเปลือกหนา พวกนี้ดีต่อร่างกายของเรา ดีต่อกระเพาะอาหารของเรา ดีต่อจุลชีวันในร่างกาย
    แต่เดี๋ยวนี้เรากินอาหารพวกนี้น้อย เพราะว่าเราไม่ค่อยกินผักกันเท่าไร เส้นใยเราก็ไม่ชอบ เราไม่เห็นประโยชน์ของเส้นใยซึ่งมีมาก สมัยก่อนเราเรียกว่ากาก แต่เดี๋ยวนี้เขาพบอาหารไม่ค่อยมีกากแล้ว เป็นอาหารที่ไม่มีผัก เป็นอาหารที่ปรุงแต่งให้รสชาติดีเพราะว่าใส่สารเคมี ผ่านกระบวนการมากมาย จะมีเส้นใยน้อย
    อาหารเหล่านี้ทำให้จุลชีวันดี ๆ ในกระเพาะเราตายไป เพราะไม่มีเส้นใยที่จะมาหล่อเลี้ยงมัน พอมันตายไปหรือมีจำนวนน้อยลงเลยทำให้คนสมัยนี้ป่วยด้วยโรคนานาชนิดที่คนสมัยก่อนไม่เคยเป็น
    มิหนำซ้ำชอบใช้ยาปฏิชีวนะ เอะอะอะไรก็ใช้ยาปฏิชีวนะ ขนาดเป็นหวัดก็ใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้ง ๆ ที่หวัดเป็นเพราะไวรัส แต่ยาปฏิชีวนะกำจัดเฉพาะแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะมันจะไปทำลายจุลชีวันดี ๆ ที่มีอยู่มากมายในกระเพาะเรา เพราะฉะนั้น การที่เราใช้ยาปฏิชีวนะกันพร่ำเพรื่อ นอกจากเปลืองเงินแล้ว ยังทำลายสุขภาพเราในระยะยาว
    อันนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะรู้ไว้ว่า จริง ๆ อาหารของบรรพบุรุษมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ต่อร่างกายของเรา โดยที่เราไม่รู้เลยว่ามันไปช่วยบำรุงเลี้ยงจุลชีวันดี ๆ เยอะเลยในกระเพาะของเรา นอกเหนือจากการให้แร่ธาตุบางอย่างที่หาไม่ได้ในอาหารประเภท Junk Food หรืออาหารขยะที่คนนิยม
    ลูกหลานเราก็นิยมอาหารพวกนี้ หารู้ไม่ว่าอาหารที่เรากินเข้าไปตอนนี้ไปทำลายจุลชีวันดี ๆ เยอะ เลยทำให้เราเกิดโรคต่าง ๆ มากมาย ที่มีเพิ่มคือน้ำหนัก น้ำหนักเพิ่มขึ้นเยอะ ไขมันมาก แต่สุขภาพแย่ ก็เพราะว่าการบริโภคที่คำนึงแต่รสชาติ แต่ว่าไม่ได้คำนึงถึงเรื่องของคุณค่าทางอาหาร
    ฉะนั้น การปฏิบัติธรรมต้องรวมไปถึงการที่เรารู้จักประโยชน์ของอาหารที่มากไปกว่ารสชาติ ถ้ากินเพื่อรสชาติ นอกจากกิเลสจะพอกพูนแล้ว โรคภัยจะถามหาในระยะยาวด้วย แต่ถ้าเราไม่คำนึงถึงรสชาติ มันก็มีประโยชน์ต่อจิตใจของเรา รู้จักต้านทานกิเลส แถมยังทำให้สุขภาพร่างกายของเราดีขึ้นด้วย.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service