PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • รู้อะไรก็ไร้ค่าถ้าขาดสติ
รู้อะไรก็ไร้ค่าถ้าขาดสติ รูปภาพ 1
  • Title
    รู้อะไรก็ไร้ค่าถ้าขาดสติ
  • เสียง
  • 14007 รู้อะไรก็ไร้ค่าถ้าขาดสติ /aj-visalo/2025-07-29-03-17-50.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันอังคาร, 29 กรกฎาคม 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม 2568
    ที่ประเทศอเมริกามีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุ 10 ขวบ ชื่อ จูเลียน่า (Juliana) วันหนึ่งไปเที่ยวอุทยานที่ฟลอริดา อุทยานนี้มีบึงใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเล่น จูเลียน่าก็ลงไปเล่นน้ำ บริเวณที่เธอเล่นน้ำสูงแค่เอว ตอนนั้นเธออยู่ห่างจากฝั่งประมาณสัก 10 เมตร กำลังเล่นน้ำเพลิน ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามีอะไรมาดึงขาที่อยู่ในน้ำ
    ปรากฏว่าเป็นจระเข้ตัวใหญ่ มันแอบจ้องเธออยู่ แล้วก็งับขาเธอ ลากเธอไปบริเวณใต้น้ำ ทีแรกเธอไม่รู้ว่าอะไร พอเอามือไปสัมผัส มันเป็นหัวจระเข้ แล้วไปโผล่พ้นน้ำ ลากเธอไปถึงกลางบึง
    ไม่รู้ว่ามันเข้ามาได้อย่างไร เพราะปกติอุทยานมีมาตรการกั้นไม่ให้จระเข้เข้ามารังแกรบกวนชาวบ้าน ฟลอริดาขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องของจระเข้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า อัลลิเกเตอร์ (Alligator) แต่ปรากฏว่าจระเข้ตัวนี้หลุดเข้ามาได้ มันคงหิว พอเห็นขาเด็ก ก็เข้าไปงับ
    ตอนที่มันลากพาจูเลียน่าไปกลางบึง เธอตกใจมาก ผู้ใหญ่ รวมทั้งการ์ดก็เห็น แต่ทำอะไรไม่ทันแล้ว เพราะว่าจูเลียน่าอยู่ไกล กว่าจะแหวกว่ายน้ำไปถึงตัวจูเลียน่า จระเข้อาจจะลากไปไกลแล้ว จูเลียน่าทำอย่างไร
    เธอดิ้นก็ดิ้นไม่ได้ เพราะว่ามันงับขาแน่น ทุบหัวมัน มันก็เฉย ตอนนั้นแน่นอนว่าเธอตกใจมาก แต่ว่าเธอมีสติ นึกได้ถึงตอนไปเที่ยวสวนจระเข้ ที่ฟลอริด้ามีสวนจระเข้ ผู้รู้เขาบอกว่า จุดอ่อนของจระเข้อยู่ที่รูจมูก ถ้าหากว่าอุดรูจมูกมัน มันจะหายใจไม่ออก แล้วมันจะต้องอ้าปากเพื่อหายใจแทน
    จูเลียน่านึกได้ถึงคำแนะนำตรงนี้ ที่จริงมันเป็นแค่ความรู้ แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ความรู้แล้ว มันเป็นคำตอบเลย เธอเอานิ้วแยงเข้าไปในรูจมูกของจระเข้ตัวนี้ทั้งสองรู แยงเข้าไปแน่น ๆ ปรากฏว่าได้ผล จระเข้อ้าปากเพราะมันหายใจไม่ออก เหมือนคนเรา พอหายใจทางจมูกไม่ได้ก็หายใจทางปาก
    พอมันอ้าปาก จูเลียน่าเธอรีบดึงขาออกมา ว่ายมาที่ฝั่ง ตอนนั้นพอดีผู้ใหญ่ว่ายมาช่วย พาเธอกลับขึ้นฝั่ง
    เป็นอันว่าจูเลียน่ารอดตาย เป็นการรอดตายโดยไม่ได้ใช้กำลัง เพราะเธอไม่มีกำลังสู้จระเข้อยู่แล้ว ไม่ได้รอดตายเพราะมีอาวุธ แต่รอดตายเพราะมีความรู้ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาเอามาใช้ได้ทันท่วงที
    แต่การที่เธอจะนึกถึงคำแนะนำหรือความรู้ที่เรียนมาต้องมีอย่างหนึ่งคือ สติ เพราะถ้าไม่มีสติ มันนึกไม่ออก หรือไม่ก็นึกได้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งอาจจะเอามาใช้แก้ปัญหาได้ไม่ดี
    อาจารย์พุทธทาสเคยเล่าว่า เมื่อสัก 70 ปีก่อน มีแม่ลูกอ่อนคนหนึ่ง ระหว่างที่แม่ทำงานอยู่ก็ปล่อยลูกอ่อนเล่นโน่นเล่นนี่ สมัยก่อนมีสตางค์เป็นสตางค์แดง สมัยนี้เราไม่รู้จักแล้ว สตางค์แดงสมัยนั้นมีค่าเงินสูงอยู่ 1 สตางค์ซื้ออะไรได้เยอะ เด็กก็เล่นสตางค์แดง จู่ ๆ ก็เอาสตางค์แดงยัดใส่ปาก ปรากฏว่าติดคอ เด็กก็ร้อง
    แม่ได้ยินเสียง ก็เข้าไปหาลูก จึงรู้ว่าสตางค์แดงติดคอลูก แล้วถ้าติดนานก็จะหายใจไม่ออก แม่ตกใจมาก ลนลาน ไม่รู้จะช่วยลูกอย่างไร ก็นึกขึ้นมาได้ว่า น้ำกรดกัดสตางค์แดงได้ ที่บ้านเธอก็มีด้วย เธอรีบไปคว้าขวดน้ำกรดมา แล้วหยอดใส่ปากของเด็กน้อย
    เธอลืมไปว่าน้ำกรดกัดสตางค์แดงได้ก็จริง แต่ก็กัดคอคนเราได้ด้วย แต่ตอนนั้นเธอนึกถึงแต่ว่าจะทำอย่างไรก็ได้ที่รีบ จะช่วยให้สตางค์แดงหลุดจากคอลูกแต่ลืมเฉลียวใจว่าน้ำกรดก็กัดคอลูกได้ พอกรอกน้ำกรดใส่ปากลงไป สตางค์แดงก็หลุดจากคอลูกได้ แต่ว่าลูกอาการเพียบหนักเลยเพราะว่าโดนน้ำกรดกัดคอ
    แม่ของเด็กก็พอมีสติอยู่บ้าง แต่สติอ่อน เพราะว่าความกลัว ความตื่นตกใจ ระลึกได้ถึงความรู้ที่มี แต่ก็ระลึกได้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ สิ่งที่แม่ทำให้สตางค์แดงหลุดจากคอลูกได้ก็จริง แต่ว่าก็ทำให้ลูกเพียบหนัก เพราะว่าความมีสติหรือความรู้ตัวไม่รอบด้าน
    คนเราไม่ว่าจะมีรู้มากแค่ไหน มีประโยชน์เพียงใด แต่ถ้าหากว่าขาดสติแล้ว ความรู้นั้นก็เอามาใช้ไม่ได้ นึกไม่ออก หรือไม่เช่นนั้นก็นึกได้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างแม่ของเด็ก สติที่มีอ่อนเพราะว่าความกลัว ความตื่นตระหนกตกใจมันท่วมท้น
    คนเราถ้าไม่มีความตื่นตระหนกตกใจแบบนั้น อย่างพวกเรา ถ้าเอาโจทย์นี้มาให้เรา เราจะบอกว่า การแก้ปัญหาสตางค์แดงติดคอด้วยการเอาน้ำกรดกรอกปากเด็กทำไม่ได้ เพราะว่าน้ำกรดทำร้ายคอเด็กได้ เราตอบได้ถูก เพราะเราไม่มีอารมณ์ที่มารบกวนท่วมท้นใจ
    แต่แม่ของเด็กตอนนั้น มีความตื่นตกใจรุนแรงท่วมท้น บางคนนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร แต่แม่คนนี้นึกออก แต่นึกออกแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ นึกแต่เพียงว่าทำอย่างไรจะให้สตางค์แดงหลุดจากคอเด็ก แต่ลืมไปว่าวิธีแก้ปัญหาของแม่ทำให้เด็กแย่ด้วย
    คนเราจะมีรู้แค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางโลกหรือทางธรรม แต่ถ้าขาดสติเสียแล้ว สิ่งที่รู้มาเอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย
    หลายคนก็รู้ว่าโกรธไม่ดี แต่พอโกรธทีไรลืมไปหมด ลืมคำสอนของครูบาอาจารย์ว่า โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ลืมคำสอนของครูบาอาจารย์ที่ว่า โกรธแล้วให้กลับมารู้สึกตัว กลับมาตามลมหายใจ กลับมานึกถึงพุทโธ รู้ ตอบได้ ถ้าสอบนักธรรม แต่พอเจอเหตุการณ์จริง ๆ โกรธ นึกไม่ออก อันนี้เขาเรียกว่า เพราะขาดสติ ไม่มีสติเสียแล้วความรู้ที่มีก็ไร้ประโยชน์ เอามาใช้ไม่ได้ หรือเอามาใช้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
    สังเกตใจเรา เวลาโกรธเป็นอย่างไร เราจำเอาธรรมะ เอาความรู้มาใช้ได้ไหม บางทีด่าไปเรียบร้อยแล้ว ทำลายข้าวของไปเรียบร้อยแล้วถึงค่อยมารู้ว่า โอ้ เราไม่น่าทำเลย เราน่าจะตามลมหายใจ เราน่าจะนึกถึงพุทโธ
    แต่ไม่เป็นไร เอามาเป็นบทเรียน เวลาโกรธทีไร แทนที่จะนึกถึงการตอบโต้ว่าจะตอบโต้เขาอย่างไร ลองนึกว่าครูบาอาจารย์สอนเราว่าอย่างไรบ้าง อันนี้เป็นการบ้าน เวลาโกรธทีไรก็ลองนึกเสียบ้างว่าครูบาอาจารย์สอนอะไร ท่านแนะนำว่าอย่างไร ทำได้หรือทำไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนใหญ่ทำไม่ได้เพราะความโกรธมันแรง แต่ต่อไปพอมีสติดีขึ้น นอกจากระลึกได้แล้ว ยังทำตามที่ครูบาอาจารย์แนะนำได้ด้วย
    ให้เราฝึกเอาไว้ เวลาที่เราโกรธ ลองสังเกตดู จำได้ไหมว่าครูบาอาจารย์แนะนำอะไร พระพุทธเจ้าสอนอะไร ไม่ใช่คิดแต่จะตอบโต้ สรรหาคำมาด่า หรือว่าสรรหาวิธีการมาแก้เผ็ด อันนั้นไม่ได้ช่วยทำให้เรามีสติดีขึ้นเลย หรือสามารถจะแก้ทุกข์ในชีวิตประจำวันได้.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service