PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • ใช้ประหยัดเพราะทรัพยากรมีจำกัด
ใช้ประหยัดเพราะทรัพยากรมีจำกัด รูปภาพ 1
  • Title
    ใช้ประหยัดเพราะทรัพยากรมีจำกัด
  • เสียง
  • 13933 ใช้ประหยัดเพราะทรัพยากรมีจำกัด /aj-visalo/2025-06-04-04-29-18.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันพุธ, 04 มิถุนายน 2568
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2568
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 3 มิถุนายน 2568
    เมืองอูเทร็คท์ (Utrecht) เป็นเมืองหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองนี้มีห้องสมุดที่แปลกกว่าห้องสมุดส่วนใหญ่ ไม่ได้แปลกตรงหนังสือ แต่แปลกตรงโต๊ะที่ใช้อ่านหนังสือ เก้าอี้ที่นั่งไม่ใช่เก้าอี้ธรรมดา หรือเป็นเบาะนั่งสบายๆ แต่มันเป็นเหมือนกับอานจักรยาน เวลาอ่านหนังสือ ผู้อ่านก็สามารถจะถีบจักรยานไปด้วย ถีบทำไม
    ถีบเพื่อปั่นไฟ ตรงนั้นเป็นที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรือว่าชาร์จแท็บเล็ต เพราะเดี๋ยวนี้ไปที่ไหนที่เป็นที่สาธารณะ คนมักจะนิยมชาร์จโทรศัพท์ ถ้าไม่มีที่ชาร์จโทรศัพท์ก็รู้สึกไม่สะดวกสบาย ห้องสมุดนี้ก็เหมือนกัน เขาก็มีบริการลูกค้าหรือว่าผู้มาใช้ห้องสมุด แต่ว่าที่ชาร์จโทรศัพท์ของเขามันไม่เหมือนธรรมดา มันต้องใช้แรงในการปั่นจักรยาน
    พูดง่ายๆคือ ปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไดนาโม อันนี้เรียกว่าเป็นไอเดียที่ดีเพราะว่ามันส่งเสริมให้คนได้ออกกำลังกาย เพราะว่าขี่จักรยาน เราก็ได้ออกกำลังกาย กำลังขา กำลังปอด แล้วก็ยังเป็นพลังงานสะอาดด้วย เพราะเป็นพลังงานที่มาจากแรงกายของเรา ไม่ใช่พลังงานที่เกิดจากการเผาน้ำมัน เผาถ่านหิน อย่างที่เกิดขึ้นทั่ว ๆไป
    ในแง่ของคนที่มาใช้บริการ ก็เรียกว่าอ่านหนังสือไปด้วย เติมอาหารสมองแล้วก็ออกกำลังกายไปด้วย จะมองแบบนี้ก็ได้ หรือว่าจะมองว่าชาร์ตโทรศัพท์ไปด้วย แล้วก็อ่านหนังสือไปด้วย อาจจะดูภาพสวยๆ งามๆ ระหว่างที่ปั่นจักรยาน
    จักรยานที่ว่าคงจะทำอย่างดี เพราะว่าปั่นแล้วก็ไม่มีเสียงดังรบกวนคนที่อยู่ในห้องสมุด แล้วก็คงจะมีประสิทธิภาพพอสมควร ปั่นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็อาจจะชาร์จโทรศัพท์ให้เต็มได้
    อันนี้เป็นไอเดียที่ดีที่ช่วยเติมอาหารสมองให้คนเรา แล้วก็เติมพลังกายด้วยการออกกำลังกายด้วย ที่จริงถ้าหากว่าเราเอาเครื่องปั่นไฟแบบนี้มาใช้ที่บ้าน เอาจักรยานปั่นไฟเป็นมาใช้ที่บ้าน แล้วก็ตั้งกติกากับตัวเองว่า เราจะชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรือจะชาร์จแท็บเล็ตก็ด้วยจักรยานนี้เท่านั้น อันนี้มันจะมีประโยชน์มากเลย
    เพราะว่าในเดี๋ยวนี้คนใช้โทรศัพท์เยอะ แล้วถ้าจะใช้โทรศัพท์ ก็ต้องปั่นจักรยานอย่างนี้อย่างเดียว ถ้าเกิดว่าเรามีกติกาว่าจะไม่ชาร์จโทรศัพท์ด้วยไฟหลวง แต่ว่าจะชาร์จโทรศัพท์ด้วยเครื่องปั่นไฟในบ้านที่เกิดจากการปั่นจักรยาน
    อันนี้มันก็ทำให้คนหลีกไม่พ้น ยังไงก็ต้องหาทางปั่นจักรยาน เพราะว่าไม่งั้นไม่มีโทรศัพท์ใช้ มีเพราะไม่มีไฟฟ้า นี่เป็นวิธีล่อให้คนมาออกกำลังกายทุกเช้าก่อนจะไปทำงาน นอกจากช่วยออกกำลังกายแล้วทำให้สุขภาพดี ไกลจากโรค เช่น โรคหัวใจโรคเบาหวาน รวมทั้งโรคความจำเสื่อม
    เพราะเดี๋ยวนี้เราก็รู้แล้วว่า ความจำเสื่อมเกิดจากการที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่ค่อยได้เดิน ไม่ค่อยได้ใช้แรง แต่ไม่ใช่แค่นั้น นอกจากทำให้สุขภาพดี และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะว่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรือว่าชาร์จแท็บเล็ต เป็นพลังงานสะอาด
    ถ้าทำอย่างนี้กันเยอะๆ มันจะช่วยลดการเผาน้ำมัน ลดการเผาถ่านหินได้เยอะเลย แถมยังประหยัดค่าไฟฟ้าด้วย แต่ประหยัดค่าไฟฟ้าจะไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะว่าเราใช้ไฟไปกับอะไรที่มันเยอะกว่านั้น แต่สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งซึ่งเป็นผลพลอยได้ จะเรียกว่าเป็นผลสำคัญก็คือ มันทำให้เราใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือ ไม่ได้ใช้มั่ว
    พูดง่ายๆ เพราะว่าจะชาร์จไฟ ต้องมาชาร์จด้วยวิธีการปั่นจักรยาน ถ้าเกิดว่าคิดแบบนี้ วันหนึ่งก็คงจะชาร์จได้แค่ครั้งสองครั้ง คือก่อนไปทำงาน แล้วก็กลับจากที่ทำงาน
    ดังนั้นถ้าเราคิดว่าโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตของเราตอนเช้าชาร์จได้แค่ครั้งเดียว ไปชาร์จข้างนอกไม่ได้ เราจะใช้โทรศัพท์อย่างระวัง ไม่ได้เปิดดูพร่ำเพรื่อ ไม่ใช้โทรศัพท์เพื่อเล่นเกมส์ หรือเพื่อดูหนังฟังเพลงเพื่อการบันเทิงเท่านั้น เพราะว่าพวกนี้มันใช้ไฟเยอะ
    ถ้ารู้ว่าโทรศัพท์มือถือของเราวันหนึ่งจะใช้ได้แค่ 3-4 ชั่วโมง ก่อนที่ไฟจะหมด ก่อนที่แบตเตอรี่จะดับ เราจะใช้มือถืออย่างมีคุณค่ามาก ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ ใช้เพื่อความบันเทิงชั่วครั้งชั่วคราว อันนี้มันช่วยทำให้เราเสียเวลากับโทรศัพท์มือถือน้อยลง
    เพราะว่าเดี๋ยวนี้เราเสียเวลากับโทรศัพท์มือถือในเรื่องที่ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เรื่องที่ดีมีประโยชน์ มีคุณค่านี้เราก็ใช้เหมือนกัน แต่ว่าเราใช้น้อย อาจจะสัก 10-20% ที่เหลือก็ใช้เพื่อความบันเทิง เพื่อสนองกิเลส เช่น เล่นมือถือ เล่นโซเชียลมีเดีย เล่นเกมส์ออนไลน์ หรือไม่เช่นนั้นก็ดูหนังฟังเพลงให้มันเพลินๆ หรือไม่ก็ดู Tiktok ดูวีดีโอ คลิปต่างๆนอกจากเปลืองไฟแล้วเปลืองเวลาด้วย
    นี่เป็นไอเดียที่น่าลองทำ ถ้าเกิดว่าต่อไปมันมีเครื่องปั่นไฟแบบนี้แพร่หลาย เอามาติดตั้งไว้ที่บ้านแล้วก็ปั่นไฟก่อนไปทำงานกับโทรศัพท์กับแท็บเล็ต แล้วก็ตั้งกติกาตัวเองว่าจะไม่ไปชาร์จไฟที่ไหนนอกจากไฟที่เกิดจากการปั่นด้วยกำลังของเราเอง ซึ่งแน่นอนคงจะชาร์จได้เฉพาะที่บ้านก่อนไปทำงาน หลังจากกลับมาจากทำงาน การที่เรามีพลังงานใช้จำกัด มันช่วย
    สมัยเมื่อ 20 ปีก่อน อาตมามีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเครื่องหนึ่งอยู่ที่ภูหลง แล้วภูหลงตอนนั้นไฟยังไม่เข้า ก็มีคนหาเครื่องเป็นแบตเตอรี่แห้งมาให้ หนัก 6-7 โล แล้วแบตเตอรี่เครื่องนี้จะใช้ให้เต็มใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง แต่ว่าเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์ถ้าใช้ประหยัด ๆก็ 2 ชั่วโมง
    ประหยัดๆนี่คือใช้โปรแกรมที่ไม่ใช่วินโดว์ส Windows ใช้โปรแกรมแบบราชวิถี จุฬา เป็น World Processor เท่านั้น อาตมาก็ต้องใช้ ใช้ไฟกับ Notebook เพื่อทำงานเท่านั้น เพราะถ้าเกิดใช้ Windows เมื่อไร ไฟแบตเตอรี่ก็จะดับภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ทำงานไม่ได้ เพราะตอนนั้นกำลังทำงานแปล มันก็บังคับให้เราต้องใช้โน้ตบุ๊ค แล้วใช้พลังงานอย่างประหยัด
    อีกอย่างหนึ่ง จะชาร์จแบตเตอรี่ก็ลำบาก ต้องไปชาร์จที่สำนักงานป่าไม้ หิ้วเข้าไปก่อนทำวัตรเย็น พอบิณฑบาตรเสร็จก็ไปขนมา สะพายขึ้นเขา ทำอย่างนี้ทุกวัน แล้วก็ใช้ไฟได้ ใช้แบตเตอรี่ได้แค่ 2 ชั่วโมงสำหรับโน้ตบุ๊ค มันจะทำให้เราต้องประหยัด ใช้โน้ตบุ๊คอย่างพร่ำเพรื่อไม่ได้เลย ใช้ทำงานอย่างเดียว เพราะว่ามันใช้ได้กับ Word Processor จุฬา ซึ่งกินไฟน้อย
    ถ้าใช้ Windows เมื่อไหร่ อาจจะใช้อะไรได้เยอะแต่ว่าไฟหมดเร็ว มันก็ทำให้เราต้องประเมินว่า วันนี้เราจะใช้ทำอะไรบ้าง คนเราถ้าเราพบขีดจำกัดหรือมีข้อจำกัด ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องพลังงาน แต่เรื่องอื่นด้วย เช่น ถ้าเรามีเงินจำกัดในกระเป๋า ถ้าเรามี 1000 บาท หรือมีเงินแค่ 100 บาท จะใช้เงินแต่ละบาทมันจะต้องคิดแล้ว
    เหมือนที่มีคนทำท้าทาย Challenge ที่พูดเมื่อ 2-3 วันก่อนว่า ทำยังไง จะอยู่ได้ 5 วันโดยใช้เงินแค่ 500 บาท คนต้องคิด จะไปใช้ซื้อไอติมหรือใช้ซื้ออะไรที่ไม่มีสาระ ไม่มีประโยชน์ก็ทำไม่ได้แล้ว ต้องซื้อของที่เป็นอาหารเท่านั้น หรือที่มีประโยชน์ มีคุณค่า
    เวลาก็เหมือนกัน ถ้าเรามีเวลาจำกัด เราก็จะใช้เวลาแต่ละนาทีแต่ละชั่วโมงอย่างมีคุณค่า คนแก่รู้ว่ามีเวลาอยู่ในโลกไม่นาน ข้อดีของคนแก่คือ ต้องใช้เวลาอย่างมีคุณค่า ไม่ใช่ใช้เพื่อการเที่ยวเตร่สนุกสนาน เพราะเวลาในโลกนี้เหลือน้อย ต้องใช้ในสิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ เช่น ใช้ทำความดี ใช้ฝึกฝนพัฒนาตน รวมทั้งเตรียมพร้อมรับมือกับความตายที่จะมาถึง รวมทั้งความเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้นก่อนตายด้วย
    คนหนุ่มสาวบางทีลืมไปว่า เรามีเวลาจำกัด เราเชื่อว่าเรามีเวลาเหลือเฟือ เราก็เลยใช้เวลาพร่ำเพรื่อ หมดไปกับเกมออนไลน์ หมดไปกับการเที่ยวเตร่สนุกสนาน หมดไปกับการดูหนังฟังเพลง แต่สิ่งที่เป็นสาระสำคัญของชีวิต ไม่ค่อยได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกตน หรือว่าการให้เวลากับคนที่มีบุญคุณต่อเรา บุพพการี พ่อแม่ รวมทั้งลูกหลานซึ่งเป็นคนที่เราต้องรับผิดชอบ หลายคนหมดเวลาไปกับเรื่องพวกนี้ รวมทั้งหมดเวลาไปกับมือถือด้วย
    แล้วมาพบว่า เวลาของตัวเองเหลือน้อยแล้ว เสียดายที่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปโดยไร้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นการที่โทรศัพท์มือถือของเรา ถ้าเกิดว่ามันมีพลังงานจำกัด เพราะว่าการชาร์จอย่างนี้ เราไม่สามารถจะชาร์จทั่วไปได้ เราจะเสียเวลากับมือถือน้อยมาก น้อยกว่าเดิม และเราจะใช้มือถือในสิ่งที่เป็นประโยชน์จริงๆ.

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service