พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 7 เมษายน 2568
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่ง เรียกว่ากระจายกันไปทั่วโลก และสร้างความวิตกกังวลให้กับคนที่รับรู้ข่าวนี้ นั่นคือ ข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าที่มาจากทุกประเทศทั่วโลกที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ
เมืองไทยก็โดนไปด้วย ภาษีนำเข้าสินค้าจากเมืองไทยนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 37% ทุกประเทศทั่วโลกที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐโดนทั้งนั้น บางประเทศก็เจอเข้าไป 50% เป็นข่าวใหญ่มากจนกระทั่งทันทีที่ทรัมป์ประกาศนโยบายดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวปราศรัยกับประชาชนสิงคโปร์ทั้งประเทศเลย บอกว่าตอนนี้ยุคโลกาภิวัตน์หรือการค้าเสรีอย่างมีกติกา กำลังจะสิ้นสุดแล้ว จากเดิมการค้าระหว่างประเทศเป็นการค้าแบบเสรี ไม่มีการตั้งกำแพงภาษี ไม่มีการกีดกันทางการค้าโดยมีกติกาที่องค์การการค้าโลกกำหนดขึ้น ตอนนี้มันเป็นโมฆะไปแล้วโดยปริยาย จึงเท่ากับว่ายุคโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจหรือการค้าเสรีนี้มันสิ้นสุดแล้ว
อันนี้ก็สอดคล้องกับผู้นำหลายประเทศ รัฐมนตรีการคลังของอังกฤษก็บอกว่า ตอนนี้โลกยุคโลกาภิวัตน์สิ้นสุดแล้ว โลกาภิวัตน์สืบเนื่องกันมา 30-40 ปี มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว นายกรัฐมนตรีของหลายประเทศในยุโรปก็พูดเหมือนกันว่า โลกที่เรารู้จักคุ้นเคยนี้มันกำลังจะกลายเป็นอดีตไปแล้ว
หมายความว่าโลกในวันนี้และวันหน้านี้มันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะว่าพออเมริกาขึ้นภาษีนำเข้า หรือที่เรียกว่าตั้งกำแพงภาษีแบบที่เรียกว่าไม่เลือกหน้าแบบนี้ หลายประเทศทั่วโลกก็จะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือว่า สินค้าก็จะราคาแพง โดยเฉพาะสินค้านำเข้า
ขณะเดียวกัน สินค้าขาออกก็จะขายไม่ค่อยออก เพราะว่าพอส่งไปขายที่สหรัฐราคาแพง เพราะว่าถูกเก็บภาษีหนัก คนก็ไม่ซื้อ ฉะนั้นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างเมืองไทย สินค้าเกษตรกรรมหรือว่าพวกอิเล็กทรอนิกส์พวกนี้ รวมทั้งเสื้อผ้าจะขายไม่ค่อยออก โดยเฉพาะถ้าส่งไปขายที่อเมริกา
แล้วถ้าเกิดว่าประเทศอื่นๆก็ตั้งกำแพงภาษีเหมือนกัน สินค้าจากเมืองไทยที่ไปขายต่างประเทศที่ไม่ใช่อเมริกาก็ขายไม่ออก เพราะราคาแพง มันก็จะเกิดสงครามการค้า เกิดความวุ่นวาย ไม่ใช่เฉพาะด้านเศรษฐกิจ ด้านเศรษฐกิจก็หนักอยู่แล้ว ของราคาแพง เงินเฟ้อ ขณะเดียวกันส่งออกก็ส่งออกได้น้อย เมืองไทยนี้แย่อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นเมืองไทยก็จะไม่เหมือนเดิมแล้ว ถ้านโยบายของทรัมป์ยังอยู่ต่อไป เมืองไทยจะไม่เหมือนเดิม ของจะราคาแพง ขณะเดียวกันเงินที่เคยได้จากการไปขายของที่อเมริกามันก็หายไป อาจจะลดไปถึงครึ่งหนึ่งก็ได้ เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ ชาวประมงนี้ลำบากเลย เมืองไทยจะไม่เหมือนเดิมแล้ว
แต่คนไทยไม่ค่อยตระหนัก ตรงข้ามกับสิงคโปร์นี้ทันทีที่ทรัมป์ประกาศนโยบายดังกล่าว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แถลงข่าวต่อประชาชนทั้งประเทศเลยให้เตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 30-40-50 ปีที่ผ่านมา
คนไทยเรายังไม่รู้ว่าเมืองไทยเราจะไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะนโยบายนี้ ก็ยังลั้ลลากันอยู่ เตรียมสนุกสนานวันสงกรานต์ เพราะไม่มีใครบอกให้รู้อย่างที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ หรือว่านายกรัฐมนตรีของหลายประเทศ
และนโยบายที่ว่านี้ทรัมป์บอกว่าจะเริ่มประกาศใช้วันที่ 9 เมษาก็คือมะรืนนี้ ซึ่งก็เป็นวันเดียวกันโดยบังเอิญในเมืองไทย จะมีการผลักดันร่างพรบ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเข้าสภาโดยรัฐบาล สถานบันเทิงครบวงจรนี้เราเรียก สั้นๆ ว่า เอ็นเทอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ก็ไม่สั้น แต่ว่าคุ้นเคยกันมากกว่า บางทีเรียกสั้นๆ ว่า อีซี
ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่จริงมันมีอะไรมากเลย เพราะมีการสอดไส้คาsinoเข้าไปในร่าง พรบ. นี้ด้วย ก็หมายความว่า คาsinoหรือการพนันนี้ก็จะถูกกฎหมาย และก็ทำกันอย่างเป็นอุตสาหกรรมมโหฬารเลย
ก็มีหลายฝ่ายวิตกกังวลมากเพราะว่า ถ้า พรบ. นี้ผ่าน การเล่นพนันในคาsinoก็จะถูกกฎหมาย และสิ่งที่ตามมามันไม่ใช่แค่คนจะติดการพนันมากขึ้น แต่ยังรวมถึงอาชญากรรมก็จะมากขึ้นด้วย
อาชญากรรมที่สืบเนื่องจากสถานประกอบการที่ว่านี้ อันนี้ก็อันหนึ่งแล้ว เพราะว่า หลายประเทศอย่างเช่น ฟิลิปปินส์นี้ พอมีคาsinoถูกกฎหมายนี้อาชญากรรมเพิ่มขึ้นมาก เพราะว่ามีการลักพาคนเข้ามาเป็นแรงงานทาสในสถานประกอบการที่ว่า เกิดกระบวนการค้ามนุษย์ที่ขยายตัว แล้วก็มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ต่อไปการฟอกเงินนี้ก็จะทำได้สะดวก ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ คอรัปชั่น รับสินบน มีเงินเยอะเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีเหตุผลเป็นร้อยล้าน เจ้าตัวก็จะอ้างว่าเพราะว่าไปเล่นพนันได้เงินมา และเนื่องจากคาsinoถูกกฎหมาย ก็เลยถือว่าเป็นเงินที่ว่านี้ ซึ่งเงินที่เพิ่มขึ้นมานี้ก็จะมีเหตุผลรองรับ เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นต้องถูกดำเนินคดี
สมัยก่อนอ้างไม่ได้ว่าเงินที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้เกิดจากไปเล่นการพนัน และถ้าถามว่าหลักฐานมีหรือเปล่า ก็ตอบไม่มี แต่ตอนนี้อ้างได้แล้วว่าเงินที่เพิ่มขึ้นมาร้อยล้าน พันล้าน ได้มาจากการพนัน ก็ทำให้การฟอกเงินนี้สะดวก เงินผิดกฎหมายก็กลายเป็นเงินถูกกฎหมาย และยังไม่นับการลักขโมย ขโมยปล้นจี้เพราะคนที่ติดพนัน ไม่ใช่แค่ระดับบนแต่ระดับล่างด้วย
เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่า พรบ.นี้ผ่าน เมืองไทยก็จะไม่เหมือนเดิม นโยบายของทรัมป์มันก็ทำให้เมืองไทยจะไม่เหมือนเดิมอย่างหนึ่งแล้ว ถ้ามี พรบ.นี้ผ่าน มีคาsinoถูกต้องตามกฎหมาย เมืองไทยจะไม่เหมือนเดิมซ้ำสอง หรือว่ายกกำลังสองเลย
แค่ไม่เหมือนเดิมเฉยๆ เป็นยกกำลังหนึ่งก็แย่แล้ว ถ้าเมืองไทยไม่เหมือนเดิมยกกำลังสองนี้ มันไม่ใช่ไม่เหมือนเดิมในทางดี มันไม่เหมือนเดิมในทางแย่ และถ้ามันแย่ยกกำลังสองนี้ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย
ตอนนี้แค่ทำให้เมืองไทยรอดพ้นจากภัยจากกำแพงภาษีที่ทรัมป์ตั้งนี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว มาเจอปัญหาที่เราทำซ้ำเติมตัวเอง ด้วยการทำให้มีคาsinoถูกกฎหมายนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ อันนี้คนไทยไม่ค่อยรู้กันว่า ตอนนี้เมืองไทยมันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ทั้งจากภายนอก และจาก พรบ.ที่ว่าถ้าผ่านสภานี้
เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันที่จะทำให้อย่างน้อยแรงที่จะกระหน่ำซ้ำเติมเมืองไทยให้ไม่เหมือนเดิมนี้ จากสองให้มันเหลือหนึ่ง ยังจะพอมีกำลังที่จะแก้ไขได้บ้าง แต่ถ้าปล่อยให้เมืองไทยไม่เหมือนเดิมยกกำลังสองนี้ แย่เลย คนไทยไม่ค่อยจะหนักว่าถึงเวลาที่ควรจะตื่นตัวในเรื่องนี้ได้แล้ว.