พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 28 มกราคม 2568
วันนี้นอกจากเป็นวันพระแล้วยังเป็นวันตรุษจีน เป็นวันไหว้ ซึ่งเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความสำคัญ แม้ว่าจะมาอยู่เมืองไทยเป็นรุ่นที่ 5 ที่ 6 แล้ว เรื่องการให้ความสำคัญกับวันตรุษจีนก็ยังมีอยู่ อย่างน้อย ๆ ก็มีการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
คนจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนเราเชื่อว่า วันตรุษจีนเป็นช่วงเทศกาลที่เป็นมงคล และไม่ใช่แค่มงคลอย่างเดียว เป็นโอกาสที่จะทำสิ่งที่ให้โชคให้ลาภที่เรียกว่า เฮง ด้วย
ทำอย่างไรจึงจะเกิดความเฮงหรือเกิดโชคลาภขึ้นมา มีความเชื่อว่าต้องไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และมีการรวมญาติกินอาหาร บางแห่งเจาะจงว่าต้องกินเกี๊ยวด้วย เพราะว่าจะได้เป็นสิริมงคล เป็นนิมิตดี ต้องใส่เสื้อผ้าที่สีสันสดใส มีการนำส้ม 4 ผลไปอวยพรผู้ใหญ่ และมีการรับอั่งเปา
อั่งเปากลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของคนจีน เพราะว่าตั้งแต่เด็ก ๆ ก็รอรับอั่งเปาวันตรุษจีน สมัยที่อาตมาเด็ก ๆ ได้ 10 บาทก็ถือว่าเยอะแล้ว เพราะว่าสามารถจะซื้ออะไรได้ตั้งหลายอย่าง โดยเฉพาะของเล่น ซึ่งปกติไม่มีปัญญาซื้อ เพราะได้เงินค่าขนมแค่สลึงสองสลึง แต่นี่ได้ตั้ง 10 บาท ซื้ออะไรได้เยอะเลย
และมีความเชื่อว่าถ้าจะเฮงจะต้องทำอีกหลายอย่าง เช่น ติดป้ายอวยพรไว้หน้าบ้านเป็นภาษาจีน และบางแห่งก็มีรูปเด็กผู้หญิง รูปเด็กผู้ชาย อันนี้เชื่อว่าเพื่อให้เกิดความเฮง แต่ว่าวันตรุษจีนเฮงอย่างเดียวไม่พอ ต้องห้ามทำบางสิ่งบางอย่าง ไม่อย่างนั้นจะซวยด้วย
วันปีใหม่ของชนชาติต่าง ๆ ปกติเขาไม่มีข้อห้าม ปีใหม่สากล หรือปีใหม่ไทยอย่างวันสงกรานต์ก็ไม่มีข้อห้าม มีแต่ว่าประเภทที่เคยห้ามก็ให้คลาย อย่างเช่น วันปีใหม่ของไทย พอถึงวันสงกรานต์ อะไรที่ทำไม่ได้ก็ทำได้ ผู้หญิงไปรังแกผู้ชายก็ทำได้ ในวันปกติทำไม่ได้หรอก บางแห่งอนุญาตให้ผู้หญิงไปแกล้งเณรได้ด้วย แต่ถ้าเป็นวันปกติห้าม
แต่ของจีนเขาพิเศษ คือเขามีข้อห้าม ห้ามซักผ้า ห้ามสระผม ห้ามทำความสะอาดบ้าน ห้ามจับของมีคม ห้ามใส่เสื้อสีขาว ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
ข้อห้ามหลายอย่างดูมีเหตุผล เพราะว่าคนจีนทำงานเยอะ เป็นพวกที่ขยันทำงาน และยิ่งทำ ๆ บางทียิ่งเครียด ยิ่งล้า ยิ่งเหนื่อย ฉะนั้น ต้องมีวันหยุดบ้าง จะหยุดได้ ต้องห้าม เพราะไม่ห้ามจะทำต่อ เช่น ห้ามทำงาน ห้ามซักผ้า ห้ามจับของมีคมจะได้ห้ามทำครัวนั่นเอง ห้ามจับไม้กวาดเพื่อจะได้ไม่ทำความสะอาดบ้าน
และหลายอย่างเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เช่น ห้ามพูดจาหยาบคาย ห้ามทะเลาะวิวาท ห้ามเข้าห้องนอนของคนอื่น อันนี้เป็นการละลาบละล้วง หรือว่าห้ามให้ยืมเงิน
อันนี้แปลก เพราะว่ายืมเงินแล้วกลายเป็นปัญหาในเวลาต่อมา เพราะคนที่ยืมไม่คืน เกิดการบาดหมางผิดใจกัน ทะเลาะวิวาทกัน เพราะฉะนั้นตัดปัญหาเสียเลย คือห้ามให้ยืมเงิน อันนี้เป็นข้อห้ามที่ช่วยทำให้ไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง เกิดความผิดใจ เกิดความขัดแย้งกัน
ข้อห้ามบางอย่างทำให้ได้คนจีนได้มีโอกาสพักผ่อน พอพักผ่อนแล้วก็มีเวลาอยู่กับครอบครัว พาลูกพาหลานไปเที่ยว หรือไม่ก็ไปเยี่ยมญาติไป หาญาติผู้ใหญ่ จะได้เพิ่มบางแง่บางมุมให้กับชีวิตบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน ซึ่งเป็นนิสัยของคนจีน
แต่ข้อห้ามบางอย่างก็ดูแปลก เช่น ห้ามใส่ชุดขาว ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ แต่พอจะเดาว่าเพื่อจะได้ให้คนได้ใส่เสื้อผ้าที่สีสันสดใส ส่วนรองเท้าคู่ใหม่อาจจะเป็นความเชื่อในบางท้องถิ่น
ที่จริงข้อห้ามเหล่านี้เพื่อประโยชน์ของการมีชีวิตที่ผาสุกและมีความสัมพันธ์ที่ราบรื่น แต่ว่าคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ไม่เห็นความสำคัญ จึงห้ามเสียเลย แต่ห้ามอย่างเดียวไม่พอ อาจต้องขู่ด้วยว่าถ้าขืนทำในสิ่งที่ห้ามจะเกิดความซวย
บางครั้งคนเราจะให้ทำอะไร เหตุผลอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยการกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกบางอย่าง เช่น ความกลัว จึงมีคําสอนว่าถ้าเกิดทำอะไรที่ห้ามขึ้นมาแล้วจะซวย คนก็เชื่อและปฏิบัติตาม แต่พอทำไป ๆ ไม่รู้ความมุ่งหมาย ไม่รู้เหตุผล จึงทำแบบเถรส่องบาตร คือทำไปตามประเพณี ทำตามรูปแบบ แต่ว่ามองข้ามสาระ
เพราะว่าแม้จะไม่ได้ทะเลาะวิวาทกัน ไม่ได้พูดคําหยาบ แต่อาจจะเขียนข้อความในทางเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียที่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นก็ได้ ถือว่าไม่ได้ผิดอะไรเพราะว่าไม่ได้ละเมิดข้อห้าม ข้อห้ามแค่ห้ามพูดคําหยาบ ก็ไม่ได้พูด แต่ว่าเขียนเอา หรือว่าส่งสัญญาณต่าง ๆ อันนี้เรียกว่า เถรส่องบาตร
ที่จริงข้อห้ามที่เขากำหนดขึ้นมาเป็นความเชื่อจะว่าไปบางอย่างก็ล้าสมัยแล้ว แต่ว่าถ้าเอาสาระของข้อห้ามเหล่านี้เอามาประยุกต์ใช้ก็จะดี และที่จริงไม่ควรจะห้ามทำเฉพาะวันตรุษจีน แต่ว่าบางอย่างถ้าทำไปตลอดปียิ่งดี เช่น การไม่พูดคําหยาบ เสียดสี ทะเลาะวิวาท พวกนี้ ไม่ใช่ว่าพอพ้นเทศกาลตรุษจีนแล้วทำได้ ที่จริงถ้าเลี่ยงได้ก็ยิ่งดี
เหมือนกับการรักษาศีล 5 ถ้าเรารักษาศีลเฉพาะวันพระหรือว่าวันปีใหม่ก็ดีอยู่หรอก แต่ว่าไม่ได้เป็นหลักประกันแห่งความสุขความเจริญ ถ้าหากว่าเรารักษาศีลไปทั้งปี ตลอดปี ตลอดชีวิต ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับเราเอง และคนที่อยู่รอบข้าง
เพราะฉะนั้น ข้อห้ามหลายอย่างซึ่งปัจจุบันลืมเลือนกันไปเยอะแล้ว คนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากตอนนี้ไม่รู้ว่ามีข้อห้ามอะไรบ้างแล้ว แต่ว่าถ้าจับสาระได้ และนำมาใช้กับชีวิตประจำวันในยุคสมัยใหม่ก็จะมีประโยชน์ รวมทั้งสิ่งที่เชื่อว่าทำแล้วเฮง
ที่จริงเหมือนกัน ถ้าจะส่งเสริมให้คนทำ แต่ถ้าไม่บอกว่าทำแล้วจะได้โชคได้ลาภ คนก็ไม่ค่อยอยากจะทำเท่าไร แต่พอบอกว่าทำแล้วเฮงก็ทำกันใหญ่ บางอย่างเป็นเรื่องของการทำตามประเพณีแต่บางอย่างหรือหลายอย่างทำแล้วก็ดีกับตัวเราเอง เช่น การไปพบปะญาติพี่น้อง หรือว่าการกินเจในมื้อแรกของปี ของวันตรุษจีน พวกนี้มีประโยชน์
รวมทั้งการที่ใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส เจริญตาเจริญใจกับผู้คน แต่เรื่องนี้เดี๋ยวนี้เป็นเรื่องของแฟชั่นไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ใส่เสื้อสีดำก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ไม่ได้เป็นเรื่องที่เป็นอัปมงคลอย่างไร
อันนี้สำหรับคนที่ยังถือว่าวันตรุษจีนเป็นวันสำคัญ ยังมีความหมายอยู่ และควรจะใช้โอกาสนี้ในการทำสิ่งดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่ว่าเป็นวันที่จะได้สนุกสนาน ไปเที่ยว หรือว่าไปรับอั่งเปาอย่างเดียว มันมีความหมายที่ดีต่อชีวิตของเรามากกว่านั้นเยอะ.