พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568
มีร้านยาแห่งหนึ่งแถวสำโรง สมุทรปราการ เจ้าของเป็นคนมีน้ำใจ มักจะมีโครงการเล็กๆน้อยๆช่วยเหลือคนที่ทุกข์ยากเดือดร้อนอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็แจกข้าวให้กับคนที่ยากไร้ บ่อยครั้งก็แจกยาให้กับผู้ที่เดือดร้อน เพราะเดี๋ยวนี้ยาก็ราคาแพง คนยากจนจำนวนมากไม่มีเงินซื้อยา เขาทำอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ
วันหนึ่งก็มีคนหนึ่งเป็นไรเดอร์หรือไลน์แมน (LINE MAN) มาหา แล้วบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดของผม ผมอยากจะมอบเงินที่หามาได้วันนี้เพื่อช่วยเหลือคนที่ประสบความเดือดร้อน เจ้าของร้านยาก็ประหลาดใจและถามว่า ตั้งใจแล้วหรือ ไรเดอร์บอกว่าผมตั้งใจแล้ว ผมทำงานมาเกือบทั้งวันได้เงินมาก็อยากจะมาช่วยเหลือคนที่เขาเดือดร้อน ผมไม่เสียดายเลย
เจ้าของร้านยาก็รับเอาไว้และตั้งใจว่า ถ้ามีลูกค้าคนไหนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน ก็จะเอาเงินก้อนนี้ให้กับลูกค้าคนนั้นไป วันสองวันต่อมาก็มีคุณตาคุณยายคนหนึ่งแกมาที่ร้านยาเพราะประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย ทำให้มีแผลที่แขน มาซื้อยา เจ้าของร้านสอบถามได้ความว่าคุณตาคุณยายแกต้องอาศัยเบี้ยยังชีพแสดงว่าไม่ค่อยมีเงิน
เจ้าของร้านให้ยาเสร็จบอกไม่คิดเงิน บอกว่าเงินค่ายานี้มีคนบริจาคให้แล้ว เขาเป็นไรเดอร์คนหนึ่ง คุณตาคุณยายแกก็ดีใจได้ยาโดยที่ไม่ต้องเสียเงิน เจ้าของร้านยาคนนี้แกก็ดีนะ แกก็ทำคลิปแล้วโพสต์ขึ้นทาง Facebook แล้วบอกว่า “พี่ไรเดอร์ครับ ถ้าพี่ดูอยู่ขอให้ทราบว่าน้ำใจของพี่ได้ไปช่วยเหลือคนยากคนที่เดือดร้อนแล้ว ขออนุโมทนาด้วยครับ”
ปรากฏว่าไรเดอร์คนนี้แกก็เห็น แกดีใจมาก ปลาบปลื้ม และก็ไม่ได้เห็นคนเดียว มีผู้สื่อข่าวสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งสนใจไรเดอร์คนนี้ ก็เลยไปสอบถามไปสัมภาษณ์ได้ความว่า ไรเดอร์คนนี้ชื่อซัน แกบอกว่าแกดีใจมากที่เงินบริจาคนั้นได้ไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนได้
และแกก็เล่าว่า แกก็ทำอย่างนี้มานานแล้ว สมัยที่ขับรถวินมอเตอร์ไซค์พอถึงวันเกิดก็จะติดป้ายว่ารับส่งฟรี ตอนหลังเห็นคนที่อยู่ริมถนนเขาเดือดร้อนไม่มีข้าวกินเรียกว่าคนเร่ร่อน แกก็ซื้อข้าวมาให้เขา ตอนหลังพอมาเป็นไรเดอร์ แกก็ตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนถึงแม้จะไม่ใช่วันเกิด บางครั้งเอาอาหารไปส่งให้ลูกค้าแล้วลูกค้าก็ให้อาหารมา แกก็ไม่กิน แกเก็บอาหารที่ได้รับมานี้ไปให้กับคนยากคนจนหรือคนเร่ร่อน
แล้วพอได้ข่าวร้านยามีโครงการช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนแกก็เกิดศรัทธา พอถึงวันเกิดก็เลยทำงานทั้งวัน ตั้งใจว่ารายได้จากค่าจ้างตลอดวันนั้นจะนำไปมอบให้กับร้านยานี้ แล้วแกก็ดีใจเพราะคุณตาที่มารับยาฟรีจากร้านยานี้ แกจำได้ คุณตาแกเป็นคนมีน้ำใจให้ขนมเด็กๆ ตอนที่ไรเดอร์คนเป็นเด็กก็ได้รับขนมจากคุณตาคนนี้ แกก็ดีใจที่วันนี้คุณตาได้รับประโยชน์จากเงินบริจาคที่แกมอบให้
เรื่องราวของร้านยากับไรเดอร์นี้น่าสนใจนะ ร้านขายยาร้านนี้ก็เรียกว่ามีน้ำใจอยู่แล้วไม่ได้คิดหากำไร ใครที่เดือดร้อนก็ยินดีช่วยเหลือก็เลยเป็นเหตุให้ได้มาพบกับคนดีอีกคนคือไรเดอร์คนนี้ ไรเดอร์คนนี้แกบอกว่า แกเคยได้รับข้าวฟรีจากร้านยาร้านนี้ น่าสนใจนะ แกได้รับข้าวฟรีจากร้านยาร้านนี้แล้วแกก็อยากจะตอบแทน
และวิธีการตอบแทนของแกก็คือว่ามอบเงินบริจาคให้ร้านยาเพื่อนำไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ อย่างนี้เรียกว่าส่งต่อความดี คนบางคนเค้าได้รับความเอื้อเฟื้อความกรุณา อยากจะตอบแทน แต่บางครั้งก็ตอบแทนให้กับเจ้าตัวโดยตรงไม่ได้ หรือเจ้าตัวยังสุขสบายดี ก็เอาเงินที่ได้ไปช่วยเหลือคนอื่นต่อ ภาษาฝรั่งเรียกว่า Pay It Forward (ส่งต่อ)
ไม่ได้ตอบแทนโดยตรง แต่ตอบแทนด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น ความคิดของไรเดอร์คนนี้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำบุญวันเกิดด้วยการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือคนอื่น หรือว่าฝากเงินให้คนอื่นนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน อันนี้เป็นการทำบุญที่น่าสนใจ และเหมาะกับยุคสมัย
ถึงวันเกิดแล้วเราไม่จำเป็นต้องไปทำบุญที่วัดก็ได้ เราก็ทำบุญด้วยการช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน หรือไม่ก็ฝากเงินไปให้คนที่เขาเดือดร้อน ฝากเงินให้กับคนที่เขาตั้งใจช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว ก็ได้บุญเหมือนกัน
และความคิดประเภทที่ว่าได้รับความช่วยเหลือจากใครก็อยากจะตอบแทนคนนั้นด้วยการส่งต่อเงินช่วยเหลือไปให้คนอื่น เพราะบางครั้งคนที่เราได้รับความช่วยเหลือนั้นเขาก็ยังพอมีฐานะหรือบางทีหาไม่เจอแล้ว แต่ว่าก็ยังสามารถทำความดีตอบแทนเขาได้ด้วยการช่วยเหลือคนอื่น เป็นการชดเชย
และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือว่า ความดีที่เราทำ บ่อยครั้งก็ย้อนกลับมาถึงเราโดยที่เราไม่รู้ตัว ความดีนั้นมีอานิสงส์ และอานิสงส์ของความดีสามารถจะย้อนกลับมายังผู้ที่ทำความดีโดยอาจจะไม่รู้ที่มาที่ไปก็ได้ อย่างคุณตาคนนี้ แกมีน้ำใจช่วยเหลือเด็กๆ ไรเดอร์คนนี้ก็เคยได้รับความช่วยเหลือ ได้รับขนมจากคุณตาคนนี้ นี่คือความดีของคุณตา แต่ว่าผ่านไป 10 - 20 ปี ความดีของคุณตาก็ย้อนกลับมาที่คุณตาเอง เพราะว่าไรเดอร์คนนี้พอโตขึ้นระลึกถึงน้ำใจ ระลึกถึงความดีของคุณตา
แม้ว่ายังไม่ได้ช่วยคุณตาโดยตรง แต่ว่าเงินที่บริจาคให้กับร้านยานี้ ก็ส่งผลกลับมาที่คุณตา เคยช่วยเหลือใคร ผ่านไป 10 - 20 ปีก็ได้รับความช่วยเหลือกลับคืนมา โดยที่คุณตาแกไม่รู้เลยว่าเงินค่ายาที่ได้รับฟรีๆนี้ มาจากเงินของคนที่คุณตาเคยช่วยเหลือไว้ ด้วยการให้ขนมตอนที่เขายังเป็นเด็กๆ
อานิสงส์ของความดีนั้นย่อมสะท้อนย้อนกลับมายังผู้ที่ทำความดีเสมอ อย่างที่ท่านว่าทำดีย่อมได้ดี แต่ว่าบางครั้งก็อาจจะย้อนกลับมาโดยใช้เวลา หรือว่าอาจจะย้อนกลับมาโดยที่เราไม่รู้ที่มาที่ไปเลยก็ได้ อย่างคุณตาคนนี้ แกก็คงนึกไม่ถึงว่าน้ำใจที่แกเคยมอบให้กับเด็กคนหนึ่งเมื่อ 20 ปีก่อน สุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาที่คุณตา
ไม่ใช่จากการช่วยเหลือโดยตรงของเด็กคนนั้นซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การได้รับผลโดยการช่วยเหลือทางอ้อม ก็คือยาที่ได้รับจากร้านยาก็มาจากเงินบริจาคของไรเดอร์คนนี้ ซึ่งเคยได้รับความเอื้อเฟื้อจากคุณตาตอนที่เขายังเป็นเด็ก
เพราะฉะนั้นเวลาทำความดี ให้เรามั่นใจว่า อานิสงส์ของความดีไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ว่าอาจจะสะท้อนย้อนกลับมาถึงเราแบบที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็ได้ หรือว่าอาจจะไม่รู้ที่มาที่ไปที่ชัดเจน แต่ว่ามันย้อนกลับมาแน่ อาจจะใช้เวลาอยู่บ้างแต่ว่าไม่สูญเปล่าแน่นอน.