พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้าห้องน้ำที่ห้างสรรพสินค้า แล้วเจอกระเป๋าสะพายอยู่ในห้องน้ำ วางบนฝาครอบถังใส่น้ำบนชักโครก พอเธอทำกิจเสร็จ ทีแรกก็อยากจะหยิบกระเป๋านั้นไปตามหาเจ้าของ เพราะข้างในคงจะมีเงิน มีเอกสาร หรือมิเช่นนั้นก็เอาไปให้กับเจ้าหน้าที่ของห้างสรรพสินค้าเพื่อตามหาเจ้าของ
แต่แล้วเธอก็เอะใจ เธอไม่ได้หยิบกระเป๋านั้น พอเดินออกจากห้องน้ำก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล นั่งคอยดูคนออกจากห้องน้ำ ก็เดาว่าเขาคงกำลังจะส่งซิกแนล หรือส่งสัญญาณ เธอก็เลยเรียกเจ้าหน้าที่ของห้างมาดูของนั้น ปรากฏว่าในกระเป๋ามีซองยาบ้าอยู่ 3 เม็ด เธอเลยรู้ว่ามันเป็นอุบายของพวกมิจฉาชีพ
ถ้าเธอหยิบกระเป๋านั้นออกจากห้องน้ำด้วยความปรารถนาดี ก็คงจะตกเป็นเหยื่อของตำรวจปลอม หรือมิจฉาชีพ ชายคนนั้นคงจะส่งซิกแนลให้ตำรวจปลอมมากรรโชกทรัพย์เธอ ข้อหามียาบ้าอยู่ในครอบครอง แต่ว่าพอเธอไม่ทำอย่างนั้นก็เลยรอดตัวไป
เดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเขามีวิธีการใหม่ ๆ นอกจากอาศัยความกลัว ความโลภ ความอยากรู้อยากเห็นของผู้คนแล้ว ยังอาศัยความมีน้ำใจของผู้คนด้วย คนเราเวลาเห็นใครตกทุกข์ได้ยากก็อยากจะช่วย ตรงนี้แหละเปิดช่องให้พวกมิจฉาชีพมาหาประโยชน์จากเราได้ หรือเอาเราเป็นเหยื่อ
ผู้หญิงคนหนึ่งเล่าว่า ขับรถกลางดึกในซอยเปลี่ยว เจอผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนถนนพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์ เหมือนกับว่าเกิดอุบัติเหตุโดยรถเฉี่ยวชน เธอจอดรถแล้วจะลงไปช่วย แต่ก็เอะใจ เพราะว่าสังเกตว่าบริเวณนั้นไม่มีร่องรอยอุบัติเหตุ ไฟท้ายของรถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่แตก ไม่มีเศษแก้วอยู่บริเวณนั้นเลย
เธอก็เลยหยุดรถ แต่ไม่ลงจากรถ จะไปต่อก็ไม่ได้ เพราะทางมันแคบ แล้วเธอทำอย่างไร เพราะว่าไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะต้องการความช่วยเหลือก็ได้ เธอก็เลยเรียก 191
พอดีมีผู้ชายคนหนึ่ง เหมือนกับเป็นพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ มาเรียกเธอให้ลงจากรถ หาว่าเธอไปทำให้เกิดอุบัติเหตุนี้หรือเปล่า แต่เธอไม่ยอมลงจากรถ แล้วปิดล็อกประตูไว้
สักพักตำรวจก็มา ชายคนนั้นก็หนีไปเลย มีมอเตอร์ไซค์มารับ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่ล้มขับรถหนีไปเลย เป็นอันว่าเป็นอุบายของมิจฉาชีพอย่างแน่นอน พอเจอตำรวจแล้วหนีทันที
การที่คนเราอยากจะช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นเรื่องดี แต่ว่าต้องระมัดระวังตัวในขณะที่เราช่วยคนอื่น อย่าลืมรักษาหรือระวังตัวเองด้วย อาจจะรวมถึงระวังทรัพย์สินของตัวด้วย
มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกินอาหารอยู่บนโต๊ะ เธอหันหลังให้กับประตู สักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านมาทางขวา แล้วทำกระเป๋าตกบนพื้น เธอเห็นก็อยากจะหยิบกระเป๋านั้นเพื่อบอกผู้หญิงคนนั้นให้รู้ว่าเธอทำกระเป๋าตก
แต่ระหว่างที่เธอก้มเพื่อเอามือขวาหยิบกระเป๋าที่ตก มือซ้ายเธอก็กุมโทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะเอาไว้ ซึ่งพอดีมีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทางประตู อยู่ข้างหลังเธอ แล้วเตรียมจะหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอ แต่หยิบไม่ได้เพราะว่ามือซ้ายของเธอกุมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ขณะที่มือขวาเอื้อมลงไปหยิบกระเป๋า ก็เลยไม่สูญเสียโทรศัพท์มือถือ
เพราะชายคนนั้นกะอยู่แล้วว่าถ้าเธอก้มลงไปหยิบกระเป๋าด้วยสำนึกของพลเมืองดี โทรศัพท์มือถือที่วางบนโต๊ะเขาคงจะหยิบเอาไปได้ง่าย ๆ แต่ว่าพอเจอผู้หญิงคนนี้เธอใช้มือซ้ายกุมโทรศัพท์มือถือไว้ เขาเลยต้องเปลี่ยนแผน เดินผ่านเลยไป อันนี้เรียกว่าผู้หญิงคนนี้มีสติดี และรู้จักระวังตัว แม้จะช่วยคนอื่น มีน้ำใจอยากจะช่วยคนอื่น แต่ว่าระวังทรัพย์สินของตัวด้วย
นี้คือสิ่งที่เราต้องมีสติระลึกนึกเอาไว้ เดี๋ยวนี้เวลาช่วยใคร ต้องไม่ลืมที่จะระวังตัว หรือป้องกันตัวไปพร้อม ๆ กันด้วย เรียกว่าช่วยเหลือคนอื่น และช่วยเหลือตัวเองไปด้วย
เดี๋ยวนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะทำอะไรเพื่อส่วนรวม เห็นความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นก็อาจจะพูด อาจจะบอก มีหลายคนที่บอกให้คนได้รู้ว่ามีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในสังคมเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมหรือของประเทศชาติ เจตนาดี แต่บางครั้ง หรือบ่อยครั้ง คนที่สูญเสียผลประโยชน์เขาไม่พอใจ เขาก็หาทางขัดขวาง หรือว่ากลั่นแกล้ง
เจอแบบนี้ต้องรู้จัก ไม่ใช่แค่ระวังตัวอย่างเดียว ต้องระวังใจด้วย หรือป้องกันใจของตัวเอง ระวังตัวด้วยการไม่เปิดช่องให้เขาตอบโต้ได้ หรือว่าไม่เพลี่ยงพล้ำเปิดช่องให้เขารังแก
แต่บางครั้งแม้ว่าจะพยายามอย่างไร เขาก็หาทางกลั่นแกล้งได้ เพราะเขามีอำนาจ เดี๋ยวนี้เขาใช้กฎหมาย ใช้กระบวนการยุติธรรมในการจัดการกับคนที่ขัดขวางผลประโยชน์ ฟ้องหมิ่นประมาทบ้าง อ้างกฎหมายต่าง ๆ เพื่อมาหาทางขัดขวางคนที่ปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม
คนเหล่านี้ นอกจากต้องระวังตัวไม่ให้เกิดความเพลี่ยงพล้ำทางคดีความแล้ว การป้องกันใจก็สำคัญ เช่น เผื่อใจไว้บ้างว่าอาจจะเจอการตอบโต้ของคนเหล่านี้ หรือองค์กรเหล่านี้ที่มีผลประโยชน์ มีเงินมหาศาล
เผื่อใจแค่นี้ไม่พอ ต้องเผื่อใจว่าเขาอาจจะใช้กฎหมายหรือกระบวนการยุติธรรมมาเล่นงานเราด้วย เผื่อใจเจอความไม่ถูกต้องของกระบวนการยุติธรรมซึ่งควรจะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของส่วนรวม แต่ว่ากลายเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจ หรือว่ากลุ่มบุคคล
แล้วบางทีต้องเผลอใจว่าตัวเองอาจจะต้องเจอความอยุติธรรมที่เป็นผลพวงของการใช้กระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้ง เพราะถ้าไม่เผื่อใจไว้ อาจจะท้อ อาจจะทุกข์เวลาเขากลั่นแกล้งได้สำเร็จ เพราะเดี๋ยวนี้คนที่มีเงิน คนที่มีเส้นสายสามารถจะทำอะไรได้มากมาย แม้แต่ใช้กระบวนการยุติธรรมในการกลั่นแกล้งผู้คนที่ขัดขวางผลประโยชน์ของเขา
เจอเหตุการณ์แบบนี้ต้องทำใจ หรือเผื่อใจไว้ก่อน จะได้ไม่ทุกข์ ไม่ท้อ และไม่เสียกําลังใจ เพราะว่าคนทำความดี ถ้าหากว่าท้อ หรือว่าห่อเหี่ยว ก็เหมือนกับปล่อยให้การเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นมากในสังคม
ต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง การทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม แม้จะเจอกับอุปสรรค เจอการตอบโต้ เจอการรังแก เป็นการปฏิบัติธรรมเพื่อส่วนรวมและเพื่อส่วนตนด้วย อย่างที่มีคนพูดว่า มารบ่มี บารมีบ่เกิด การที่โดนมารกลั่นแกล้งก็ทำให้บารมีแก่กล้าขึ้น บารมีของคนเราจะแก่กล้าต้องเจอกับมารมารังควาน อันนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง
ในส่วนของคนที่อยู่รอบนอก ต้องหาทางช่วย ให้กําลังใจคนที่เขาถูกกลั่นแกล้ง ไม่ให้เขาท้อแท้ ท้อถอย หรือช่วยทำให้คนเห็นว่าวิธีการแบบนี้ไม่ควรจะมีในสังคม เพราะเดี๋ยวนี้มีการใช้วิธีการแบบนี้มากในการขัดขวางกลั่นแกล้งผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม
ฉะนั้น ถ้าเรานิ่งดูดายก็ทำให้เขาได้ใจเหิมเกริม และทำหนักขึ้น สุดท้ายเราเองจะสูญเสียผลประโยชน์ หรือว่าประเทศชาติจะเดือดร้อนไปด้วย
อันนี้ถือเป็นหน้าที่ของนักปฏิบัติธรรมหรือผู้ใฝ่ธรรม.