พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วคงได้ข่าวว่าทางการไทยสั่งตัดไฟตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ที่ไปถึงชายแดนพม่า ทำไมถึงทำอย่างนั้น ก็เพราะว่าชายแดนไทย-พม่านี้ ในฝั่งพม่านี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์เยอะไปหมด พวกนี้ก็อาศัยช่องว่างทางกฎหมาย แฝงตัวอยู่ตามชายแดนทางฝั่งพม่า เผลอๆ ก็คงไปถึงฝั่งลาวฝั่งเขมร เพื่อทำการหลอกลวงเอาเงินจากคนในเมืองไทย ที่เราเรียกง่ายๆ ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ซึ่งก็สร้างความเสียหาย ความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนนี้มานานแล้วเป็นปีๆแล้ว เงินที่สูญไปให้กับพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้คงจะนับหมื่นๆ ล้าน แต่ทั้งที่เป็นมานานแล้วก็เพิ่งกระตือรือร้นในการตัดไฟตัดสัญญาณ เพราะว่าพวกนั้นใช้ไฟฟ้า ใช้สัญญาณโทรศัพท์จากเมืองไทยไปหลอกลวงคนไทย
พอตัดเสร็จปรากฏว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งมิจฉาชีพนี้แผ่วเลย ช่วงนี้ก็เรียกว่าเบาบางไปเยอะ แต่การทางชายแดนพม่านี้ก็เดือดร้อนกันมาก เพราะว่าอาศัยไฟฟ้า อาศัยสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณเน็ตจากเมืองไทยเลยอยู่เฉยไม่ได้ ต้องหาทางทะลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ตามชายแดนไทย-พม่า
ปรากฏว่าเมื่อวันสองวันนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยเลย ต่างชาติถูกส่งกลับมาทางเมืองไทย คนเหล่านี้นี้ส่วนใหญ่เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพถูกหลอกมา ถูกหลอกมาเพื่อให้ไปทำงานรับใช้แก๊งเหล่านี้ ก็เหมือนกับแรงงานทาส แต่ว่าเป็นแรงงานที่มีความรู้ความสามารถ ก็ถูกใช้งานอย่างหนักไปไหนไม่ได้ ก็ไม่ต่างจากนักโทษหรือทาส
พอแก๊งพวกนี้ถูกทะลายแล้วก็เหยื่อก็ได้รับอิสรภาพ เฉพาะที่มาทางเมียวดีนี้จังหวัดตากนี้ก็ 200 กว่าคนเกือบ 300 จาก 20 ประเทศ และเขาก็บอกว่ายังมีอีกประมาณ 7000 คนที่กำลังจะออกมากลับมาสู่เมืองไทย 7000 คน ส่วนใหญ่คงเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ก็คงมีจำนวนหนึ่งพวกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ว่าปะปนมากับคน 7000 คนเหล่านี้จะได้ไม่ต้องถูกจับมากกว่า อ้างว่าเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แต่ว่าจำนวน 7000 นี้เฉพาะจุดเดียวนี้ก็ถือว่าเยอะ คนที่เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ถูกหลอกไปเป็นแรงงานทาส ยังไม่นับอีกสี่จุด ที่เป็นแหล่งพักพิงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามชายแดนพม่า และยังไม่นับอีกมากมายที่อยู่ในพม่า ในลาว ในกัมพูชา นี่เฉพาะที่เป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกหลอกมาก็คงจะมีคนจีนด้วยแหละ ถูกหลอกมาแล้วก็ถูกเอาไปขาย จากกระบวนการค้ามนุษย์ให้ไปเป็นแรงงานทาสให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แสดงว่านี่มันน่ากลัวมาก คนที่ตกเป็นเหยื่อนี้ไม่ใช่มีเฉพาะคนที่เสียเงิน ซึ่งมีนับไม่ถ้วน ยังมีคนที่เสียอิสรภาพด้วยถูกจับไปใช้งาน เขาคาดการณ์ว่า ถ้าหากมีการให้เล่นพนันออนไลน์อย่างถูกกฎหมายนี้ ก็คงจะมีคนจำนวนไม่น้อยถูกจับ ถูกบังคับไปเป็นแรงงานทาส เพื่อทำงานให้กับพวกแก๊งพนันออนไลน์นี้
ในฟิลิปปินส์พอเปิดให้มีการพนันออนไลน์อย่างถูกกฎหมายนี้ เกิดขบวนการค้ามนุษย์บานสะพรั่งเลย มีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายมากมาย มีการค้ามนุษย์กันอย่างมหาศาลเอามาใช้เป็นแรงงาน เพราะพวกนี้ต้องถูกบังคับให้ทำงานหนัก 24 ชั่วโมง เพราะว่าเรื่องออนไลน์พวกนี้ไม่ว่าจะเป็นพนันออนไลน์ หรือมิจฉาชีพออนไลน์พวกนี้ มันทำงานไม่มีหยุดเลย ยิ่งกว่าค้ายาอีก
และตอนนี้ก็พบว่า การหลอกลวงในอินเตอร์เน็ต ที่เราเรียกง่ายๆ ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ มันกลายเป็นอุตสาหกรรมระดับโลกเลย มันแพร่ไปทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแถวบ้านเราอย่างเดียว การหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตตอนนี้มันกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เขาว่ามันเกี่ยวข้องกับเม็ดเงินและพื้นที่ที่กว้างกว่าการค้ายาเสพติด หรือค้ายาที่ผิดกฎหมายด้วย
การค้ายาเสพติดนี้ไม่ว่าจะเป็นฝิ่น เฮโรอีน หรือยาบ้านี้ มันก็เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่โตน่ากลัวแล้ว การหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตนี้มันใหญ่กว่านั้น น่ากลัวกว่านั้นเยอะในแง่เม็ดเงิน ก็เรียกว่ามากกว่าการค้าการซื้อขายยาเสพติด และพื้นที่ก็กว้างขวางกว่าด้วย แถมน่ากลัวกว่าอีก เพราะอะไร
เพราะประการที่ หนึ่ง มันเกี่ยวข้องกับคนทุกคนเลย แม้ว่าจะใช้ชีวิตตามปกติแม้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแม้จะไม่ได้เสพติดอะไรนี้ ก็มีสิทธิ์ที่จะตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ตได้ พวกนี้อาศัยอะไร มันอาศัยหลอกให้หลงรัก อาศัยความกลัว อาศัยความเหงา อาศัยความเศร้า อาศัยความเบื่อ อาศัยความโลภ
อาศัยความกลัวซึ่งคนเราก็มีกันทั้งนั้นแหละ และคนที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้นี่ก็เพราะถูกหลอกให้กลัว หรือว่ามีความเบื่อ มีความเหงาอยากมีคู่ หรือมีความโลภ ก็คือคนธรรมดานี่แหละ พวกนี้มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจำนวนนี้ก็มากกว่าคนที่จะตกเป็นเหยื่อพวกแก๊งค้ายาบ้าหรือยาเสพติด
ประการที่ สอง ที่ว่ามันน่ากลัวกว่าแก๊งยาเสพติดหรือขบวนการค้ายาเสพติด ก็เพราะว่ากฎหมายเข้าถึงยากมาก เอื้อมมือถึงยากมาก เพราะว่ามันอยู่ใต้ดินมันไม่ค่อยมาเพ่นพ่านบนถนน ไม่เหมือนเหมือนพวกค้ายานี้ มันยังจะต้องมาเพ่นพ่านบนถนน เพราะต้องมาปล่อยยา รับเงิน รับเงินสด ปล่อยยา ขายยา แต่พวกมิจฉาชีพทางอินเตอร์เน็ตอยู่ใต้ดิน อยู่ในตึกไม่ออกมาเพ่นพ่านบนถนน แถมกฎหมายก็ยังเอื้อมมือไปไม่ถึงเพราะว่าไม่ทันสมัย
แล้วประการที่ สาม มันมีนวัตกรรมสูงมาก พวกแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ใช้ ai มันมีมัลแวร์หรือว่าไวรัสตัวแปลกๆ ที่ผลิตคิดค้นมา เพื่อมาหลอกเอาเงินจากผู้คน พวกแก๊งค้ายานี้มันยังไม่มีนวัตกรรมสูงขนาดนี้
เดี๋ยวนี้แค่เขาได้เสียงเรา 15 วินาทีก็สามารถเอาไปตัดแต่งหรือปลอมเสียงเรา หรือแม้กระทั่งคลิปของเรานี้แค่ 15 วินาทีก็สามารถเอาไปทำคลิปปลอม เอาไปใช้หากินได้ แก๊งค้ายาไม่ได้ทำขนาดนี้ แต่ว่าแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์นี้มันสามารถทำได้ จึงน่ากลัวมาก
ฉะนั้นเราอยู่ในยุคที่เรียกว่าแม้จะสะดวกสบายเพราะมีโทรศัพท์มือถือ แต่ความสะดวกสบายนี้ก็สามารถทำให้เราตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ได้ เราจึงต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะใครที่มีบัญชีเงินฝากผูกติดกับโทรศัพท์มือถือต้องระมัดระวังให้มาก
มีผู้รู้แนะนำว่าบัญชีของเราที่ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ หรือโอนทางโทรศัพท์มือถือได้ ควรมีเงินให้น้อยๆ หากว่าถูกหลอกไปก็จะได้เสียเงินไปไม่มาก เงินที่เหลือเอาไปฝากในบัญชีฝากประจำ ประเภทว่ามีกำหนดถอนที่แน่นอน 3 เดือน 6 เดือน ไม่ใช่ว่าถอนได้ง่ายๆ
พอถอนได้ง่ายๆ ก็ถูกหลอกได้ง่ายๆ หรือไม่เช่นนั้นก็เอาเงินไปฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ จะไปเบิกนี่ก็ต้องไปแสดงตัวที่ธนาคาร เบิกมาแล้วก็ค่อยเอามาใส่ไว้ในบัญชีที่ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ แต่ใส่ไม่มาก เผื่อว่าถูกหลอกไปก็จะได้ไม่เสียมากมาย
อันนี้ก็เรียกว่าเป็นวิธีการบริหารเงินที่จำเป็นมากสำหรับยุคนี้ ไม่ใช่ว่าเอาเงินทั้งหมดนี้ไปใส่ไว้ในบัญชีที่ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ อย่างนี้มีโอกาสที่จะหมดไปทั้งยวงเลย ใส่ไปเป็นล้านสิบล้าน ก็อาจจะหมดทั้งสิบล้านก็ได้ แต่ถ้าใส่ไปแค่สี่-ห้าหมื่น สอง-สามแสน ถ้าหากว่าถูกหลอกไปก็อาจจะเสียไปไม่มาก ที่เหลือก็ยังอยู่ในบัญชีที่ฝากประจำ หรือฝากบัญชีออมทรัพย์ที่ไม่ได้ผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ เป็นการบริหารเงินที่ไม่ประมาท
แต่บริหารเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องบริหารใจด้วย คือต้องมีสติ สตินี้จำเป็นมากในการรักษาทรัพย์ที่มีอยู่ เพราะถ้าไม่มีสตินี้ก็สูญเสียทรัพย์ไปได้ง่ายๆ ถ้ามีสตินี้ทรัพย์ที่มีอยู่ก็สามารถรักษาไว้ได้
อย่างไรก็ตามก็ต้องเผื่อใจไว้ เพราะว่าทรัพย์ที่มีอยู่นี้ก็อาจจะสูญเสียไป เพราะถูกหลอกบ้าง หรือเพราะเหตุผลใดก็แล้วแต่ ต้องมีสติเหมือนกัน มีสติในยามที่สูญเสียทรัพย์ เพราะว่าสติจะช่วยรักษาใจ แม้ว่าจะเสียทรัพย์แต่ว่าใจไม่เสีย
ในยุคนี้สำคัญมาก ไม่ใช่ว่าพอมีความสะดวกสบายแล้ว ก็คิดแต่จะอัพเกรดเทคโนโลยี หาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สะดวกสบาย แต่ลืมอัพเกรดใจของตัว ใจของตัวนี้ยังต้องอัพเกรดเหมือนกัน ให้มีสติมากขึ้น มีสติในการใช้ทรัพย์ มันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ ซึ่งตอนนี้มาเหนือเมฆมากขึ้นเรื่อย ๆ เก่งแค่ไหนก็ยังถูกหลอกได้
อาตมาก็เหมือนกันมีสิทธิ์ที่จะถูกหลอกไปได้เหมือนกัน ถ้าหากว่าเอาเงินไปผูกติดกับโทรศัพท์มือถือ เราก็ต้องมีสติในการรักษาใจเวลาสูญเสียทรัพย์ อาจจะไม่ได้เสียทรัพย์เพราะว่าพวกแก๊งมิจฉาชีพ แต่สูญเสียเพราะเหตุผลอื่น บางทีถูกหลอก หรือว่าใช้จ่ายเงินในสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือบางทีก็มีคนมาขโมยเอาไปดื้อๆ ก็ต้องมีสติเอาไว้ รวมทั้งไฟไหม้ น้ำท่วม เสียทรัพย์
สตินี้จำเป็นมากทั้งในการรักษาทรัพย์ และในการรักษาใจในยามเสียทรัพย์ อันนี้ก็ต้องบริหารใจด้วยไม่ใช่แค่บริหารแต่ทรัพย์อย่างเดียว.