พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 21 มีนาคม 2568
ที่ประเทศจีน มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุ 5 ขวบชื่อ เลอเล่อ เรียนอนุบาล เวลาเลิกเรียนเสร็จแม่ก็มารับเลอเล่อกลับบ้าน แต่ว่ามักจะแวะที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ บ้านเพื่อซื้อขนมให้เลอเล่อ ทำอย่างนี้เป็นอาจิณ จนกระทั่งเลอเล่อคุ้นกับห้างสรรพสินค้านี้
มีวันหนึ่ง แม่ปล่อยเลอเล่อให้เลือกซื้อขนมและวิ่งเล่นแถวนั้น ส่วนแม่ไปซื้อของที่แผนกอื่น ซื้อเสร็จจะกลับมารับเลอเล่อกลับบ้าน เจอคนรู้จัก เลยคุยกัน คุยกันยาวเลย พอคุยเสร็จก็ไปหาเลอเล่อ ปรากฎว่าหาไม่เจอ นัดกันเอาไว้ที่แผนกขนม แต่เลอเล่อหายไปแล้ว
แม่เลยเดินไปตามที่แผนกอื่น ก็ไม่เจอ แผนกเด็กเล่นก็ไม่เห็น เลยเดินไปทั่วทุกชั้นทุกแผนกหาเลอเล่อไม่เจอ ตกใจมาก หาเป็นชั่วโมงแล้ว สุดท้ายไปบอกผู้จัดการขอดูกล้องวงจรปิดหน่อย
ปรากฏว่าเห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งจูงเลอเล่อออกไปจากห้างสรรพสินค้า ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้จักเลย สงสัยว่าจะมาหลอกเด็ก อาจจะเป็นพวกแก๊งค้ามนุษย์ เลยออกไปตามหารอบ ๆ ห้างสรรพสินค้าก็ไม่เจอ จนค่ำ
สุดท้ายแม่ต้องกลับบ้าน และวิตกกังวลมากว่าลูกเป็นอย่างไร ทุกข์มากเพราะว่าเมืองจีนมีพวกแก๊งค้ามนุษย์หลอกเด็กไม่น้อยเลย คงพอ ๆ กับเมืองไทย จนกระทั่ง 4 ทุ่ม มีตำรวจมาพาเลอเล่อกลับมาบ้านด้วย แม่ดีใจใหญ่ ตำรวจบอกว่าเจอเลอเล่อที่สถานีรถไฟ สอบถามได้ความว่าบ้านเลอเล่ออยู่แถวนี้ ดีที่เลอเล่อบอกตำแหน่งบ้านถูก
ตำรวจจึงพาเลอเล่อมาส่งคืนพ่อแม่ แม่ดีใจใหญ่ ตกนรกไปหลายชั่วโมง ตอนนี้เหมือนขึ้นสวรรค์แล้ว
พอตำรวจไปแล้ว แม่สอบถามเลอเล่อว่าเกิดอะไรขึ้น เลอเล่อบอกว่ามีผู้หญิงแปลกหน้ามาบอกว่าแม่ให้มารับเลอเล่อกลับบ้าน เลยตามผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้น จนกระทั่งไปถึงสถานีรถไฟก็เริ่มรู้แล้วว่าสงสัยถูกหลอกแน่ ตกใจ แต่ว่าตั้งสติได้ แล้วนึกถึงคำแนะนำของพ่อแม่เวลาเจอคนมาหลอก แล้วเลอเล่อก็รอโอกาส
เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาใกล้ ๆ เลอเล่อมองไปที่ผู้หญิงคนนั้น แล้วพูดว่า ตะโกนว่า “แม่ ทำไมแม่เพิ่งมา” ร้องเสียงดัง ผู้ร้ายที่ลักพาตัวเลอเล่อพอรู้ พอได้ยินก็ตกใจ รีบหนีไปเลย เพราะนึกว่าแม่ของเลอเล่อมาแล้ว แต่ที่จริงผู้หญิงคนนั้นที่เลอเล่อเรียกไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่ที่เลอเล่อพูดอย่างนั้นเพราะแม่เคยสอนว่า วิธีการเอาตัวรอดเวลาถูกคนลักพาตัวไปทำอย่างไร และเด็กคงจะมีปฏิภาณด้วย รู้จักปรับแต่ง แล้วเลยตะโกนมาดัง ๆ แค่ประโยคเดียวเท่านั้น “แม่ ทำไมแม่เพิ่งมา” ผู้ร้ายหนีทันที ปล่อยเลอเล่อไว้ที่สถานีรถไฟ เลอเล่อเลยไม่รู้จะทำอย่างไร เดินไปเดินมา จนกระทั่งมีผู้ใหญ่ใจดีพาเลอเล่อไปหาตำรวจ และตำรวจเลยพาเลอเล่อกลับมาส่งบ้าน
อันนี้เรียกว่าเด็กเขามีปฏิภาณ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่อาศัยปฏิภาณอย่างเดียว เพราะถ้าพ่อแม่ไม่เคยแนะนำบอกลูกว่าควรจะทำอย่างไรเวลาถูกลักพาตัว บางทีเลอเล่อคิดไม่ออกเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น การที่พ่อแม่บอกลูก แนะนำลูกว่าควรจะทำตัวอย่างไรเวลาเจอคนแปลกหน้ามาหลอก มาลักพาตัวไป อันนี้เรื่องสำคัญ รวมทั้งบอก แนะนำลูกว่าควรจะทำอย่างไรถ้าเกิดหลงทาง จะบอกตำรวจอย่างไร ถึงจะกลับบ้านได้ถูก อันนี้เรียกว่าพ่อแม่เขามีความรอบคอบ
เราซึ่งมีลูกมีหลานต้องบอก ต้องแนะนำเด็ก เผื่อว่าเกิดเหตุเภทภัยอะไรจะได้เอาตัวรอดได้ แต่บอกลูกบอกหลานอย่างเดียวไม่พอ ต้องบอกตัวเองหรือเตือนตัวเองด้วย เพราะว่าภัยไม่ได้เกิดขึ้นกับเด็กอย่างเดียว ภัยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน รวมทั้งผู้ใหญ่ด้วย
เช่น ต้องย้ำเตือนตัวเองจะทำอย่างไร เกิดขับรถแล้วยางแตกจะทำอย่างไร ถ้าเกิดไฟไหม้ในตึก ตัวอยู่ในห้องหรือในห้องประชุมที่มีคนเยอะแยะ เพราะไม่อย่างนั้นเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจ กรูกัน เหยียบกันตายก็มี จำนวนไม่น้อยไม่ได้ตายเพราะว่าไฟหรือว่าควันไฟ ตายเพราะเหยียบกันตาย
รวมทั้งรู้จักเตือนตัวเอง เกิดขับรถแล้วรถแฉลบลงคูไป รถที่ตกอยู่ในน้ำ จมอยู่ในน้ำ จริง ๆ ถ้าหากว่ารู้วิธีก็เอาตัวรอดได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้วิธี พยายามเปิดประตู ดันประตู ดันอย่างไรก็ไม่ออก เพราะว่าข้างนอกน้ำมีแรงดันสูง ถ้ารถจมน้ำแล้วดันประตูอย่างไรก็ไม่ออก
แล้วจะออกมาอย่างไร อันนี้ต้องรู้ ทำอย่างไรถึงจะเปิดกระจก และรอให้น้ำเข้ามาจนเกือบท่วมรถแล้วจึงค่อยออกมาได้ หรือเช่นนั้นตอนเปิดประตูก็อาจจะเปิดได้ แต่ว่าออกมาทางกระจกปลอดภัยกว่า
หรือว่าไฟไหม้ในรถ อย่างรถเมล์ไฟไหม้ ทำอย่างไรจะเอาตัวรอดได้ออกจากรถ อย่างเหตุการณ์เมื่อ 3-4 เดือนก่อนที่รังสิต รถไฟไหม้ รถทัวร์ รถทัศนาจรไฟไหม้ เด็กตายกันเยอะ ครูก็ตาย ออกมาไม่ได้ที่ออกมาได้ทันก็รอด ของแบบนี้ต้องรู้
แม้กระทั่งสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวติดคอ จะทำอย่างไร แม้จะมีคนอยู่ใกล้ ๆ บางทีเขาก็ช่วยไม่เป็น เราต้องรู้จักช่วยตัวเองแล้ว เพราะว่าเวลาเป็นเงินเป็นทองมาก ยิ่งกว่าเป็นเงินเป็นทอง มันคือชีวิต เพราะว่าถ้าข้าวติดคอ หายใจไม่ออก 4 นาทีเท่านั้น กลายเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว หรือตาย ถ้าไม่ใช่เจ้าชายก็เจ้าหญิงนิทรา
ฉะนั้น ต้องรู้จักช่วยตัวเอง ทำอย่างไรจะเอาข้าวหรือหมากฝรั่งที่ติดคอให้กระเด็นออกจากคอได้ พวกนี้ต้องรู้ ต้องรู้แล้วต้องรู้จักเตือนตัว ไม่ใช่ว่าเตือนแต่ลูก บอกลูก แต่ว่าไม่ได้บอกตัวเอง ของแบบนี้เกิดขึ้นได้ ที่ตายก็เยอะ เพราะไม่รู้ แต่ถึงรู้แล้วไม่พอ รู้แล้วก็แค่จำ เรียกว่า รู้จำ ต้องมีสติด้วย เพราะว่าถ้าไม่มีสติ นึกไม่ออก
ขนาดเวลาโกรธ ก่อนโกรธตั้งใจว่าโกรธแล้วจะนึก พุทโธ ๆ จะอยู่กับลมหายใจ เข้า พุท หายใจออก โธ แต่พอโกรธลืมพุทโธหมด แล้วถ้าเกิดอยู่ในภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เกิดความตื่นตระหนกตกใจขึ้นมา ที่เรียนรู้อะไรมาลืมหมด จนกว่าจะมีสติ
เลอเล่อเขาไม่ใช่แค่รู้ว่าพ่อแม่แนะนำอะไร แต่เขามีสติ เขาถึงจำได้ ถ้าไม่มีสติ ตื่นตระหนกตกใจ จำไม่ได้ว่าแม่เคยสอนว่าอะไร
เราก็เหมือนกัน แม้เราจะเตือนตัวว่าควรจะทำอย่างไร แต่พอเจอเหตุการณ์เข้าจริง ๆ หน้าสิ่วหน้าขวาน ความเป็นความตาย ลืมหมด แล้วทำไปตามสัญชาตญาณ ซึ่งมักจะพาเราเข้าสู่อันตรายหนักขึ้น เจอไฟก็หนีอย่างเดียว เพราะขาดสติ หรือว่ารถจมอยู่ในน้ำก็ดันประตูอย่างเดียว ก็ไม่มีทางที่จะรอดได้.