พระพุทธองค์พูดถึงธรรมที่ทำให้อายุยืน มี 5 ประการ ข้อหนึ่งคือการเคี้ยวอาหารที่ย่อยง่าย การกินอาหารที่ย่อยง่ายถือว่าเป็นธรรมะข้อหนึ่ง อย่าไปคิดว่าต้องเป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง แค่รู้จักกินอาหารที่ย่อยง่ายถือว่าเป็นธรรมะ แล้วก็ช่วยทำให้อายุยืน แล้วข้อสุดท้ายคือการมีกัลยาณมิตร
บางคนอาจจะสงสัยว่าการมีกัลยาณมิตรหรือเพื่อนที่ดี ช่วยทำให้อายุยืนอย่างไง บางคนอาจจะคิดว่า เป็นเพราะว่าการมีกัลยาณมิตรก็ช่วยทำให้ไม่ไปติดเหล้าเมายา เพราะถ้าเพื่อนไม่ดีก็ชวนไปกินเหล้า หรือว่าไปคบเพื่อนชั่วก็ทำให้อายุสั้น แต่ที่จริงกัลยาณมิตรสามารถจะเกื้อกูลเรามากกว่านั้น ไม่ใช่แค่พาเราไปสู่ทางที่ดี เว้นจากการกินเหล้าเมายา
กัลยาณมิตรหมายถึงเพื่อนที่ดี เพื่อนที่จริงใจ เพื่อนที่เอื้อเฟื้อมีน้ำใจช่วยเหลือในยามยาก อันนี้มีผลต่อจิตใจของผู้คน แล้วก็จิตใจที่ผาสุขทำให้สุขภาพดี แล้วช่วยให้อายุยืน อันนี้ไม่ใช่แค่ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนมาเป็นพันๆ ปี ระยะหลังมีงานศึกษาวิจัยมากมาย ที่ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดี ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นราบรื่น ช่วยทำให้คนเราอายุยืน
อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ เขามีการเปิดเผยผลการศึกษาผู้หญิง 8,000 คน ที่ประเทศออสเตรเลีย เขาเริ่มติดตามตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ปี 2539 แล้วก็เลือกศึกษากับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 45 ถึง 50 ปัจจุบันนี้ก็เป็นผู้สูงวัยกันไปแล้ว แล้วเขาสอบถามทุก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2539 ว่าคนเหล่านี้มีความพึงพอใจกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ไหม ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับคู่ครอง ความสัมพันธ์กับครอบครัว ความสัมพันธ์กับมิตรสหาย ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
แล้วเขาติดตามไปจนถึงว่ามีความเจ็บป่วยไหม โรคที่เขาศึกษาเจาะจงได้แก่โรคที่คนเป็นกันเยอะ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดสมองที่สามารถทำให้เส้นโลหิตในสมองแตกได้ เป็นต้น รวมทั้งโรคปอด โรคหืด โรคมะเร็ง โรคไขข้ออักเสบ รวมทั้งโรคซึมเศร้าวิตกกังวล ประมาณ 10 ชนิดได้ที่คนเป็นกันเยอะๆ
ติดตามเรื่อยมาจนกระทั่งผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว คนเหล่านี้ก็อายุ 70 กว่าแล้ว หรือเกือบๆ 70 ก็มี แล้วสิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบคือ คนที่มีความพึงพอใจในความสัมพันธ์ พูดง่ายๆ คือมีมิตรที่ดี โอกาสที่จะเป็นโรคที่ว่านี้มีน้อยมาก ในขณะเดียวกันคนที่มีปัญหาความสัมพันธ์ ไม่ว่ากับคู่ครอง กับครอบครัว กับเพื่อนร่วมงาน กับเพื่อนบ้าน เขาพบว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคเหล่านี้มากกว่า
มีการให้คะแนนว่า มีความพึงพอใจกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่มากน้อยแค่ไหน เขาติดตามตั้งแต่วัยกลางคนจนถึงวัยชรา แล้วเขาได้ข้อสรุปว่า คนที่มีความพึงพอใจในความสัมพันธ์ ถ้าให้คะแนนต่ำสุด มีโอกาสเป็น 2 เท่าที่จะเป็นโรคที่ว่านี้ เมื่อเทียบกับคนที่เขามีความพอใจสูงสุดกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่
อันนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นานแล้วว่า กัลยาณมิตรหรือการมีมิตรดี ซึ่งทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่อบอุ่น มีส่วนทำให้อายุยืน เริ่มต้นตั้งแต่การที่ไม่เจ็บไม่ป่วย หรือเจ็บป่วยน้อย เพราะว่าถ้าเจ็บป่วยน้อยด้วยโรคที่ว่าก็มีโอกาสที่จะมีอายุยืนได้
เขาเลยบอกว่า คนเราควรจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน วัยกลางคนคือ 30 ถึง 40 ขึ้นไป ความสัมพันธ์ที่ดีหรือการมีกัลยาณมิตรในช่วงวัยกลางคน ถ้ามีอย่างต่อเนื่องก็มีส่วนทำให้สุขภาพดี มีโรคภัยไข้เจ็บน้อย แล้วก็ทำให้มีอายุยืนด้วย
แล้วถามว่าทำไมการมีมิตรดี มีความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้สุขภาพดี อันนี้ก็อย่างที่พูดไปแล้วว่าทำให้จิตใจดี อารมณ์ดี หรือว่ามีความเครียดน้อย พอใจสุขภาพจิตดีก็ทำให้สุขภาพกายดีด้วย
แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าพอมีมิตรที่ดีมีความสัมพันธ์ที่ดี พอเวลามีปัญหาในชีวิต มีปัญหาการงาน มีปัญหาคนรักล้มหายตายจากไป หรือมีปัญหาด้านการเงิน การที่มีมิตรดีอย่างน้อยก็ทำให้มีกำลังใจ มีกำลังใจในการที่จะรับมือกับความทุกข์เหล่านี้ หรือว่ามีกำลังใจในการรับมือกับความเครียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ตรงข้ามคนที่อยู่คนเดียว เวลามีปัญหามีความทุกข์เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะพึ่งพาใคร หรือว่าไม่มีคนมาช่วยให้กำลังใจ ทำให้เกิดความเครียดหนักขึ้น พอเครียดมากๆ เข้า ก็เปิดช่องให้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นได้
ไม่ใช่ว่ามีเพื่อนดีแล้ว มีความสัมพันธ์ที่ดี จะไม่เกิดปัญหา จะไม่เกิดเหตุร้าย เหตุร้ายเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าคนดีหรือคนชั่ว ไม่ว่าคนที่มีเพื่อนเยอะ ครอบครัวใหญ่ หรือที่มีเพื่อนน้อย ครอบครัวเล็ก แต่อยู่ที่ว่าคนที่มีเพื่อนดี มีความสัมพันธ์ที่อบอุ่น รวมทั้งมีญาติสนิทมิตรสหายที่เอื้อเฟื้อ แม้ว่าจะไม่ได้ให้เงินทอง แต่ว่าการที่รู้ว่ามีคนที่เราจะพึ่งพาอาศัยได้ หรือมีคนที่เขาห่วงใย ก็ทำให้เกิดกำลังใจในการที่จะรับมือกับความเจ็บป่วยได้ หรือเกิดกำลังใจในการที่จะรับมือกับความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ พูดง่ายๆ คือช่วยให้เครียดน้อยลง แม้เจอปัญหาเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นคนเราการให้ความสัมพันธ์หรือความใส่ใจกับเพื่อนกับมิตรที่มีอยู่ เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ จะเอาแต่หมกมุ่นกับงานการ หรือจะเอาแต่เที่ยว จะเอาแต่หาเงินหาทอง ไปคิดว่าเงินทองจะเป็นสรณะ เป็นที่พึ่งพาอาศัยได้ อันนี้มันยังไม่ใช่ ใส่ใจกับเพื่อน ดูแล รวมทั้งรู้จักนึกถึงคนอื่นบ้าง การที่คนเราจะมีเพื่อนที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีได้ ไม่ใช่เรียกร้องจากเขา หรือหวังพึ่งพาเขา แต่รวมทั้งการที่มีน้ำใจช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเกื้อกูลเขาด้วย การนึกถึงผู้อื่นอย่างที่บอกไปแล้วเมื่อวาน ช่วยทำให้เรามีความสุขได้ง่ายขึ้น มีความทุกข์ได้น้อยลง เพราะว่าถ้าเรานึกถึงคนอื่นมากเท่าไหร่ ความเห็นแก่ตัวก็น้อยลง ความเห็นแก่ตัวที่น้อยลงก็ทำให้สุขภาพจิตดี แต่ถ้าเห็นแก่ตัวมากขึ้นสุขภาพจิตก็แย่ ร่างกายก็แย่ตามไปด้วย แล้วก็ทำให้อายุก็ไม่ยืน
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566