พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2566
มีชายหนุ่มคนหนึ่งไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อน แล้วก็กินเหล้าจนเมา ระหว่างที่ขับรถกลับบ้านก็ดึกแล้ว ปรากฏว่ารถวิ่งไปชนท้ายรถบรรทุกที่จอดอยู่ข้างทางอยู่ริมทาง รถที่ขับมาด้วยความเร็ว พอประสานงานกับท้ายรถบรรทุกก็พังยับเยินเลย เจ้าตัวปรากฏว่ารอดชีวิตมาได้ แต่ว่ากะโหลกร้าว แขน 2 ข้างก็หัก
แกก็ทั้งเสียใจแล้วก็โมโห โทษพระเจ้าว่าทำไมทำให้ตัวเองเป็นอย่างนี้ คือทำให้ตัวเองต้องประสบกับความเจ็บปวด ที่จริงอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะอะไร มันเกิดขึ้นเพราะความเมามายของตัว แต่แทนที่จะโทษว่าเป็นเพราะเรากินเหล้าเมาสุรา แถมยังขับรถอีก จึงเกิดอุบัติเหตุ ก็ไปโทษพระเจ้าว่าทำไมถึงทำให้เป็นอย่างนี้
แล้วที่น่าสนใจคือว่า ชายหนุ่มคนนี้ จริงๆ แล้วแกก็ไม่ได้เชื่อพระเจ้า เป็นคนไม่มีศาสนา แต่ตอนที่รู้ว่ารถกำลังจะชนท้ายรถสิบล้อ แกก็พอมีสติอยู่บ้างก็เลยตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้ารอดตายจะนับถือพระเจ้า แล้วแกก็รอดตายจริงๆ แต่ว่าแทนที่จะขอบคุณพระเจ้า กลับต่อว่าพระเจ้า ว่าทำไมถึงทำให้ตัวเองเป็นอย่างนี้
มาคิดดูก็แปลกนะ เวลาเจออุบัติเหตุแบบนี้ ไปโทษพระเจ้าแทนที่จะโทษตัวเอง แล้วก็แทนที่ในเมื่อตัวเองมีชีวิตรอดมาได้เพราะว่าอธิษฐานต่อพระเจ้า แทนที่จะขอบคุณพระเจ้า กลับมาต่อว่าพระเจ้าที่ทำให้ตัวเองกระโหลกร้าวหรือว่ากระดูกหัก ก็แปลกนะ แต่ว่าคนแบบนี้มีเยอะ แล้วนับวันจะมีเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างเดี๋ยวนี้ก็มีชายหนุ่มหรือคนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อย ชีวิตก็สุขสบายดี แต่พอเจอความทุกข์ ในเรื่องความสัมพันธ์กับคู่ครอง ความเครียดจากงานการ มีความทุกข์มาก รู้สึกว่าชีวิตมันโหดร้าย ก็ไปโทษพ่อแม่ ว่าทำไมทำให้ตัวเองเกิดมาต้องมาเจอความทุกข์แบบนี้
มีความทุกข์ แทนที่จะมองว่าเป็นเพราะการกระทำของตัวเอง วางใจไม่ถูกหรือเปล่า หรือว่าใช้ชีวิตไม่ถูกต้องมั้ย กลับไปโทษพ่อแม่ว่าเป็นเพราะพ่อแม่ทำให้เกิดมา บางคนถึงกับฟ้องพ่อแม่เลย ฟ้องเอาเรื่องขึ้นศาลเลย ข้อหาว่า พ่อแม่ให้ฉันเกิดมาโดยที่ไม่ได้รับคำยินยอมจากฉัน เป็นการล่วงละเมิดสิทธิ แบบนี้ก็มี แต่ถึงแม้บางคนก็อาจจะไม่สุดโต่งขนาดนั้น แต่ว่าก็โทษพ่อแม่ว่าทำให้ฉันเกิดมาเจอความทุกข์
แล้วก็มีหลายคนกินตามใจปาก อะไรอร่อยก็กิน แล้วส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นพวกเนื้อหรือว่าของหวาน พอกินไขมันเยอะกินของหวานมาก เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ก็ก่นด่าชะตากรรม ว่าทำไมพระเจ้าจึงทำ อย่างนี้กับฉัน หรือบางคนที่ถือพุทธก็บอกว่า ฉันอุตส่าห์ทำความดีสร้างบุญสร้างกุศล ทำไมบุญไม่รักษา ทำให้ฉันต้องมาเจ็บป่วยแบบนี้ ไม่ได้มองตัวเองเลยว่าเป็นเพราะการกระทำของตัวเองหรือเปล่า ที่ ทำให้ต้องมาประสบเหตุร้ายแบบนี้
เดี๋ยวนี้คนที่คิดแบบนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ คือไม่ยอมมองตน เวลาเรียนไม่ดี ได้คะแนนไม่ดี ได้เกรดต่ำ ก็โทษครูบาอาจารย์ว่าให้เกรดยาก หิน ทำให้ข้อสอบยาก บางคนถึงกลับรวมกันลงชื่อให้มหาวิทยาลัยปลดอาจารย์คนนี้ เพราะว่าให้คะแนนยากเกินไป
แทนที่จะกลับมามองว่า เป็นเพราะเราไม่ขยันเรียนหรือเปล่า เป็นเพราะเราไม่ตั้งใจไม่เอาใจใส่ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกสนานหรือเปล่า แล้วส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น คือว่าไม่ค่อยได้ใส่ใจการเรียน ทั้งที่รู้ว่าเกรดตัวเองไม่ดี ก็ขยันนิดหน่อยเท่านั้นแหละ อาทิตย์หนึ่งก็ขยันเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยแค่ 2-3 ชั่วโมงก็คิดว่าเต็มที่แล้ว
ได้คะแนนต่ำก็เลยโทษอาจารย์ ถึงกลับล่ารายชื่อให้มหาวิทยาลัยปลดอาจาร์ย แล้วก็มีบางมหาวิทยาลัยทำอย่างนั้นจริงๆ เดี๋ยวนี้อาจารย์ก็เลยเริ่มจะกลัวแล้ว ต้องให้เกรดง่ายๆ นักศึกษาจะได้พอใจ จะได้ไม่มารบกวน อันนี้เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะว่าเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยหันมาสนใจมองตนเท่าไหร่ เวลามีความทุกข์ก็ไปโทษคนนั้นคนนี้
แล้วที่น่าสนใจอย่างหนึ่งอย่างที่เล่า ชายหนุ่มคนนี้แกก็อธิษฐาน ขอให้พระเจ้าช่วยให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ แล้วก็รอดจริงๆ แทนที่จะขอบคุณพระเจ้า กลับไปโทษว่าพระเจ้าทำไมทำให้ฉันต้องพิการ ทำให้ ฉันต้องกะโหลกร้าว ทำให้ฉันต้องป่วยหนักขนาดนี้ จริงๆ ต้องขอบคุณที่รอดตาย ยังมีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าจะแขนหักขาหักก็ยังสามารถเยียวยารักษาได้ กะโหลกร้าวก็ยังดีกว่าหัวใจหยุดเต้นหรือสมองตาย
ฉะนั้นถ้ารู้จักขอบคุณ ว่าพระเจ้าทำให้ช่วยทำให้ฉันมีชีวิตรอด เขาก็จะมีความสุขได้ง่าย กายทุกข์แต่ว่าใจเป็นสุข แต่ผู้ชายคนนี้กายเป็นทุกข์แล้วใจก็เป็นทุกข์ด้วย เพราะไปโทษก่นด่าพระเจ้า อันนี้ก็แสดงถึงมุมมองหรือนิสัย ที่ชอบมองลบมองร้าย หาเรื่องตำหนิ
อย่างเวลาได้อาหารมา มีคนทำอาหารให้กิน จะเป็นแม่ จะเป็นคนใกล้ชิด แทนที่จะขอบคุณเขา กลับจ้องจับผิดว่าอาหารไม่อร่อย รสชาติไม่ถูกปากเลย คนแบบนี้เดี๋ยวนี้ก็มีเยอะ คือชอบมองลบมองร้าย สิ่งดีๆ ถ้าหากว่ารู้จักขอบคุณ โชคดีนะที่ฉันมีอาหารกิน โชคดีที่ฉันยังมีสุขภาพดี มีลมหายใจ กินอิ่มนอนอุ่น ถ้ารู้จักมองแบบนี้ก็จะมีความสุขได้ง่าย
ตื่นเช้าขึ้นมาก็ขอบคุณ มีเรื่องขอบคุณสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าลมหายใจที่ทำให้มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่ยังดีอยู่ แต่ถ้าหากว่ามองลบก็จะเห็นแต่ข้อตำหนิ บ้านหลังเล็ก หรือว่าอากาศมันไม่เย็นพอ หรือว่าแดดไม่สว่างไสวพอ มีข้อตำหนิ
แล้วคนที่มองลบแบบนี้ ก็จะรู้สึกว่าโลกนี้โหดร้ายกับเขา เชื่อพระเจ้าก็เห็นว่าพระเจ้าโหดร้าย ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือว่า เดิมเขาไม่เชื่อพระเจ้า แต่พอจะตายขึ้นมา สวดมนต์นึกถึงพระเจ้าขึ้นมาเลย บอกเลยฉันจะนับถือพระเจ้า
คนเราเวลาเจอเหตุร้าย จะให้ยอมก็ยอมทำทุกอย่าง ไม่เชื่อศาสนาไม่เชื่อพระเจ้าก็พร้อมที่จะเชื่อขึ้นมาทีเดียว ขอให้รอดตาย แต่พอรอดตายแล้วก็ยังบ่นยังว่าพระเจ้าไม่ช่วยเท่าที่ควร หรือว่าบุญกุศลไม่ปกปักรักษาให้ปลอดภัยอย่างแท้จริง
การที่คนเราเวลาเจอทุกข์ แล้วก็ยอมทุกอย่างเพื่อให้หายทุกข์หายวิกฤต เสร็จแล้วพอรอดปลอดภัย หลุดพ้นจากวิกฤตได้ บางทีเปลี่ยนใจ มีหลายคนบนบานว่าถูกลอตเตอรี่ที่ 1 เมื่อไหร่ ฉันจะทำบุญวัดนั้นวัดนี้กี่แสน ฉันจะช่วยเหลือพ่อแม่กี่แสน ฉันจะแจกเงินทำบุญเท่านั้นเท่านี้ แต่พอได้มาจริงๆ ถูกลอตเตอรี่ได้รางวัลหลายสิบล้าน ที่บอกว่าจะทำโน่นทำนี่เปลี่ยนใจเลย ไม่เอาแล้ว รู้สึกเสียดายเงินขึ้นมา
บางคนบนบานศาลกล่าวว่า ถ้าหากหายป่วยจะไปรำแก้บน บางทีรำแก้บนธรรมดาดูจะไม่ถูกใจพระเจ้าหรือเทวดา จะเปลื้องผ้ารำแก้บน ตอนที่ยังไม่หายป่วยก็ยอมทุกอย่าง แต่พอหายป่วยจริงๆ เริ่มเกี่ยงแล้ว ไม่ยอมทำตามที่บนบานเอาไว้ หรือทำตามที่รับปากเอาไว้ เปลี่ยนใจไปจ้างคนอื่นมารำแทน หรือบางทีก็เบี้ยวเลย
หลายคนเวลาจะกู้หนี้ยืมสิน บอกเลยว่าฉันพร้อมจะจ่ายเงินเท่านั้นเท่านี้ จ่ายดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ ขอให้ได้เงินกู้ได้เงินยืมมา พอได้สมใจแล้ว เบี้ยว ชักดาบเลย อันนี้มีเยอะ อันนี้เป็นเพราะว่าคนเราเวลามีภัยจวนตัว มันพร้อมมันยอมทุกอย่าง แต่พอปลอดภัยแล้ว ปัญหาหมดไปแล้ว ใจเปลี่ยน ก็เลยเกิดเป็นปัญหาขึ้นมา
ฉะนั้นต้องระวัง เวลาเราเจอทุกข์อย่าเผลอ อย่าปล่อยใจง่ายๆ ยอมทุกอย่าง เสร็จแล้วพอถึงเวลาปัญหาหมด หลุดพ้นจากความทุกข์แล้วก็เปลี่ยนใจ กลายเป็นเสียผู้เสียคนได้.