พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 25 มีนาคม 2566
วันนี้เป็นวันสำคัญของวัดป่าสุคะโต เพราะว่าเป็นวันที่เราจะเริ่มการจัดค่ายสำหรับเณรภาคฤดูร้อน แล้วปีนี้ก็เป็นปีที่สำคัญกว่าปีก่อนๆ ตรงที่ว่าเป็นปีแรกที่เราได้กลับมาจัดทำค่ายแบบนี้อีก หลังจากผ่านไปแล้ว 4 ปี เพราะว่าปี 63, 64, 65 เราไม่ได้จัดเพราะโควิดแพร่ระบาด แม้ว่าตอนนี้มันก็ยังระบาดอยู่แต่ว่าบรรเทาเบาบางลงไปเยอะแล้ว เราก็เลยกลับมาจัดใหม่ หลังจากที่ว่างเว้นไป 3 ปี ถ้านับจากปี
62 ก็ 4 ปีแล้ว
เรื่องการบวชเณรภาคฤดูร้อน เป็นสิ่งที่วัดป่าสุคะโตจัดมาต่อเนื่อง 10 กว่าปีแล้ว แล้วก็ถ้ายังมีกำลังอยู่ก็จะจัดทำกันเรื่อยไป เพราะต้องการเปิดโอกาสให้กับเด็กๆ ได้มีโอกาสมาเรียนรู้ถึงสิ่งสำคัญของชีวิต โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่ปิดเทอมยาว
สมัยหลวงพ่อเป็นเด็กๆ อายุเท่านักเรียนทั้งหลาย ปิดเทอมแล้วต้องไปเรียนพิเศษ พ่อแม่ให้ไปเรียนพิเศษตั้งแต่ ป.1 เลย ตั้งแต่ ป.1 ก็เรียนพิเศษ ป.2 ป.3 ก็เรียนพิเศษ เรียนจนถึง ม.ศ.2 อายุ 14-15 ปี ไป เรียนพิเศษเพื่ออะไร เพื่อไปเอาความรู้เพิ่มเติม แล้วก็เพื่อไม่ให้ความรู้ที่มีอยู่สูญหายไป เพราะว่าวิชาความรู้ถ้าไม่ฝึกฝนมันก็ค่อยๆ เลือนหาย
แต่เดี๋ยวนี้เรียนพิเศษก็ไม่ค่อยมีคนเรียนกันแล้วหรือเรียนกันน้อยลง คนที่พอมีเงินหน่อยก็ให้ลูกไปเข้าค่ายที่เรียกว่าซัมเมอร์แคมป์ โนู้นไปถึงต่างประเทศเลย ส่วนใหญ่ก็ไปเน้นเรื่องวิชาความรู้ แล้วก็ให้เด็กได้ไปหาประสบการณ์ แต่ว่าค่ายได้ฤดูร้อนเป็นการเรียนรู้อีกแบบหนึ่งเลย ไม่เหมือนการเรียนพิเศษ ไม่เหมือนซัมเมอร์แคมป์ที่หลายโรงเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนอินเตอร์เขาจัดกัน
เราพาเด็กมาเรียนรู้ในเรื่องที่สำคัญของชีวิตอย่างที่ว่านี่ ไม่ใช่วิชาความรู้ แต่เป็นวิชาชีวิต วิชาความรู้ก็สำคัญอยู่ อันนี้คือเหตุผลที่เด็กๆ ไปเรียนหนังสือกันตั้งแต่เล็กจนโต แล้วก็ไปต่อมหาวิทยาลัย วิชาความรู้ก็เอาไปใช้ในการทำมาหากินได้ ทำให้มีชีวิตที่มั่นคงในทางเศรษฐกิจในทางสังคม แต่ว่าจะมองข้ามวิชาชีวิตไม่ได้เลย วิชาชีวิตนี่ก็สำคัญมาก
ความรู้ก็มีอายุของมัน เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย สมัยหลวงพ่อเป็นเด็กๆ วิชาภูมิศาสตร์สอนเราว่า เมืองไทยส่งข้าวเป็นสิ่งค้าออกเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยดีบุก แล้วก็ไม้สัก ข้าวไม้สักดีบุกเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ความรู้นี่มันล้าสมัยไปแล้ว โตอีกหน่อย พอเรียนมัธยมเรียนมหาวิทยาลัยเขาก็บอกว่า ดาวพลูโตเป็นดาวเคราะห์หนึ่งในสุริยะจักรวาล ก็ท่องจำกันมา แต่เดี๋ยวนี้เขาถอดแล้ว พลูโตไม่ใช่ เป็นดาวเคราะห์แล้วในสุริยะจักรวาล
ความรู้มันเปลี่ยนไป ความรู้ที่เราเรียนส่วนใหญ่ไม่ค่อยยั่งยืนเท่าไหร่ มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ไม่ว่าจะในทางวิทยาศาสตร์สังคมศาสตร์หรือแม้แต่ประวัติ แต่วิชาชีวิตไม่มีล้าสมัย แม้บางคนจะบอกว่าเป็นเรื่องคร่ำครึ เรื่องโบราณ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นวิชาที่ไม่มีวันล้าสมัย แล้วก็ได้ใช้ตลอดชีวิตเลย จนลมหายใจสุดท้าย
อันนี้หลวงพ่อยืนยันได้เลย วิชาชีวิตนี่ ถ้านักเรียนหรือแม้แต่พ่อแม่ได้เรียน มันได้ใช้แน่ แล้วก็ได้ใช้จนลมหายใจสุดท้ายเลย วิชาชีวิตมันสำคัญเพราะว่ามันช่วยให้เรารู้จักครองตนได้ ครองตนความหมายหนึ่งคือรู้จักรักษาตน เพราะเดี๋ยวนี้มีสิ่งยั่วยุแล้วก็เย้ายวนเยอะ สิ่งยั่วยุให้โกรธ สิ่งยั่วยุให้เกิดความเกลียด เกิดความเครียด ทั้งจากโทรศัพท์มือถือ แล้วก็จากพฤติกรรมของผู้คน
แล้วยังจะมีสิ่งเย้ายวนอีก เย้ายวนให้หลง หลงบางทีหลงจนกระทั่งเสียผู้เสียคนเลย เช่น อบายมุข ยาเสพติด แม้แต่เกม วิดีโอเกม เกมออนไลน์ก็ทำให้เด็กหรือแม้แต่ผู้ใหญ่เสียผู้เสียคนเลย เพราะว่ามันเป็นมีอำนาจในการเย้ายวนสูงมาก จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้ทำหน้าที่ รวมทั้งสิ่งของต่างๆ สินค้าต่างๆ ที่ทำให้คนตกเป็นทาสของมัน เรียกว่าตกเป็นทาสของสิ่งเสพ นี่เพราะว่าไม่รู้จักครองตน แล้วก็ไม่รู้จักรักษาตน
แต่ถ้าคนที่รักษาตนดีแล้ว อะไรจะมายั่วยุก็ไม่ได้ผล ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด แม้จะมีคนมาต่อว่าด่าทอ มาบูลลี่ ก็ไม่หวั่นไหว เดี๋ยวนี้บูลลี่กลายเป็นคำที่คนรู้จักกันทั่วแล้ว ทั้งที่เป็นภาษาฝรั่ง มันมีทั่วไปหมดบูลลี่ นี่คือสิ่งยั่วยุอย่างหนึ่ง บูลลี่ทั้งทางโทรศัพท์มือถือ ทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ในโรงเรียน แต่ถ้าเด็กรู้จักรักษาตนได้ มันทำอะไรไม่ได้นะ
สิ่งเย้ายวนก็เหมือนกัน จะทำให้หลงใหล ติดยา ติดอบายมุข หรือว่าไปติดสิ่งเสพ จนกระทั่งต้องใช้เงินเป็นจำนวนเยอะๆ ในแต่ละเดือน อยากได้นู่นอยากได้นี่ไม่รู้จบ มันก็ไม่มี เพราะเรียกว่ารู้จักรักษาตน เพราะวิชาชีวิตทำให้สามารถจะควบคุมอารมณ์ รักษาใจให้มั่นคงได้ ไม่หวั่นไหวง่ายๆ ไม่ว่าจะมีอะไรมายั่วยุหรือเย้ายวน เพราะว่าอะไร เพราะมีสติ เพราะมีปัญญา
แล้วก็ยังสามารถจะรู้จักตนเองได้ดีขึ้น รู้ว่าตัวเองถนัดตรงไหน มีความสามารถอะไร รวมทั้งรู้ว่า สุขหรือทุกข์สำคัญอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งภายนอก ความสุขที่แท้ไม่ได้เกิดจากการกินการเสพการเที่ยวการเล่น แต่สุขที่แท้อยู่ข้างใน อยู่ที่การได้ทำความดี ได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า หรือพบความสุขแม้กระทั่งชีวิตที่เรียบง่าย แล้วพอรู้จักตัวเองแบบนี้แล้วก็จะรักตัวเองได้ง่าย
เดี๋ยวนี้อย่าว่าแต่เด็กเลย ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยรักตัวเองแล้ว หรือว่ารักตัวเองก็รักแบบผิดๆ พาเข้ารกเข้าพง เพราะมีแต่วิชาความรู้ แต่ว่าไม่มีวิชาชีวิต หรือว่าอ่อนวิชาชีวิต แล้วพอไม่มีวิชาชีวิต ไม่รู้จักครองตนรักษาตน พอเจอสิ่งมากระทบมากๆ เจอความทุกข์ความเครียดมากๆ บางทีสติแตก ทำร้ายตัวเอง ตัดช่องน้อยแต่พอตัว เดี๋ยวนี้เป็นกันเยอะ หรือว่าอย่างอ่อนๆ ก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้า
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะว่าอ่อนวิชาชีวิต แม้แต่มีความรู้เยอะแต่เอาตัวไม่รอด อย่างที่โบราณว่า ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด เพราะรู้แต่วิชาความรู้ แต่ไม่มีวิชาชีวิต
ค่ายเณรนี่จะมาชวนให้เด็กๆ ได้รู้จักวิชาชีวิต โดยอาศัยสถานที่ที่โบราณ คือวัด ไม่ใช่โรงเรียนอินเตอร์ที่ทันสมัย มีคอมพิวเตอร์ราคาแพง แต่ว่าเรากลับมาอาศัยสิ่งแวดล้อมแบบโบราณ วัดของพระพุทธเจ้า แล้วก็ผ้าห่มเครื่องนุ่งห่มแบบพระพุทธเจ้า คือจีวร โบราณมากเลย 2,600 ปีแล้วจีวรนี่ ไม่เหมือนเสื้อของวัยรุ่นสมัยใหม่ที่ทันสมัยมากเป็นสินค้าแบรนด์เนม
เรามาอาศัยของเก่า โบราณ แต่ว่าแฝงไปด้วยสิ่งที่เป็นภูมิปัญญา คือวิชาชีวิต แล้วก็อาศัยวิธีการที่ไม่ต้องใช้ตำรับตำรามาก ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ แต่ว่ามาเรียนรู้จากประสบการณ์ ประสบการณ์ชีวิต มาเรียนรู้จากของจริง มาเรียนรู้จากความยากลำบาก
เพื่อจะทำให้รู้จักตัวเอง แล้วก็รักตัวเองได้ พอรักตัวเองแล้วก็จะรักคนอื่นได้ง่าย แล้วพบว่าการรักคนอื่น การมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นนึกถึงคนอื่นนี่แหละ จะช่วยเติมเต็มความสุข แล้วคุณค่าของชีวิตให้กับตนเอง อันนี้วิชาความรู้เขาไม่ค่อยเน้น แต่ว่าวิชาชีวิตนี่เรื่องสำคัญ
ฉะนั้นเด็กๆ ที่จะมาเข้าค่าย อาจจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่เคยเจอมาก่อนในโรงเรียนหรือแม้แต่ซัมเมอร์แคมป์ที่เคยผ่าน แต่ว่าให้มั่นใจว่า ถ้าหากทุ่มเทเรียนรู้กับสิ่งนี้ไปจนตลอดวันสุดท้าย คือวันที่ 12 เมษายน จะมีวิชาชีวิตเพิ่มพูนขึ้น แล้วจะติดตัวช่วยเราพาเราไปสู่ความปกติสุข ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้ด้วยดี เป็นที่พึ่งพาอาศัยของตัวเองได้
การเรียนรู้แบบนี้พ่อแม่ต้องทำใจ ต้องตัดใจด้วย ให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง แม้จะยากลำบากอย่างไง ก็ต้องให้เขาได้เรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง จะไปตามติดประกบคอยช่วยเหลือตลอดเวลา อันนี้ไม่ควรแล้ว ต้องวางใจให้ลูกได้เรียนรู้จากความทุกข์ยากความลำบาก
ค่ายนี้มันไม่อดนะความยากลำบาก ไม่ขาดนะความยากลำบาก แต่ว่าก็มีสิ่งที่น่าสนใจ มีความสุขมีเสน่ห์ที่อาจจะหาไม่ได้จากโรงเรียน หรือจากซัมเมอร์แคมป์ทั้งหลาย ซึ่งไม่ให้แค่สนุกอย่างเดียว แต่มันให้ ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่าด้วย แล้วต่อไปเขาก็จะพบว่า ในความทุกข์มีความสุขที่แฝงอยู่
ในความลำบากมีคุณค่าที่ช่วยทำให้เป็นคนที่สุขง่าย แล้วก็มีความทุกข์ได้ยาก อันนี้แหละคือประโยชน์ของค่ายเณร ที่ลูกหลานของเราจะได้มาเรียนรู้ แล้วได้ประสบสัมผัส ตลอด 3 อาทิตย์นี้.