พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 10 เมษายน 2566 (พร้อมกับแสดงธรรมให้ค่ายเณรวัดป่าสุคะโตด้วย)

 

     สามเณร มีใครรู้จักบัตร ATM บ้าง บัตร ATM (สามเณรตอบ รู้จัก) รู้จักใช่ไหม แล้วใครมีบัตร ATM บ้างหรือเปล่า (สามเณรตอบ มี) เหรอ หลวงพ่อรู้จักนะบัตร ATM แต่ว่าไม่เคยมี เพราะว่าตอนที่ยังไม่บวชยังไม่มีบัตร ATM บวชแล้วจึงมีบัตร ATM แล้วเป็นพระก็ไม่จำเป็นต้องใช้บัตร ATM อยู่แล้ว

     รู้จักบัตร ATM แล้ว รู้จักตู้ ATM ไหม (สามเณรตอบ รู้จัก) อยู่ไหนเหรอ (สามเณรก็ออกความเห็นกัน) .. แต่บางทีตู้ ATM ไม่ได้อยู่ไหนหรอก อยู่ที่บ้านเรา ตู้ ATM อยู่ที่บ้านเรารู้มั้ย โยมพ่อโยมแม่นั่นแหละเป็นตู้ ATM เคลื่อนที่ (สามเณรคนหนึ่งบอก หลวงพ่อครับผมเอาตังค์ไปฝากตู้ ATM บัตรโดนเอาไป แล้วก็โดนโกง) เออนั่นแหละ เดี๋ยวหลวงพ่อจะเล่าเรื่องของบัตร ATM ฟังเอาไว้เป็นอุทาหรณ์นะ

     ผู้ชายคนหนึ่งตอนกลางคืนจะขับรถไปเยี่ยมพี่ชาย กลางทางก็แวะที่ตู้ ATM ทีแรกตั้งใจจะไปเบิกเงิน แต่พอไปถึงปรากฏว่ามีบัตร ATM อยู่ใบหนึ่งใส่ซองหนึ่งเอาไว้ คาไว้อย่างนั้นแหละ แล้วแถมหลังซองก็มีรหัส ATM ด้วย ชายคนนั้นก็บอกภรรยาว่าผมเห็นบัตร ATM พร้อมรหัส ภรรยาก็บอกว่าลองกดดูดีไหม จะได้รู้ว่าเขามีเงินเท่าไหร่

     ถ้าเป็นสามเณรเห็นบัตร ATM ของใครก็ไม่รู้วางอยู่ใกล้ๆ พร้อมกับรหัสจะทำยังไง (สามเณรตอบ เอาไปคืน) เอาไปคืนใช่มั้ย แต่ว่าภรรยาของชายคนนี้บอก ลองกดดูหน่อย อยากจะรู้ว่าเขามีเงินเท่าไหร่ สามีตอบว่าอย่างไง สามีตอบว่ารู้ไปทำไม มันไม่ใช่เงินของเรา รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์

     อีกอย่างหนึ่งพอเรากดบัตร ATM ของเขา มันก็มีบันทึกอยู่ในจอ มีกล้องวงจรปิดใช่มั้ย แล้วเกิดว่าเงินในบัญชีของเจ้าของบัตรเกิดหายขึ้นมา เขาก็จะมาเอาเรื่องเราได้ หาว่าเรากดเอาเงินเขา อย่ากระนั้นเลย เราอย่าไปยุ่งกับบัตร ATM นี้เลย วางไว้ที่เดิม เพราะว่าใครเป็นเจ้าของก็ไม่รู้ มันเป็นที่สาธารณะ ชายคนนั้นก็เลยเอาซองที่ใส่บัตร ATM นั้นวางไว้ที่เดิม แล้วก็ขับรถไปเยี่ยมพี่ชาย

     พอถึงบ้านพี่ชายก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง พี่ชายบอกว่า โอ้โห นี่โชคดีนะนี่ มีคนแค่ 1% ที่ไม่ยอมแตะต้องบัตร ATM ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อ อย่างเพื่อนของพี่ชายคนหนึ่งเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กันเลยตอนกลางคืน แล้วก็เลยกดตามรหัสที่ได้มาที่เห็น ไม่ได้เอาเงินไปเลย แค่กดเล่น

     ปรากฏว่า 1 นาทีเท่านั้นแหละผ่านไป ตำรวจมาเลย แล้วก็มาจับเขา แล้วสักพักก็จะมีผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของบัตร มาบอกว่าเงินเขาหายไป ก็โทษว่าเพื่อนพี่ชายเอาเงินไป สุดท้ายก็ต้องจ่ายค่าเสียหาย เป็นการปิดคดี จ่ายไป 30,000 บาทจะได้ไม่มีเรื่องไม่มีราว ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่กดเฉยๆ เพราะอยากรู้อยากเห็นว่าเจ้าของบัตรมีเงินเท่าไหร่

     แต่ก็มีบางคนมีความโลภ พอเห็นบัตร ATM ของใครก็ไม่รู้ตกอยู่แถมบอกรหัสไว้ด้วย ก็คิดว่าเหมือนลาภลอยแล้ว กดเพื่อจะเอาเงิน ปรากฏว่าถูกหลอกเพราะเขาจ้องอยู่แล้ว เขาดักรออยู่แล้วว่าใครจะเอาเงินของเขาไป หรือแม้จะไม่เอาเงินแค่กดดูเงินในบัญชีก็เสร็จเขาเลย แล้วก็สงสัยว่าตำรวจหรือคนที่แต่งตัวเป็นตำรวจจะมีส่วนด้วย เพราะว่าแค่กดไม่ถึงนาที มาเลย มาทันทีเลยพร้อมกับเจ้าของบัตรซึ่งอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย

     สรุปเรื่องนี้เขาอ่อยเหยื่อ หรือว่าเขาวางเบ็ดล่อ แล้วส่วนใหญ่ก็ได้ผล หลายคนก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาเงินจะขโมย แต่อยากรู้อยากเห็น อย่างภรรยาของผู้ชายคนนี้เขาบอกว่าลองกดดูสิ อยากรู้ว่าเขามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ รู้ไปมีประโยชน์ไหม (สามเณรตอบ ไม่มี) แต่หลายคน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยกด พอกดก็เสร็จเลย มิจฉาชีพก็รู้ว่าคนเรามีความอยากรู้อยากเห็น หรือมีความโลภ สองอย่าง

     ความอยากรู้อยากเห็นมันเป็นอันตราย มีลิงฝูงหนึ่งมันอยู่บนต้นไม้ มันไม่ยอมลงมาเพราะข้างล่างมีเสือตัวหนึ่ง เสือโคร่ง เสือโคร่งมันหิวมันก็ยากจับลิงกินเป็นอาหาร แต่มันขึ้นต้นไม้ไม่ได้ ไม่เหมือนเสือดาว เสือดาวยังขึ้นได้กระฉับกระเฉง แต่เสือโคร่งตัวนี้มันแก่แล้วมันปีนไม่ไหว มันอยากกินลิง

     ทำอย่างไงถึงจะกินลิงได้ ก็ต้องล่อให้ลิงลงมาจากต้นไม้ มันมีวิธีล่อลิงให้ลงจากต้นไม้ ทำยังไงรู้ไหม เณรรู้มั้ยว่าทำยังไง (เณรตอบ เอากล้วยล่อ) ไม่ใช่ เสือมันไม่รู้จักกล้วย เสือมันแอบอยู่ในพุ่มไม้ แล้วมันก็โผล่หางมา โผล่มาหางมันก็ดิกๆๆ

     ลิงเห็นหางมันไม่รู้ว่าหางอะไรแต่หางกระดิกได้ มันอยากจะรู้ว่ามันคืออะไร มันก็ลงมาจากต้นไม้ แล้วก็ค่อยๆ ย่องมาดูใกล้ๆ ว่ามันคืออะไร เสือเห็นลิงเข้ามาใกล้มันก็รีบโดดตะปบลิง ลิงตายเลย แล้วเสือก็ใช้วิธีนี้กับลิงฝูงแล้วฝูงเล่าสำเร็จ เพราะว่าอะไร เพราะว่าลิงมันอยากรู้อยากเห็น

     ความอยากรู้อยากเห็นบางครั้งก็เป็นอันตราย ความอยากรู้อยากเห็นไม่เหมือนกับความใฝ่รู้ ความใฝ่รู้เช่น ใฝ่รู้ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ ใฝ่รู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์ คือความเข้าใจว่ารู้ไปทำไม ชัดเจนว่ารู้ไปเพื่ออะไร เห็นประโยชน์ของความรู้ มีจุดมุ่งหมายในการเรียนรู้

     สามเณรควรจะมีความใฝ่รู้นะ แต่ว่าให้ระวังความอยากรู้อยากเห็น เพราะว่าความอยากรู้อยากเห็นทำให้คนเดือดร้อนมาเยอะแล้ว ไม่ใช่แค่กรณีนี้กรณีเดียวที่เล่านะ

     อย่างมีผู้ชายคนหนึ่ง จู่ๆ ก็มีผู้หญิงมาแอดขอเป็นเพื่อนในไลน์ เป็นหญิงสาว สาวจริงหรือเปล่าไม่รู้ อาจจะเป็นผู้ชายก็ได้แต่อ้างว่าเป็นผู้หญิง พอคุ้นเคยกันก็บอกว่าพี่อยากดูอะไรมั้ย ถ้าอยากดูจะให้ดูทางไลฟสด แต่ให้กดลิงค์นะ กดลิงค์แล้วจะได้เห็นของดี ชายคนนี้อยากรู้อยากเห็น กดลิงค์ไปเลย ปรากฏว่าโดนแฮกเลย

     มิจฉาชีพมันเอาความอยากรู้อยากเห็นมาล่อ คนที่อ้างตัวเป็นผู้หญิงซึ่งอาจจะเป็นผู้ชายก็ได้ แต่ว่าความอยากรู้ของอยากเห็นของผู้ชายคนนั้นทำให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ พอกดลิงค์เข้าไปเสร็จเลย สามเณรต้องระวังนะ

     พวกเราใช้ไลน์บ้างหรือเปล่า หรือใช้เฟซบุ้กบ้างหรือเปล่า (สามเณรตอบ ใช้ไลน์) เอ้อ ระวังนะ เดี๋ยวมีใครคนแปลกหน้ามาบอกว่า อยากเห็นอะไรดีๆ มั้ย อยากดูอะไรดีๆ มั้ย หรือว่าบางทีก็เอากิเลสมาล่อ มีเกมดีๆ ให้เล่นฟรีนะ สนใจกดลิงค์นะ

     ความโลภก็ทำให้คนกดลิงค์ หรือความอยากรู้อยากเห็นก็ทำให้คนกดลิงค์ ปรากฏว่าโดนหลอก ถ้ามีเงินในธนาคาร เงินก็หายหมด เพราะอะไร เพราะความอยากรู้อยากเห็น (สามเณรตอบ ผมไม่มีเงินครับ) มันก็หลอกเราอย่างอื่น เรามีของดีให้มันหลอก อาจจะลักพาตัวไปก็ได้ ลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่จากพ่อแม่ หรือทำมิดีมิร้าย

     เพราะฉะนั้นต้องระวังนะความอยากรู้อยากเห็นนี่ ใฝ่รู้ดีนะ แต่อย่าอยากรู้อยากเห็นนะ เดี๋ยวจะจบลงเอยเหมือนกับลิงตัวนั้น ที่อยากรู้ว่าไอ้หางดิกๆ นี่คืออะไร สุดท้ายมันก็ตกเป็นเหยื่อของเสือโคร่ง ถูกกินเป็นภักษาอาหาร มีอะไรที่จะมาล่อให้เราอยากรู้อยากเห็นเยอะเลย อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องดาราคู่จิ้น ดาราคนนี้เขามีใครเป็นแฟนมีใครเป็นคู่จิ้น อยากรู้ ไปเสียเวลา ไม่มีประโยชน์

     ใฝ่รู้ที่ดีกว่า ใฝ่รู้เรื่องธรรมะ ไฝ่รู้เรื่องวิทยาศาสตร์ ไฝ่รู้เรื่องการปลูกต้นไม้ ทำสมุนไพรดีกว่า.