พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 9 ธันวาคม 2565
ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลสำคัญของคนทั้งโลกก็ว่าได้ พูดอย่างนี้หลายคนก็นึกออก เทศกาลฟุตบอลโลก ซึ่งยาวนานถึงหนึ่งเดือน ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 3 ใน 4 อาทิตย์หน้าเป็นอาทิตย์สุดท้าย
สำหรับหลายคนเป็นเทศกาลแห่งความสุข เพราะว่าเป็นเทศกาลที่ผู้คนมีความหวัง แล้วก็รู้สึกตื่นเต้น ได้พบอะไรที่ทำให้ใจฟู รวมทั้งทำให้เกิดความหวัง มันปลุกประกายความหวังขึ้นมาตั้งแต่ก่อนจะเริ่มเทศกาลนี้แล้ว
แต่ว่ามันไม่ใช่เป็นเทศกาลแห่งความสุขอย่างเดียว สำหรับหลายคนมันเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ด้วย โดยเฉพาะเมื่อทีมของตัวหรือทีมที่ตัวเองเชียร์เกิดแพ้ขึ้นมา หรือหนักกว่านั้นคือตกรอบ หลายคนรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ คับแค้น
หรือถึงแม้จะทีมของตัวไม่ได้พ่ายแพ้อะไร แต่ว่าบางครั้งความตื่นเต้นก็สร้างปัญหา นำไปสู่ความทุกข์ได้เหมือนกัน อย่างเช่นเขาพบว่า ช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก จะมีคนจำนวนมากล้มป่วยเพราะเป็นโรคหัวใจ หรือว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ
อย่างในเยอรมัน เมื่อปี 49 เยอรมันเป็นเจ้าภาพ นัดไหนที่เยอรมันลงแข่ง ปรากฏว่าคนที่เข้าโรงพยาบาลเพราะโรคหัวใจ หรือเพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เพิ่มเกือบ 3 เท่า และแน่นอนส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย อันนี้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเลย แค่ได้เห็นทีมของตัวเองแข่งขัน ความตื่นเต้น การลุ้น อาจจะเป็นความดีใจก็ได้ หรืออาจจะเป็นความผิดหวังก็ได้ ทำให้ถึงกับหัวใจวายไปเลย
แล้วยิ่งถ้าเกิดทีมของตัวเองพ่ายแพ้ด้วย นอกจากตัวเองจะเป็นทุกข์ล้มป่วยแล้ว คนอื่นก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย อย่างเขาพบว่าในอังกฤษ เวลามีการแข่งฟุตบอลโลก ถ้าทีมอังเกตุลงแข่ง โดยเฉพาะเมื่อปี 53 นัดไหนที่ทีมอังกฤษแพ้ ปรากฏว่าความรุนแรงในครอบครัวในอังกฤษจะเพิ่มเป็นเกือบ 40 %
คงเป็นเพราะว่าพอทีมตัวเองแพ้ ผิดหวัง เสียใจ แล้วพอผิดหวังเสียใจก็มักจะนำมาซึ่งความโกรธ ความหงุดหงิด ฉะนั้นก็เลยระบายใส่คนในครอบครัว ซึ่งอาจจะเป็นภรรยา อาจจะเป็นลูก ก็กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ ความเจ็บปวดของคนจำนวนมาก
ความสุขกับความทุกข์ก็มาด้วยกัน เช่นเดียวกับความดีใจและความเสียใจ ความหวังและความผิดหวัง ฉะนั้นเทศกาลฟุตบอลโลกไม่ได้มีแต่สีสันที่สดใส ควบคู่กันไปก็มีความหดหู่หม่นหมองด้วย โดยเฉพาะกับคนที่ผิดหวังเพราะว่าทีมของตัวเองพ่ายแพ้
อันนี้ยังไม่นับคนที่ตื่นเต้นกับการดูฟุตบอล ไม่ว่าจะสมหวังหรือไม่สมหวัง พอเทศกาลนี้จบ จากเดิมที่มีความตื่นเต้น มีความสุข พอปิดเทศกาลหลายคนหดหู่ไปเลย เคว้งไปเลย เพราะว่าสิ่งที่เคยทำความตื่นเต้นความสุขสนุกสนานให้ตัวนี่มันหายไปแล้ว มันจบแล้ว ที่เคยลุ้นอยู่ตลอดทั้งเดือน ปรากฏว่าอยู่ๆ มันก็หายวับไป
จากตื่นเต้นดีใจกลายเป็นหดหู่ นี่ก็ธรรมดาเหมือนกัน ดีใจคู่กับเสียใจ ตื่นเต้นคู่กับความหดหู่ อันนี้มันเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะว่าเราปล่อยใจไปกับอารมณ์ หรือไปกับสิ่งที่เห็นมากเกินไป
ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากจะเป็นทุกข์ เพราะเทศกาลฟุตบอลโลกหรือเทศกาลไหนก็ตาม ก็ไม่ควรปล่อยใจไปตามอารมณ์อย่างสุดๆ เพราะว่าถ้าเราดีใจสุดๆ ถึงเวลาก็จะเสียใจสุดๆเหมือนกัน ถ้าเราตื่นเต้นสุดๆ ไม่ช้าไม่นานก็จะหดหู่ จิตตกต่ำย่ำแย่
ดูแลรักษาใจของเราบ้าง อย่าปล่อยให้มันเหวี่ยงไปอย่างสุดๆ ดีใจก็ดีใจพอประมาณ เพราะว่าถึงเวลาเสียใจจะได้ไม่เสียใจมาก เวลาตื่นเต้นก็ตื่นเต้นพอประมาณ ยับยั้งชั่งใจบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นไม่ช้าไม่นานมันก็จะหดหู่
แล้วถ้าให้ดีก็ควรเผื่อใจไว้ด้วย เวลาดูฟุตบอลเผื่อใจ ว่าทีมของเราแม้จะเก่งอย่างไรก็อาจจะแพ้ได้ ผลอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง แม้จะมีดาราดัง มีคนเก่งมากมาย มีสถิติชัยชนะที่สูง หลายคนล้มป่วยหัวใจวายเพราะว่าผิดหวังอย่างรุนแรง เนื่องจากทีมของตัวไปพ่ายแพ้อย่างไม่น่าพ่ายแพ้ เช่นไปพ่ายแพ้ให้กับทีมรอง เผื่อใจไว้บ้าง ว่าอะไรๆก็ไม่แน่
ที่จริงถ้าเราดูบอลเป็นมันจะไม่ทุกข์มาก แล้วเราก็จะเห็นเลยว่ามันแสดงสัจธรรมให้เราเห็นเลย ว่าอะไรๆก็ไม่แน่ อะไรๆก็ไม่เที่ยง ทีมที่เก่งก็ไม่แน่ว่าจะชนะเสมอไปทุกนัด บางทีสิ่งที่เราเรียกว่าพลิกล็อค มันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อทุกนัด มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกนัด
อย่างเมื่อ 8 ปีก่อน บราซิลเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก เป็นเต็งหนึ่งเลย แต่ว่าพอถึงนัดสำคัญก็ไปพ่ายแพ้เยอรมัน ถึง 6:1 หรือ 7:1 ไม่เคยมีการทำสถิติพ่ายแพ้ขนาดนี้มาก่อนในรอบลึกๆ ของฟุตบอลโลก แต่เกิดขึ้นกับบราซิลซึ่งถือว่าเป็นราชาของฟุตบอล เยอรมันปีนั้นก็กลายเป็นแชมป์ แล้วก็ได้รับการยกย่องมาก คนก็จับตามองว่าการเตรียมทีมของเยอรมันน่าสนใจ
แต่พอฟุตบอลโลกครั้งต่อไป ครั้งถัดมาเมื่อปี 61 เยอรมันแชมป์เก่าก็ตกรอบไปเลยตั้งแต่รอบแรก แถมแพ้ทีมรองบ่อนอย่างเกาหลี และฟุตบอลโลกครั้งนี้เยอรมันก็ตกรอบอีก ไปแพ้ญี่ปุ่นอีก พวกนี้มันไม่เที่ยงเลย คนเก่งอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จไปตลอด
เหมือนเกมชีวิต ไม่ใช่ว่าเราจะประสบแต่ความสำเร็จ ถ้าเราเข้าใจสัจธรรมจากฟุตบอลโลก เราก็จะเห็นสัจธรรมของชีวิต ว่าอะไรๆก็ไม่แน่ เพราะฉะนั้นอย่าประมาท แล้วก็ตั้งจิตตั้งใจให้เผื่อใจไว้ ว่าอะไรๆก็ไม่เที่ยง แล้วถ้าให้ดีก็ใช้โอกาสนี้มาดูจิตดูใจของตัวเอง เวลาดีใจก็เห็นความดีใจ เวลาเสียใจก็เห็นความเสียใจ ฝึกเอาไว้ได้ประโยชน์
หรือว่าเวลามีความโกรธก็เห็นความโกรธ รวมทั้งเห็นนิสัยใจคอของเรา เวลาทีมของเราหรือทีมที่เราเชียร์ เขาโกงเขาฟลาวแต่กรรมการไม่เห็น เราก็เอ้อ..ดีใจ บางครั้งออฟไซด์แต่ว่ากรรมการไม่เห็นก็ยิงประตูเข้า เราก็ดีใจ ทั้งที่มันเป็นชัยชนะที่ไม่ถูกต้อง แต่มันถูกใจ
ในขณะที่ทีมอีกทีมหนึ่งซึ่งเขาไม่ได้ทำอะไรเรา เพียงแต่เขาไม่ใช่เป็นทีมที่เราเชียร์ เขาทำอะไรไม่ถูกใจเรา เราก็โกรธ เราก็โมโห หรือบางทีแช่งชักหักกระดูก ถ้าเราโกรธเราเกลียดกับผู้คนกับทีมที่เขาไม่ได้ทำอะไรเราเลย แต่เพราะเขาไม่ได้ใช่เป็นพวกเราหรือทีมของเรา เราก็เลยโกรธ เราก็เลยรู้สึกลบกับเขา
ให้เห็นว่าความยึดมั่นว่า เราของเรานี่มันน่ากลัว มันทำให้เราโกรธเกลียด หรือว่ามุ่งร้ายต่อผู้อื่นหรือคณะอื่นได้ รักษาใจให้เป็นปกติ แล้วก็ตั้งอยู่ในความถูกต้อง อย่าไปหวั่นไหวไหลไปกับความถูกใจ เพราะไม่อย่างนั้นมันทำให้เรามีความทุกข์ได้ง่าย.