พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 7 ธันวาคม 2565
สิ่งหนึ่งที่มักจะตามมากับความพร้อมทางวัตถุและความเจริญทางเศรษฐกิจก็คือ มลภาวะ โดยเฉพาะมลภาวะในอากาศนี่เรียกว่าเกี่ยวข้องกับคนทุกคนเลยก็ว่าได้ ที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆ มีความสะดวกสบาย มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
เดี๋ยวนี้เราก็พบแล้วนะว่า มลภาวะมันทำให้เกิดโรคหลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ โดยเฉพาะ PM 2.5 นี่เป็นตัวการสำคัญที่คนเริ่มจะตระหนักถึงโทษของมัน
อย่างที่เคยพูดไปแล้วว่า PM 2.5 มีส่วนอย่างมากในการทำให้คนเป็นมะเร็งปอด ทั้งๆ ที่ไม่ได้สูบบุหรี่เลย เดี๋ยวนี้เราพบว่าหลายคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เลยเป็นมะเร็งปอด มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ ตอนนี้เขาก็พบว่า เป็นเพราะฝุ่นละอองที่เรียกว่า PM 2.5 ซึ่งมันเล็กมากจนสามารถจะเข้าไปสู่กระแสเลือด เข้าสู่ลมหายใจ หรือเข้าสู่ปอดได้ แล้วพอเข้าสู่ปอดมันก็สามารถเข้าไปถึงไหนต่อไหน อันนี้มันไม่ใช่แค่ทำให้เป็นหรือ กระตุ้นให้เกิดมะเร็งปอดหรือโรคอื่นๆ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเร็วๆ นี้เขาพบว่ามันมีส่วนทำให้คนเป็นโรคซึมเศร้ามากขึ้น รวมทั้งผลักดันให้คนฆ่าตัวตาย
มันเกี่ยวข้องกันยังไงนะ อันนี้น่าสนใจ แต่ตอนนี้เขาก็พบว่ามันมีความสำคัญเชื่อมโยงกันอย่างมาก อย่างมีนักวิทยาศาสตร์ในอเมริกาเขาศึกษาอย่างละเอียดตามเมืองต่างๆ ในอเมริกา แล้วเขาพบว่ามันมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันระหว่างระดับความเข้มข้นของ PM 2.5 กับคนที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าและคนที่พยายามฆ่าตัวตาย
อันนี้เขาเห็นความสัมพันธ์อย่างชัดเจนนะ แล้วสถิติก็ชี้ออกมาเลยว่า เพียงแค่วันไหนมันมี PM 2.5 เพิ่มขึ้นแค่ 1 ไมโครกรัมต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร มันก็มีส่วนทำให้คนเกิดอารมณ์แปรปรวน แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างนี้ไปทั้งเดือน เขาพบว่ามันมีสถิติว่าคนที่พยายามฆ่าตัวตายมันเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์เลย ถ้า PM 2.5 เพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1 ไมโครกรัมใน 1 วัน แต่ต่อเนื่องกันถึง 30 วัน ก็ทำให้คนมีความพยายามฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้น 50 % แล้วเขาพบอีกว่าในพื้นที่ไหนก็ตามที่มี PM 2.5 สูงถึง 35 มก.ต่อ ลบม. คนที่เป็นโรคซึมเศร้าก็เพิ่มขึ้น
โรคซึมเศร้ากับการฆ่าตัวตาย มันสัมพันธ์กันมากเลย ตัวเลขที่เขาศึกษาเรียกว่าเจาะเปรียบเทียบกันเลยนะ แต่ละเมืองๆ เมืองที่มี PM 2.5 น้อย คนก็เป็นโรคซึมเศร้าน้อย คนฆ่าตัวตายน้อย เมืองที่มี PM 2.5 มากแล้วก็ต่อเนื่อง คนก็ฆ่าตัวตายกันมากหรือพยายามฆ่าตัวตายมาก เช่นเดียวกับการเป็นโรคซึมเศร้าก็เพิ่มขึ้นด้วย อันนี้เป็นความรู้ใหม่ที่น่าสนใจ
ถ้ามีการยืนยันแบบนี้จากหลายรายงาน หรือจากหลายงานวิจัย มันก็ทำให้เห็นเลยว่า PM 2.5 นี่มันน่ากลัวมาก มันไม่ใช่แค่ทำให้เจ็บป่วยทางกายธรรมดา แต่มันทำให้เกิดอาการป่วยทางจิตด้วย
อันนี้มันสัมพันธ์ยังไง PM 2.5 กับโรคซึมเศร้า เขาพบว่า มันทำให้เกิดการอักเสบตามอวัยวะต่างๆ คล้ายว่ามันมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เพราะ PM 2.5 มันเล็กมาก พอมันเข้าไปถึงปอด ไปถึงหัวใจ ไปถึงสมอง มันจะเกิดการอักเสบ ซึ่งการอักเสบมันเป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่สู้กับสิ่งแปลกปลอม
เวลามีเชื้อโรคเข้าไป อย่างโรคโควิด โรคซาร์ส พอเชื้อเข้าไปในร่างกายมันจะเกิดการอักเสบขึ้นมา เพราะภูมิคุ้มกันในร่างกายเราก็ไปต่อสู้กับเชื้อ พอเกิดการอักเสบก็จะมีสารตัวหนึ่งออกมา เป็นโปรตีนชนิด หนึ่งชื่อ ไซโตไคน์ (cytokine) ตัวนี้มันมีผลต่อการทำงานของสมอง ผลก็คือทำให้อารมณ์แปรปรวน อารมณ์แปรปรวนก็ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้
ตอนนี้เขาพบว่า มันมีความสัมพันธ์ระหว่างการอักเสบในสมองกับโรคซึมเศร้า เพราะคนที่เป็นโรคซึมเศร้านี่ถ้ากินยาต้านอักเสบหรือยาลดอักเสบ ปรากฏว่าอารมณ์ดีขึ้น อันนี้มันมีงานวิจัยหลายชิ้นนะ คนที่ เป็นโรคซึมเศร้าถ้ากินยาแก้อักเสบนี่อารมณ์ดีขึ้นเลย แล้วพบว่าคนที่ฆ่าตัวตาย พอเขาไปทำการชันสูตรก็พบว่ามันมีการอักเสบในสมองมาก แล้วก็มีสารไซโตไคน์เยอะ
เพราะฉะนั้นมันก็ค่อนข้างเป็นที่ชัดเจนว่า การอักเสบในสมองกับโรคซึมเศร้ามีความเชื่อมโยงกันอยู่ และถามว่าอะไรทำให้เกิดการอักเสบในสมอง เขาก็เชื่อว่า PM 2.5 นี่แหละ เขาว่าทำให้เกิดการอักเสบในที่ต่างๆ หลายแห่ง
พอเป็นอย่างนี้มันก็ทำให้ยื่งชัดเจนเลยว่า PM 2.5 มันเป็นภัยที่น่ากลัวมาก มันไม่ใข่ทำให้คนป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้คนเป็นโรคหัวใจ ทำให้คนเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือที่เรียกว่าสโตรก (stroke) แต่มัน สามารถจะผลักดันให้คนฆ่าตัวตายได้เพราะเกิดอารมณ์ซึมเศร้า
ตอนนี้เขาก็กำลังรณรงค์ที่จะลด PM 2.5 ซึ่งในกรุงเทพฯ นี่มีเยอะมาก บ่นกันมากเลยว่า PM 2.5 ในกรุงเทพฯ หรือในเมืองใหญ่ๆ เช่นเชียงใหม่นี่สูงมาก บางคนถึงกับต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช่เพียงแค่ หน้ากากป้องกันโควิด แต่เป็นหน้ากากที่สามารถกรอง PM 2.5 ไม่ให้เข้าไปกับลมหายใจได้
แต่แค่นั้นไม่พอนะ มันต้องรณรงค์กันจริงจัง ถามว่า PM 2.5 เกิดจากอะไร ก็เชื่อว่าเกิดจากการเผาไหม้ เผาไหม้น้ำมัน เผาไหม้ถ่านกิน หรือการเผาไหม้ในไร่นา เช่น เผาป่า ทำให้มีฝุ่นละอองเล็กๆ หลายขนาด ฝุ่นขนาดเล็กมากๆ อย่าง PM 2.5 มันก็เข้าไปได้เพราะว่ามันเล็กมาก จมูกเรากรองขนาดใหญ่กว่านั้นได้ แต่ขนาดเล็กกว่า PM 2.5 มันกรองไม่ค่อยได้ มันก็เลยเข้าไปสู่ปอด จากปอดก็กระจายไปสู่อวัยวะ ต่างๆ แล้วถ้ามันเกิดการอักเสบขึ้นในสมอง ก็ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เกิดโรคซึมเศร้า
ฉะนั้นคงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมคนในเมืองเดี๋ยวนี้จึงมีภาวะซึมเศร้ามาก แล้วที่ฆ่าตัวตายก็เยอะ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างจริงจัง ถ้าเราอยากจะให้ชีวิตมีสุขภาพดีขึ้น บางทีเพียงแค่ออกกำลังกายหรือ กินอาหารที่ถูกสุขลักษณะนี่ยังไม่พอ ต้องจัดการดูแลเรื่องอากาศด้วย ถ้ามันมีมลภาวะมากไป มี PM 2.5 เยอะเกินมาตรฐานอันนี้อันตราย มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเขากำหนดแค่ 5 ไมโครกรัมเท่านั้นที่เรียกว่าปลอดภัย ถ้าสูงกว่านี้จะไม่ปลอดภัยแล้ว ของบ้านเรานี่เกิน 30-40 มก.ไปเยอะเลยนะในกรุงเทพฯ
เป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยตระหนักเท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ คงจะแย่แน่ๆ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ