พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565
เดี๋ยวนี้มีอาชีพใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการให้บริการซึ่งมีคุณค่า แล้วก็เป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมาก แล้วก็ทำท่าจะไปได้ดี ถึงแม้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จะขายของก็อาจจะขายได้ไม่สะดวก แต่ว่าการให้บริการบางอย่างเหมาะกับยุคสมัยมาก
อย่างที่เคยเล่าไปแล้วเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน มีอาชีพจัดระเบียบบ้าน จัดระเบียบบ้านก็คือจัดบ้านนั่นเอง จัดข้าวจัดของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเฉพาะสำหรับคนที่ป่วย ไม่ได้ป่วยธรรมดา ป่วยเพราะโรคซึมเศร้า คนเหล่านี้ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงจะทำอะไร บางทีก็ นอนอยู่บนเตียงอย่างเดียวเลย กินก็กินบนเตียง เผลอๆ ไม่อาบน้ำ แล้วก็ปล่อยข้าวของให้เลอะเทอะ ก็มีคนรับอาสาจัดบ้านให้ ให้สะอาด ให้เรียบร้อย ให้โปร่งโล่ง ดูแล้วสบายตาสบายใจ
ตอนนี้ก็มีอาชีพใหม่อีกอาชีพหนึ่ง ไม่รู้ว่าทำมานานหรือยัง แต่เพิ่งได้ข่าว เป็นอาชีพสำหรับช่วยเหลือผู้สูงวัยโดยเฉพาะในเมือง เช่นกรุงเทพ คือขับรถ ขับพาผู้สูงวัย หรือคนแก่นี่แหละไปตามที่ต่างๆ เช่นไปหาหมอ เพราะเดี๋ยวนี้คนแก่มีนัดไปหาหมอตรวจสุขภาพ บางทีก็ไปที่โรงพยาบาล ไปตรวจเลือด ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐก็ต้องไปรับบัตรด้วย รับบัตรแล้วก็ตรวจเลือด
คนแก่นี่บางทีไม่มีใครพาไป ที่ไม่มีใครพาไปเพราะว่าไม่มีลูก หรือมีลูก แต่ลูกก็ไม่ว่างต้องไปทำงาน แถมมีลูกแค่คนเดียว ไม่เหมือนแต่ก่อนนั้นมีลูกหลายคนช่วยพาพ่อพาแม่ไป เวลาพาไปที่โรงพยาบาล ก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ เช่นไปรับบัตร ไปต่อคิวพาไปเจาะเลือด พาไปเป็นเพื่อนระหว่างที่นั่งรอหมอ หรือว่าระหว่างที่นั่งรอผล มีคนรับอาสาทำแทนให้
หรือว่าเวลาผู้สูงวัยเช่น พ่อแม่จะไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัด ฉายแสง ฉีดคีโม ล้างไต ก็มีคนรับอาสาไปเป็นเพื่อน ตั้งแต่ขับรถจากบ้านไปโรงพยาบาล แล้วก็นั่งเป็นเพื่อนระหว่างที่ล้างไตเป็นชั่วโมงๆ ก็มีคนมานั่งเป็นเพื่อนพูดคุย
แล้วเดี๋ยวนี้เขาก็รับทำหลายอย่าง ถึงแม้ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่ว่าอยากจะไปวัด อยากจะไปทำบุญ อยากจะไปเที่ยวตามที่ต่างๆ อยากจะไปกินของอร่อยๆ อยากจะไปช้อปปิ้งซื้อของ มีคนรับอาสาขับรถไปเลย พาไปวัด พาไปห้าง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนกินข้าว หรือแม้แต่จะไปเยี่ยมญาติ ญาติบางคนก็อยู่บ้านพักคนชรา บางคนก็อยู่โรงพยาบาล ไปไม่ถูกไปไม่เป็นมีคนขับรถพาไปเยี่ยมญาติ ก็ได้มีโอกาสสังสรรค์ มีโอกาสได้
พบปะผู้คน หรือบางทีก็ไปเยี่ยมเพื่อน เพื่อนนอนป่วยอยู่โรงพยาบาล ก็ไปเยี่ยมเขา
ที่จริงทั้งหมดนี่เคยเป็นหน้าที่ของลูก หรือหลาน สมัยก่อนนี้ก็มีลูกมีหลานช่วยพาไป แต่เดี๋ยวนี้ก็อย่างที่ว่า ลูกหลานไม่ค่อยมีเวลา แถมบางทีไม่มีลูกด้วย เพราะว่าเป็นโสด แล้วลูกก็มีแค่คนเดียว ไม่ใช่มีสี่ห้าคนเหมือนเมื่อก่อน ผลัดเวรกัน แตะมือกัน หรือถึงมีลูก แต่ว่าลูกก็อาจจะไม่ค่อยให้เวลา หรือใส่ใจเท่าไหร่ เพราะว่าไปหมกมุ่นกับเรื่องการทำงานหาเงินมากกว่า
เดี๋ยวนี้ผู้สูงวัยหรือคนแก่ต้องถูกปล่อยทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วก็ต้องพยายามช่วยตัวเองมากขึ้น ไปโรงพยาบาลคนเดียว ไปหาหมอคนเดียว พอมีบริการแบบนี้ซึ่งเหมาะมากกับสังคมไทยปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมผู้สูงวัย เดี๋ยวนี้คนสูงวัยมีเยอะมาก อาจจะประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรประเทศในเวลานี้ซึ่งเยอะมาก อาชีพนี้เขาก็คิดค่าบริการ
แต่ว่ามันก็น่าสนใจ สำหรับคนที่มีเงิน ไม่ว่าจะเป็นคนแก่หรือว่าคนที่เป็นลูก ลูกอยากจะพาพ่อพาแม่ไปโรงพยาบาล พาไปหาหมอ พาไปวัดทำบุญ พาไปห้างแต่ไม่มีเวลา ตอนนี้ก็มีบริการแบบนี้ ซึ่งน่าสนใจมาก แล้วเขาก็มีจุดขายก็คือ ไม่ใช่แค่ขับรถอย่างเดียว แต่ว่า ดูแลเป็นเพื่อนด้วย ใช้ความสุภาพอ่อนโยนเป็นจุดขาย เพราะว่าคนแก่ก็ต้องการเพื่อนมาก
ที่จริงไม่ใช่เฉพาะพาไปโน่นไปนี่นะที่ขาดคน แม้กระทั่งคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน เดี๋ยวนี้คนแก่ก็ต้องการ เพราะว่าคนแก่จำนวนมาก ก็จริงอยู่นะไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ก็ดีหรอก แต่ส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้าน แต่อยู่บ้านนี้ไม่มีใคร
สมัยก่อนก็มีลูกมีหลาน แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีหลานให้เลี้ยง ดูโทรทัศน์ดูโทรศัพท์เล่นโทรศัพท์บ่อยๆ ก็เบื่อ พ่อแม่หรือคนแก่หลายคนก็บอกเหงา บางคนเขาบอกว่าไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวนี้ก็อยากมีอายุยืน ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวอยากมีอายุยืนกันทุกคน แต่พออายุยืนเข้าคือกลายเป็นคนแก่ไม่อยากจะอยู่แล้ว หลายคนบอกว่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมเพราะเหงา ลูกๆ ก็ไม่ค่อยว่างจะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้านก็ยากเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้ก็มีบริการอีกแบบหนึ่ง เป็นเดย์แคร์ แต่ไม่ใช่แค่สำหรับเด็ก เดย์แคร์สำหรับคนแก่ เอาพ่อเอาแม่ไปทิ้งไว้ ไปฝากไว้ดีกว่า ใช้คำว่าฝากไว้ตามศูนย์ ก็มีคนแก่เยอะที่ถูกฝากไว้ ก็เลยมีเพื่อนมีสมาคมมีสังคม ถึงตอนเย็นลูกก็พากลับ แต่ว่าถ้าเกิดลูกไม่มีเวลา เพราะว่าเลิกงานดึกก็ใช้บริการที่ว่าพาไปส่งศูนย์คนแก่ตอนเช้า ตอนค่ำหรือตอนเย็นก็พากลับอันนี้คือสิ่งที่กำลังจะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงบอกว่าเป็นอาชีพที่มีอนาคต ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจมันจะแย่ แต่ว่าคนที่เขาคิดช่องทางหาลู่ทางในการทำอาชีพใหม่ๆ ก็มีเยอะ อันนี้เป็นข้อคิดด้วยนะ คนหนุ่มคนสาวเวลานี้ ต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่า ตัวเองแก่นี่จะทำอย่างไร บางทีการที่รู้จักอยู่คนเดียวให้เป็นนี่ก็สำคัญเหมือนกัน ไม่ต้องรอให้ใครมาเป็นเพื่อน อยู่คนเดียวก็อยู่ได้อย่างมีความสุข อันนี้ก็เป็นเป็นเคล็ดลับ หรือวิชาที่สำคัญสำหรับทุกคนเลยก็ว่าได้
ไม่ใช่เฉพาะผู้สูงวัย แต่ว่าคนที่เป็นหนุ่มเป็นสาวนี่ก็ต้องเตรียมเผื่อไว้ ถ้าอยากอายุยืนก็ต้องเตรียมใจว่า อายุยืนคือแก่ แล้วแก่นี้ก็อาจจะอยู่คนเดียว แต่ถ้ามีใจเป็นมิตรมีจิตเป็นเพื่อนก็อยู่ได้ อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้เหมือนกับอยู่หลายคน
อย่างที่พระพุทธเจ้าเคยบอกไว้ อยู่หลายคนก็เหมือนอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็เหมือนอยู่หลายคน
ธรรมะนี้ช่วยได้ เพราะฉะนั้นอยู่คนเดียวก็ไม่มีคำว่าเหงา อยู่กันหลายคนก็ไม่มีความวุ่นวาย จิตสงบพบความสุขได้ภายในแม้คนจะเยอะ หรือไม่มีใครเลยจิตใจก็ยังสดชื่นผ่องใสได้ การจะหวังพึ่งคนมาเป็นเพื่อนหรือพาไปเป็นเพื่อนที่โน่นที่นี่ก็ดีอยู่ แต่ว่าอย่าลืมพึ่งตัวเองให้เป็นด้วย อยู่กับตัวเองให้เป็น