PAGODA

  • Create an account
  • Forgot your username?
  • Forgot your password?
or

Connection

Your e-mail is required to ensure the proper functioning of the Website and its services and we make a commitment not to reveal it to third parties

  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ
PAGODA
  • หน้าแรก
  • ฐานข้อมูล
  • เสียง
  • วีดิทัศน์
  • E-Books
  • กิจกรรม
  • บทความ

เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก

เข้าสู่ระบบ

  • สมัครสมาชิก
  • ลืมชื่อผู้ใช้?
  • ลืมรหัสผ่าน?

Search

  • หน้าแรก
  • เสียง
  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
  • เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง
เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง รูปภาพ 1
  • Title
    เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง
  • เสียง
  • 11173 เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง /aj-visalo/2022-10-07-16-06-07.html
    Click to subscribe
    • Share
    • Tweet
    • Email
    • Share
    • Share

ผู้ให้ธรรม
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
วันที่นำเข้าข้อมูล
วันศุกร์, 07 ตุลาคม 2565
ชุด
ธรรมะสั้นๆ ก่อนอาหารเช้า 2565
  • แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [ลองพูดคุยกับ AI ทาง Line]

  • พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 4 ตุลาคม 2565
     
         เมื่อหลายสิบปีก่อนมีเด็กชายคนหนึ่งอายุเจ็ดขวบ เป็นคนรักธรรมชาติมาก ชอบออกไปเที่ยว ไปชมนก ไปชมธรรมชาตินานาชนิดโดยเฉพาะสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นปลา ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลื้อยคลาน โดยเฉพาะนกนี่ชอบมาก แต่ก็ชอบตกปลาด้วย วันหนึ่งตกปลาก็เกิดอุบัติเหตุ เหมือนมีอะไรไปทิ่มตา ที่จริงก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่ว่าเด็กก็ไม่ยอมบอกพ่อแม่
         ตอนหลัง แผลก็ลามจนกระทั่งเลนส์ตาขุ่นมัว สุดท้ายก็ต้องลอกเลนส์ตาออก ผลก็คือว่ามองอะไรไม่ค่อยชัด โดยเฉพาะมองไกลๆ แต่ก่อนนี้ชอบดูนก แต่ว่าตอนนี้ดูไม่ค่อยได้ เพราะว่าดูไกลๆ ไม่สะดวก จะดูได้ก็เฉพาะสิ่งใกล้ๆ แล้วก็เล็กๆ เรียกว่าไม่มีโอกาสเหมือนกับเด็กทั่วไปที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติ
         แต่การที่เขาเห็นได้เฉพาะสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวก็ทำให้เขามีภาษีดีกว่าเด็กคนอื่นก็ตรงที่ว่าสามารถจะเห็นมด เห็นแมลงตัวเล็กๆ ได้ชัดกว่าคนอื่นด้วย มองเห็นนกไม่ค่อยได้ ไม่ชัด แต่มองเห็นมด เห็นแมลงได้ชัดกว่าเด็กทั่วไป เขาก็เลยหันมาสนใจเรื่องมด เรื่องแมลง แล้วก็ศึกษาเรื่อยมาด้วยความรัก
         จนกระทั่งพอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนแต่เรื่องนี้ เรื่องมด เรื่องแมลง จบแล้วก็ไปเป็นอาจารย์ก็ศึกษาวิจัยเรื่องมด เรื่องแมลงนี่แหละ เพราะว่าเรื่องอื่นไม่สะดวก ตาไม่ดี ภายหลังก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องมด เป็นศาสตราจารย์ที่เก่งที่สุดในเรื่องของมด จนได้รับฉายาว่า มนุษย์มด
         ตอนที่เขามีชีวิตอยู่ ไม่มีใครรู้เรื่องมดได้ดีกว่าเขา อาจารย์คนนี้ชื่อเอ็ดเวิร์ด โอวิลสัน ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องมดอย่างเดียว แต่ว่าเรื่องอื่นๆ ด้วย เพราะว่าเขาฉลาดในการเชื่อมโยงเรื่องธรรมชาติของมดเข้ากับพฤติกรรมของสัตว์ชนิดอื่นๆ รวมทั้งคนด้วย
         แล้วตอนหลังเขาก็มากระตุ้นให้คนตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติ เรื่องความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ว่าเรื่องที่เขาโดดเด่นที่สุดก็หนีไม่พ้นเรื่องมด เขาเป็นคนแรกที่ประเมินว่า มดทั้งโลกมีประมาณหมื่นล้านล้านตัว แล้วที่เขาประเมินไม่ได้เดาเอา หรือว่ายกเมฆ แต่ว่าเขาศึกษาอย่างทะลุปรุโปร่งไปทุกทวีปทั่วโลก เพราะว่ามดมีอยู่ทั่ว เรียกว่าเกือบทุกทวีปเลย ยกเว้นขั้วโลกใต้ นอกนั้น มีมดหมด แม้กระทั่งบนเขาสูงที่หนาวแล้วก็ยังมีมด
         แล้วเขาก็พบว่า มดมีจำนวนมหาศาลขนาดนี้ รวมแล้วก็จะหนักประมาณ 12 เมกกะตัน ซึ่งหนักกว่าน้ำหนักของนกทั้งหมดในโลก รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมทั้งมนุษย์ด้วยนะ ทั้งโลกรวมทั้งนกที่มีอยู่มากมายรวมกันแล้วน้ำหนักยังสู้มดทั้งโลกที่รวมกันไม่ได้ โอ้โห สิ่งเล็กๆ กระจิริดนี่มันมหาศาลนะ
         ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะว่า การที่เขาเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิต ก็คือเกิดอุบัติเหตุ แล้วก็ทำให้ไม่สามารถที่จะมองอะไรไกลๆ ได้แต่ว่าก็ทำให้เขาสามารถที่จะมองอะไรใกล้ๆ เล็กๆ ได้ดีกว่าคนอื่น แล้วเขาก็มาเอาดีทางนี้
         ในการที่คนเรามองอะไรไกลๆ ไม่ได้ มองได้แต่ใกล้ๆ จะว่าไปมันก็เป็นจุดอ่อน เป็นข้อเสียเปรียบ แต่ว่าในเวลาเดียวกัน ก็ทำให้เขามีข้อได้เปรียบ ก็คือว่ามองมด แล้วก็แมลงได้ชัดกว่าคนอื่น แล้วพอเขามาเอาดีทางนี้ เขาก็เรียกว่ากลายเป็นเลิศเลยนะ ไม่มีใครสู้เขาได้ในเรื่องเกี่ยวกับมด แล้วก็แมลง เรียกว่าเปลี่ยนจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็ง
         มีเด็กญี่ปุ่นคนหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุตอนอายุสี่ขวบต้องตัดแขนซ้ายทิ้ง กลายเป็นคนพิการไปเลย เด็กคนนี้ ชอบเล่นยูโดมาก ตอนหลังก็ไปขอเรียนกับอาจารย์เมื่ออายุสิบขวบ อาจารย์คนนี้ก็มีชื่อเสียง อาจารย์เห็นสารรูปแล้วก็ไม่ให้เรียน จะเล่นยูโดได้ยังไง มีแขนข้างเดียว
         เด็กคนนี้ไม่ยอมแพ้ นั่งอยู่หน้าสำนัก ตื๊อทั้งคืนเลย จนอาจารย์เห็นความมุ่งมั่นก็เลยใจอ่อนยอมสอนให้ แต่มีข้อแม้ บอกว่า อาจารย์จะสอนวิชาพื้นฐานให้ทุกกระบวนท่า แต่วิชาชั้นสูงสอนให้ท่าเดียว เด็กก็รู้สึกผิดหวัง ถามอาจารย์ว่า ทำไมอาจารย์ถึงตั้งใจจะสอนผมแค่ท่าเดียว อาจารย์ตอบว่า ก็เธอมีแขนข้างเดียว รู้ท่าขั้นสูงแค่ท่าเดียวก็เกินพอ
         เด็กฟังก็รู้สึกใจเสีย แต่ว่าก็ยังดีใจที่อาจารย์รับสอนให้ ก็เรียนกับอาจารย์ด้วยความตั้งใจ แล้วอาจารย์ก็ทำอย่างที่พูดคือสอนท่าพื้นฐานให้หมดเลย แต่ท่าสุดยอดหรือว่าท่าขั้นสูงสอนแค่ท่าเดียว เด็กคนนี้ก็เรียนท่านี้ เป็นท่าทุ่ม เรียนท่านี้ท่าเดียว 6 เดือนจนคล่องแคล่วชำนาญ
         พอเรียนจบ ธรรมดาก็ต้องมีการแข่งขันเด็กก็อยากจะเข้าร่วมการแข่งขันยูโดระดับประเทศ พ่อแม่ก็ไม่อยากจะห้ามปราม เขารู้ว่าลูกคงจะไปไม่รอดหรอก มีแขนข้างเดียว แต่เมื่อลูกตั้งใจก็สนับสนุนหน่อย
    ตอนที่แข่งกันนัดแรก พ่อแม่ก็มา ไม่ได้เตรียมให้กำลังใจ เตรียมมาปลอบใจ เตรียมปลอบใจลูกที่เชื่อว่าคงจะแพ้
         แต่ปรากฏว่าลูกชนะ เด็กคนนี้ชนะในการแข่งนัดแรก เพราะว่าความอดทน และรู้จักคอย ก็จะคอยใช้ท่าไม้ตายที่อาจารย์สอน รอจนกระทั่งคู่ต่อสู้เผลอ ก็ใช้ท่าไม้ตายทุ่ม ก็ชนะ เเล้วพอผ่าน พอแข่งขันนัดต่อๆ ไป ก็ใช้ทาทุ่มนี้เป็นท่าเดียวเลย แล้วปรากฎว่าสามารถที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคน คนแล้วคนเล่าจนกระทั่งทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
         รอบชิงชนะเลิศคู่ต่อสู้เป็นแชมป์เก่า ตัวสูงแข็งแรงแล้วก็ไม่ได้พิการด้วยนี่ข้อสำคัญ ใครๆ ก็คิดว่า เด็กคนนี้ก็คงจะแพ้ ไอ้ที่ทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว ใครๆ ก็รู้นะว่าเด็กคนนี้มีท่าไม้ตายอยู่ท่าเดียว เพราะว่าท่าอื่นครูไม่ได้สอน แล้วตัวเองก็ไม่ได้ฝึกด้วย แต่พอเล่นไปๆ นะ ปรากฏว่าในที่สุด เด็กคนนี้ก็สามารถที่จะทุ่มคู่ต่อสู้ที่เป็นแชมป์เก่าได้ ด้วยท่าที่เป็นไม้ตาย
         เด็กดีใจมาก คนอื่นก็ดีใจ ไม่น่าเชื่อเลย เด็กแขนเดียวชนะเลิศยูโด เด็กนี่พอได้รางวัลก็ตรงไปหาอาจารย์ แล้วก็ถามอาจารย์ว่า ทำไมแค่ท่าเดียวจึงสามารถทำให้ผมชนะเลิศได้ เป็นไปได้ยังไงอาจารย์
         อาจารย์ก็บอกว่า เธอรู้ไหมท่าที่ฉันสอนเธอเป็นท่าไม้ตายสุดยอดของยูโด และวิธีแก้ท่านี้มีวิธีเดียว ที่คู่ต่อสู้จะทำได้คือจับแขนซ้ายเธอ แล้วก็ทุ่ม พูดจบ เด็กก็มาดูแขนซ้ายของตัว แขนซ้ายของตัวไม่มีให้คู่ต่อสู้จับ เพราะฉะนั้นคู่ต่อสู้นี้ก็เลยไม่สามารถจะแก้ท่าไม้ตายของเด็กคนนี้ได้
         เด็กคนนี้มีจุดอ่อน ก็คือมีแขนข้างเดียว แต่สุดท้ายกลายเป็นจุดแข็ง ที่คนอื่นไม่สามารถจะเอาชนะได้ เพราะไม่มีแขนซ้ายจะจับเพื่อทุ่ม ก็กลายเป็นว่าจุดด้อยกลายเป็นจุดเด่น จุดอ่อนกลายเป็นจุดแข็ง อาจารย์ก็รู้นะว่าเด็กคนนี้มีจุดอ่อน แต่ก็สามารถจะใช้จุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งได้
         คนเราไม่ว่าจะมีอะไรแค่ไหน แม้จะมีน้อยแต่ถ้าทำให้เต็มที่มันก็เกิดประโยชน์มากมาย แม้จะมีจุดอ่อนแต่ถ้าเปลี่ยนให้กลายเป็นจุดแข็ง มันก็ทำได้ อยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์แค่ไหน
         อย่างเอ็ดเวิร์ดโอวิลสัน ตาก็ไม่ดีเลย มองได้แต่เฉพาะสิ่งเล็กๆ ใกล้ๆ ตัวแต่พอเขามาเอาดีทางนี้ ก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเรื่องมด แล้วก็กลายเป็นนักวิชาการที่สามารถจะให้ความรู้กับผู้คนในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติได้มากมาย เขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ว่าผลงานนี้ก็เป็นที่ยอมรับ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าตาเขามองนกไม่เห็น มองนกไม่ชัดนี่ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

logo

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • จดหมายข่าว
  • Privacy Policy
  • Terms of Service