พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 14 กันยายน 2565
เดี๋ยวนี้โรคที่ผู้คนเป็นอันมาก ต้องทุกข์แล้วก็ล้มตาย ถ้าไม่นับโควิค(Covid)แล้ว คือโรคหัวใจและโรคมะเร็ง พวกเราคงจะรู้จักคนที่ป่วยเป็นมะเร็ง อย่างน้อยหนึ่งคนแล้ว หรือว่าตายเพราะมะเร็งที่จริงมากกว่าหนึ่งคนที่เรารู้จัก
ที่คนเป็นมะเร็งกันมากและมะเร็งที่เป็นกันเยอะ คือมะเร็งปอด พึ่งสัก 20-30 ปีมานี้เอง ที่เราพบว่า มะเร็งปอดสามารถจะเกิดได้จากการสูบบุหรี่ คนสูบบุหรี่มากๆ มีโอกาสเป็นมะเร็งปอด แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย แต่ว่ากลับเป็นมะเร็งปอด อันนี้พวกเราคงทราบดี
เขาประมาณว่า ในบรรดาคนที่เป็นมะเร็งปอด 2 ใน 3 เลยทีเดียวนะ ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ เลยสงสัยว่าเป็นเพราะอะไร บางคนถึงกับบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่าบุหรี่ไม่ได้ทำให้เป็นมะเร็งปอด อันนั้นไม่ใช่นะ เพราะก็มีหลักฐานยืนยันมากมายว่า สูบบุหรี่มากๆ จะทำให้เป็นมะเร็งปอด
อ้าว..แล้วทำไมคนที่ไม่สูบบุหรี่จึงเป็นมะเร็งปอด โดยเฉพาะผู้หญิงจำนวนมาก ทั้งที่เคยไม่เคยแตะบุหรี่เลยกลับเป็นมะเร็งปอด เมื่อเร็วๆนี้เขาพบว่า คนที่ไม่สูบบุหรี่แต่เป็นมะเร็งปอดได้ เพราะมลพิษในอากาศ มลภาวะในอากาศทำให้คนจำนวนมากเป็นมะเร็งปอด
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เป็นมะเร็งปอดกันมาก มลพิษนี่ตอนนี้เขาพบว่าตัวการสำคัญเลย ที่ทำให้คนไม่สูบบุหรี่แต่เป็นมะเร็งปอดคือ PM 2.5 อย่างทั่วโลกนี่ ปีหนึ่งๆ คนที่เป็นมะเร็งปอด แล้วก็ตายเพราะมะเร็งปอด เพราะ PM 2.5 มีถึง 300,000 คน เฉพาะในอังกฤษก็ตายไปปีละ 6,000 คน ทั่วโลกก็ 300,000 คน เฉพาะสาเหตุที่เกิดจาก PM 2.5
ยังไม่นับมลพิษตัวอื่นอีก เขม่าควันอะไรต่างๆ ก็เป็นตัวการสำคัญเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตัวการสำคัญอย่างมากเลยคือ PM 2.5 ตายปีละ 300,000 คนเพราะมะเร็งปอดนี่ไม่ใช่น้อยเลย แต่ว่าสิ่งที่เป็นปริศนาคือว่า PM 2.5 ทำให้เป็นมะเร็งปอดได้อย่างไร
ควันบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งปอดนี่ หมอรู้แล้ว รู้ว่าควันหรือสารพิษที่สูดเข้าไป ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ หรือผ่าเหล่าในยีน ยีนนี่อยู่ในเซลล์ แล้วมันเป็นแม่พิมพ์ในการผลิตเซลล์ ยีนที่ผ่าเหล่าที่เกิดจากควันบุหรี่หรือสารพิษในบุหรี่ มันทำให้เซลล์กลายพันธุ์ กลายเป็นเซลล์มะเร็ง พูดง่ายๆ คือมันไปกระตุ้นการกลายพันธุ์ในเซลล์ จนกระทั่งเกิดเป็นมะเร็ง
แต่ PM 2.5 มันไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นมะเร็งปอด กับคนที่เป็นมะเร็งปอดเพราะ PM 2.5 นี่ ถ้าพูดในแง่ของการกลายพันธุ์ในยีน ไม่ได้แตกต่างกันเลย
หมายถึงว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้ป่วยเพราะมะเร็งปอด ก็มีการกลายพันธุ์ในยีนอยู่ แต่ทำไมไม่เป็นมะเร็งปอด เพราะว่ามันเป็นการกลายพันธุ์ที่สงบเสงี่ยม คือถึงแม้ว่ามันจะมีความผิดพลาดไม่เหมือนต้นฉบับ แต่ว่ามันไม่ได้ลุกลามจนกระทั่งกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
เพราะฉะนั้นเขาเลยสรุปว่า PM 2.5 ไม่ได้ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในมะเร็ง ไม่เหมือนกับบุหรี่ การกลายพันธุ์ยังเท่าเดิม อ้าว..แล้วทำไมถึงเกิดมะเร็งขึ้น ก็เพราะว่า PM 2.5 ไปกระตุ้นให้เซลล์กลายพันธุ์ที่สงบเสงี่ยม มันเกิดเพี้ยนขึ้นมา จนกระทั่งกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
อันนี้ต่างจากควันบุหรี่หรือพิษในบุหรี่ ที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ในเซลล์ จนกระทั่งกลายเป็นมะเร็ง แต่ PM 2.5 ไม่ได้ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ แต่มันทำให้เซลล์ที่กลายพันธุ์อยู่แล้วเกิดเพี้ยน จนกลายเป็นมะเร็ง นี่เป็นการค้นพบใหม่ซึ่งสำคัญมากเลย และขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่า ตราบใดที่เรายังต้องเจอกับ PM 2.5 อยู่เรื่อยๆ โอกาสที่จะเป็นมะเร็งในปอดก็มีสูง
มาคิดดูก็แปลกนะ เมื่อร้อยปีก่อนคนตายเพราะโรคติดเชื้อง่ายๆ ในความรู้สึกของคนเราในปัจจุบัน เช่น โรคบิด โรคอหิวา โรคปอดบวม โรคไอกรน หรือแม้กระทั่งโรคไข้ทรพิษ โรคคอตีบ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครรู้จักนะโรคคอตีบไอกรนหรือไข้ทรพิษ แต่ก่อนตายกันเยอะเลย
ที่เป็นโรคพวกนี้ตายเพราะว่าอะไร เพราะว่าความยากจน หรือการอยู่ในที่ที่แออัด ไม่มีน้ำสะอาด ขาดสุขอนามัย แต่พอเจริญขึ้น โรคพวกนี้ก็หายไป พอบ้านเมืองมีความเจริญมากขึ้น มีสุขอนามัย มีน้ำสะอาด โรคพวกนี้ก็หายไป สุญพันธุ์เลยก็มีเช่นโรคไข้ทรพิษ แต่ความเจริญก็ทำให้เกิดโรคชนิใหม่ เช่นโรคมะเร็งปอด ซึ่งเกิดจาก PM 2.5
แล้ว PM 2.5 เกิดจากอะไร เกิดจากการเผาไหม้ในเครื่องยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์นี่ก็เป็นเรื่องแสดงถึงความเจริญทางด้านเทคโนโลยี แสดงว่าความเจริญ ก็มีข้อดี ทำให้โรคติดเชื้อจำนวนมากหายไป แต่ทำให้เกิดโรคชนิดใหม่ขึ้นมา เช่นโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคเบาหวาน โรคหัวใจ
จะพูดว่า ในดีมีเสียก็ได้ แล้วที่น่าสนใจคือว่า ตอนนี้เขาพบแล้วว่า PM 2.5 ทำให้เกิดมะเร็งได้อย่างไร จริงๆตัว PM 2.5 ไม่ได้กระตุ้นให้เซลล์ที่สงบเสงี่ยมให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง ถึงแม้จะกลายพันธุ์อยู่แล้ว เพราะคนธรรมดาก็มีเซลล์กลายพันธุ์ แต่ว่าเซลล์พวกนี้มันสงบเสงี่ยม เซลล์พวกนี้ไม่ลุกลามไปเป็นเซลล์มะเร็ง
แต่พอเจอ PM 2.5 นี่ เซลล์ที่กลายพันธุ์อยู่แล้วนี้ มันเพี้ยนขึ้นมาเลย อาละวาดขึ้นมาเลย ที่จริงเซลล์ PM 2.5 ไม่ได้ทำให้เกิดการอาละวาด แต่เป็นเพราะว่าสารบางตัวที่ร่างกายเราผลิตออกมา เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูมิคุ้มกันในร่างกาย
พอ PM 2.5 เข้าไปในร่างกาย ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราก็ทำงานเลย ด้วยการผลิตหรือหลั่งโปรตีนชนิดหนึ่งออกมา โปรตีนนี้แหละที่ทำให้เราเป็นมะเร็งปอด ทั้งๆที่มันมีหน้าที่ หรือจุดมุ่งหมายของมันช่วยให้เรามีสุขภาพดี แต่ภูมิคุ้มกันร่างกายของเราบางครั้งมันก็ทำให้เราป่วย
ภูมิคุ้มกันร่างกายมีประโยชน์นะ แต่ว่ามันก็เป็นตัวการทำให้เกิดโทษ เกิดความเจ็บป่วยได้มากมาย อย่างที่เรารู้กัน โรคเก๊าต์ก็ดี โรคภูมิแพ้โรคแพ้ภูมิก็ดี ตอนนี้รู้แล้วว่า ภูมิคุ้มกันร่างกายเราก็มีส่วนที่ทำให้เกิดมะเร็งปอด ด้วยการผลิตโปรตีนชนิดหนึ่งออกมาเวลาร่างกายเราเจอ PM 2.5
เขารู้ได้อย่างไร เขารู้เพราะว่าคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจ พอกินยาชนิดหนึ่งที่ระงับหรือสกัดโปรตีนชนิดนี้ ปรากฏว่ามะเร็งปอดบรรเทาลงเลย เรียกว่าถูกลอตเตอรี่โดยไม่ได้รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจแต่ว่ามะเร็งปอดก็ลดลง เพราะว่ากินยาตัวนี้ ซึ่งเป็นตัวที่ควบคุมภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา ไม่ให้ผลิตโปรตีนตัวนี้ขึ้นมา
อันนี้แสดงว่า ภูมิคุ้มกันร่างกายของเรา ซึ่งแม้ว่าจะมีคุณนะ มีคุณมากมายแต่ว่าก็มีโทษเหมือนกัน ขณะที่มันป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคเจ็บป่วย แต่ตัวมันเองก็อาจจะมีส่วนทำให้เกิดโรคบางชนิดซึ่งรุนแรง
ที่จริงโรคซาร์ส(Sars) โรคโควิค ที่ป่วยกันมากปอดอักเสบ พังจนหายใจไม่ออกเลย ไม่ใช่เพราะไวรัส แต่เป็นเพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา ทำงานมากเกินไป ขยันเกินไป มันไม่ได้ทำลายเฉพาะไวรัสในปอดของเรา แต่มันทำลายเนื้อเยื่อในปอดด้วย ปอดของเราก็เลยพัง
อันนี้เรียกว่า ในคุณก็มีโทษ สิ่งที่ทำหน้าที่เพื่อรักษาร่างกายของเราให้มีสุขภาพดี อาจจะทำให้เราเจ็บป่วยได้ อันนี้เป็นธรรมดา สัจธรรมเลย เป็นธรรมดาโลก หรือสัจธรรมเลย ในดีก็มีเสีย ในคุณก็มีโทษ
ความเจริญทำให้คนตายด้วยโรคติดเชื้อน้อย แต่ก็ตายด้วยโรคสมัยใหม่มาก ภูมิคุ้มกันของร่างกายเราแม้จะมีประโยชน์ ช่วยให้เรามีสุขภาพดี แต่ว่าในบางครั้งก็ทำให้เราเจ็บป่วยจนถึงกับล้มตายเลย อันนี้เป็นสัจธรรมเลย ในดีมีเสีย ในคุณมีโทษ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราใช้นี่ แม้ว่าจะมีคุณอย่างไร ต้องรู้เท่าทันโทษที่เกิดขึ้นด้วย แล้วเช่นเดียวกัน ในสุขก็มีทุกข์ ฉะนั้นอย่าไปเพลินในสุขมาก เพราะเพลินในสุขมาก ก็จะทุกข์ในเวลาต่อมา เมื่อโทษมันแสดงตัว.