แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่อยากจะรู้ นั่นคืออนาคตของตัวเอง ผู้คนจึงมักจะไปหาหมอดู เพราะเชื่อว่าหมอดูสามารถทำนายทายทักอนาคตของตัวเองได้ และมีอีกคนหนึ่งที่คนมักนิยมไปหาเพื่อให้ทำนายทายทักอนาคต นั่นก็คือพระ โดยเฉพาะยิ่งพระที่บวชนานเป็นหลวงพ่อหลวงปู่ คนก็ยิ่งไปหา เพราะเชื่อว่า ท่านหยั่งรู้อนาคต ยิ่งเป็นพระกรรมฐานด้วยแล้วยิ่งหยั่งรู้อนาคตของใครต่อใครได้
สมัยที่หลวงพ่อชามีชีวิตอยู่ นิยมเข้ามาให้หลวงพ่อ ทำนายทายทักอนาคต ดูดวงบ้าง นั่งทางในบ้าง จนหลวงพ่อต้องปฏิเสธ จนกระทั่งมีโยมคนหนึ่งเป็นคนที่อุปถัมภ์วัดมานานแล้ว แล้วก็ชอบถวายทานให้กับวัดอยู่เนืองๆ โยมคนนี้ก็คอยรบเร้าให้หลวงพ่อช่วยทำนายอนาคตให้ หลวงพ่อท่านก็ปฏิเสธ แต่เขาก็ไม่ลดละ
โยมคนนี้ก็วิงวอนร้องขออยู่นั่นแหละ จนกระทั่งวันหนึ่งหลวงพ่อทนรบเร้าไม่ได้ ใจอ่อน ก็เลยบอกว่า”เอามือมาสิ หลวงพ่อจะดูลายมือให้สักหน่อย” เขาดีใจเลย เพราะว่าหลวงพ่อไม่เคยทำอย่างนี้กับใครไม่เคยดูลายมือให้ใครเลย คนนี้เป็นคนแรกเลย ดีใจมาก ตื่นเต้น ยื่นมือให้หลวงพ่อดูลายมือ หลวงพ่อก็ดูอย่างตั้งใจ
เอานิ้วมือลูบไล้ไปตามเส้นลายมือบนฝ่ามือของโยมคนนั้น ท่านดูไปแล้วก็บอกโยมว่า “น่าสนใจนะ แปลกดีนะ” โยมคนนั้นก็อยากรู้เข้าไปใหญ่ พอท่านดูเสร็จท่านก็ปล่อยมือโยมคนนั้น แล้วก็บอกว่า “หลวงพ่อรู้อนาคตของโยมแล้วล่ะ” โยมคนนั้นดีใจใหญ่ “เป็นอย่างไรครับ หลวงพ่อ” “อนาคตของโยมน่าสนใจมาก” “ครับๆ แล้วยังไงครับ” หลวงพ่อบอกว่า “หลวงพ่อดูอนาคตใครไม่เคยผิดไม่เคยพลาดเลย” “ครับๆ ทราบแล้วครับ แล้วมันเป็นอย่างไรครับ” หลวงพ่อก็ตอบว่า “อนาคตของโยมหรือ มันไม่แน่นอนน่ะสิ”
คือจบ จริงไหม และเชื่อว่าหลวงพ่อท่านทายแม่นมาก เรียกว่าหยั่งรู้อนาคตเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ทายแม่นอย่างเดียว เป็นการหยั่งรู้อนาคต ที่จริงอนาคตของพวกเราก็เหมือนกัน มันก็ไม่แน่นอน
ไม่แน่นอนหมายความว่าอย่างไร ก็หมายความว่า มีขึ้นมีลง มีดีมีร้าย บางทีมันก็ตรง บางทีมันก็หักเลี้ยว อนาคตของทุกคนเป็นอย่างนี้แหละ และยังหมายความว่า อนาคตของเรา มันจะไม่เหมือนกับเราในวันนี้ ตอนนี้เราเป็นอย่างไรล่ะ อนาคตมันก็จะเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ตอนนี้ ตอนนี้มีสุขภาพดี มีกำลังวังชา อนาคตก็อาจจะไม่มีเรี่ยวมีแรง อ่อนเพลียหรือว่าเจ็บป่วย
ตอนนี้พรั่งพร้อมด้วยวัตถุ ด้วยเงินทอง แต่วันหน้าก็อาจจะร่อยหรอ วันนี้มีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนรักห้อมล้อมแต่วันหน้าก็อาจจะเหลืออยู่ตัวคนเดียวก็ได้ อันนี้คืออนาคตของทุกคน เพราะเรารู้อย่างนี้ เราควรจะทำอย่างไรนะ เมื่อเรารู้อนาคตไม่แน่นอน เราก็ต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท โดยเฉพาะถ้าเกิดว่าวันนี้ยังดีอยู่มีสุขภาพแข็งแรง ก็ต้องระมัดระวัง เพราะว่าถ้าเผลอเรอ มันก็จะเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น หรือว่าเจอโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่คาดคิด
เวลาจะไปไหนมาไหนก็ระมัดระวัง ถึงแม้ว่าเส้นทางที่เราไปนี่มันปลอดภัยสะดวกครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้มันอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ อาจจะเกิดอุบัติเหตุ ทางอาจจะขาด น้ำอาจจะท่วม ต้องไม่ประมาท ขับรถด้วยความตั้งใจ มีสติ ไม่ใช่ว่าเส้นทางนี้ฉันผ่านมาเป็น สิบปีแล้วไม่มีอะไรเลย อดีตมันไม่มีอะไร แต่วันนี้มันอาจจะมีก็ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ว่าอนาคตไม่แน่นอน ก็ต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ไม่ว่าทำอะไรก็ตาม
ขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมตัวและเตรียมใจด้วย เพราะว่าไม่ว่าเราจะระวังยังไง มันก็อาจจะเกิดผิดเกิดพลาดเกิดพลั้งขึ้นมา หรือเกิดสิ่งที่เราไม่คาดฝันเราก็ต้องเตรียมตัวไว้ เพื่ออะไร เพื่อบรรเทาเหตุร้ายเช่น เจ็บป่วย อย่างน้อยเราก็ยังมีเงินที่เก็บไว้ เราก็ใช้เงินนั้นช่วยในการรักษาพยาบาล เตรียมตัวไม่พอ เตรียมใจด้วย ไม่ใช่ว่ามีเงิน แต่ว่าไม่ได้เตรียมใจ กลายเป็นว่าพอป่วยทีหนึ่ง ทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ บางทีทุกข์ใจยิ่งกว่าทุกข์กายเสียอีก อันนี้เรียกว่าเตรียมตัวเตรียมใจ
และขณะเดียวกัน เวลาเจอสุขก็ไม่เพลินในสุข เพราะเรารู้ว่าวันหน้าอาจจะทุกข์ก็ได้ ขณะเดียวกันถ้าวันนี้ทุกข์ ก็อย่าไปจมอยู่ในความทุกข์เพราะว่ามันอาจจะดีขึ้นก็ได้ ความไม่แน่นอนนี่ มันไม่ได้หมายถึงแย่อย่างเดียว อาจจะหมายถึงดีก็ได้ วันนี้แย่พรุ่งนี้อาจจะดี วันนี้หม่นหมองพรุ่งนี้อาจจะสว่างไสวก็ได้ อย่าไปจมอยู่กับความทุกข์มาก และขณะเดียวกันก็รู้จักปล่อยรู้จักวาง เพราะอะไรๆก็ไม่แน่นอน ถ้ามันเที่ยง มันแน่นอน ก็ยึดมั่นถือมั่นไปเถิด แต่เพราะมันไม่แน่นอน มันไม่เที่ยง มันจะเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ก็ได้
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่รู้จักปล่อยวางก็ทุกข์ คนเราแค่รู้ว่าอนาคตไม่แน่นอน ก็พอแล้ว อย่างอื่น มันไม่สำคัญเท่าไหร่แล้ว แค่รู้ว่าอนาคต ไม่แน่นอน มันก็ทำให้เกิดการเตรียมตัวเตรียมใจได้
เพราะฉะนั้น คำทำนายของหลวงพ่อ มันใช้ได้กับเราด้วย แม้ว่าเราจะไม่ได้ให้หลวงพ่อดูลายมือให้ แต่ว่าสิ่งที่ท่านพูดมานั้น เป็นสิ่งที่เราต้องตระหนัก เราต้องเตือนใจ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว ก็ปฏิบัติให้ถูกอย่างที่ว่า ไม่ประมาท เราก็ระวังรู้จักเตรียมตัวเตรียมใจไว้ทุกข์ รู้จักปล่อยรู้จักวางสม่ำเสมอ มันก็จะทำให้เราสามารถที่จะเผชิญกับอนาคตได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์
- วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564