แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 28 ตุลาคม 2564 (วันออกพรรษา)
วันนี้เป็นวันสำคัญของเราชาวพุทธ เป็นวันออกพรรษา ก็เป็นธรรมดามีเข้าก็มีออก เข้าโรงเรียน ก็ต้องออกจากโรงเรียน เข้าพรรษามันก็ต้องมีวันจะต้องออกพรรษาเป็นธรรมดา พอถึงวันออกพรรษาญาติโยมแม่ออกพ่อออกจำนวนมากมาย ก็จะมีความยินดีปรีดา สีหน้าสดชื่นแจ่มใส
ถ้าเป็นปีก่อน ๆ นี้ลูกหลานจะดีใจเพราะว่าจะได้กลับมาเยี่ยมบ้าน แต่ปีนี้ลูกหลานอาจจะไม่ได้ค่อยมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านเท่าไหร่ เพราะว่ามีเรื่อง covid เข้ามา แต่หลายคนก็ดีใจเพราะเหตุอื่น อาจจะดีใจเพราะว่า ลูกหลานที่มาบวช อีกไม่นานก็จะลาสิกขา กลับมาสู่ครอบครัว กลับมาสู่อ้อมอกของพ่อแม่ กลับมาช่วยงานการของพ่อแม่
หลายคนก็ดีใจเพราะว่าเหตุอื่นๆ อย่างเช่นดีใจเพราะว่า ความยากลำบากจะได้สิ้นสุดเสียที ความยากลำบากอะไร ความยากลำบากจากการถือศีล บางคนตั้งใจว่าในช่วงเข้าพรรษา ก็จะถือศีล ก็ต้องอดทนโดยเฉพาะศีลข้อ 5 หลายคนติดเหล้า นึกถึงเหล้าก็อดกลั้นเอาไว้ ก็อุตส่าห์ทำได้จนออกพรรษา เพราะฉะนั้นพอออกพรรษาเข้า หลายคนก็จะรู้สึกว่าความทุกข์ยากหมดไปแล้ว อันนี้ก็เป็นความดีใจของหลายคน
แต่ดีใจแบบนี้ยังสู้ดีใจเพราะเหตุอื่นไม่ได้ โดยเฉพาะดีใจเพราะว่าได้ทำสำเร็จแล้วที่ตั้งใจเอาไว้ ที่ตั้งใจว่าจะงดเหล้า งดอบายมุขจนออกพรรษา บัดนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว ก็ถือว่าที่ตั้งใจมากกว่านั้นคือถือศีล 8 ในวันพระถือศีลทำได้สำเร็จ ก็เกิดความดีใจ ความดีใจเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ทำสิ่งที่ยากได้สำเร็จ ทำสิ่งดี ๆ ให้ลุล่วงไปได้ ความดีใจแบบนี้ดีกว่า ดีกว่าดีใจเพราะว่าเข้าพรรษาตอนนี้หมดแล้ว การเข้าพรรษาสิ้นสุดแล้ว ดีใจเพราะว่าจะไม่ต้องเคร่งครัด ไม่ต้องถือศีลอีกต่อไป
ดีใจแบบนี้มันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ เพราะว่าพอออกพรรษาเสร็จ แล้วคนที่งดเหล้างดบุหรี่ก็อาจจะถือเป็นเหตุว่า ออกพรรษาแล้วต่อไปนี้ ฉันจะได้กินเหล้า ฉันจะได้สูบบุหรี่ ฉันจะได้เล่นการพนันได้เหมือนเดิม มีบางคนอดทนอดกลั้นตลอดพรรษา ไม่กินเหล้า แต่พอออกพรรษา กินเหล้าแบบว่าเมามาย ไม่เป็นผู้เป็นคนเลยมีตั้งแต่วันออกพรรษาเลยทีเดียว จนกระทั่งเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับญาติพี่น้อง แม้กระทั่งคู่ครองในบ้าน เกิดการชกต่อยตีกัน หัวร้างข้างแตก
ดีใจแบบนี้เป็นเพราะว่าการเข้าพรรษาสิ้นสุด จะได้ไม่ต้องถือศีลต่อไป อันนี้ไม่ดี แต่ถ้าจะเป็นความดีใจเพราะภูมิใจที่ทำสิ่งยากได้สำเร็จ ได้ใช้ความเพียร อดทนจนกระทั่งสามารถจะงดเหล้างดอบายมุขได้ หรือสามารถจะถือศีล 8 ได้อย่างนี้เรียกว่าเป็นความภูมิใจ ภาคภูมิใจแบบนี้มันก็จะทำให้เกิดกำลังในการที่จะทำความดีได้อีกต่อไปแม้ว่าจะออกพรรษา
ออกพรรษาแล้วแม้ในทางธรรมเนียมประเพณี เราจะเคร่งครัดน้อยลงในเรื่องของการปฏิบัติ ไม่ว่าในเรื่องของการถือศีล ในการบำเพ็ญภาวนา แต่ว่าขอให้อย่าออกจากธรรม ออกพรรษามันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกปีมันก็ต้องมีวันเข้าพรรษาออกพรรษา แต่ออกพรรษาแล้ว สิ่งที่สำคัญอย่าออกจากธรรม อย่าออกจากศีล อาจจะถือศีลน้อยลง จากศีล 8 มาเป็นศีล 5 แต่อย่าให้ออกจากศีล 5 ไปเลย รักษาศีล 5 ให้ครบ ครองตัวอยู่ในศีล ครองตัวอยู่ในธรรม
เพราะถ้าออกพรรษา แล้วถือโอกาสออกจากศีล ออกจากธรรมด้วย อันนี้มันไม่ดีเลย มันเป็นอันตราย มันเป็นโทษ แม้ว่าจะออกพรรษาแล้วขอให้เราตั้งใจมั่นว่า เราจะไม่ออกจากศีล ไม่ออกจากธรรม เราจะมั่นคงอยู่ต่อไป อย่าออกจากความเพียร อย่าออกจากสติ อย่าออกจากความรู้สึกตัว ให้เราตั้งจิตมุ่งมั่นเป็นปณิธานเอาไว้ เพราะว่าถ้าออกจากศีล ออกจากธรรม ออกจากสติ ออกจากความเพียรเมื่อไร มันก็จะเกิดภัยกับตัวเองได้
เพราะว่าศีลและธรรม มันเป็นเครื่องปกปักรักษาเรา ถ้าอยากให้อยู่รอดปลอดภัย อยู่เย็นเป็นสุข ก็อย่าทิ้งศีล อย่าทิ้งธรรมเด็ดขาด ให้การออกพรรษาเป็นเรื่องของสมมติตามประเพณี และถึงแม้ว่าเราจะหย่อนการประพฤติปฏิบัติเพราะถือว่าตอนเข้าพรรษา เราปฏิบัติอย่างเข้มงวด เช่น ที่เคยถือศีล 5 ก็มาถือศีล 8 ที่เคยบำเพ็ญภาวนา แค่สวดมนต์ ก็มาเจริญสติ ทำสมาธิ ภาวนาจริงจังต่อเนื่องทุกวัน
ออกพรรษาแล้ว อาจจะมีเหตุให้ทำได้ลดน้อยลง แต่ต้องไม่ทิ้งเลยเรียกว่าไม่ทิ้งธรรม ไม่ออกจากธรรม แม้ว่าจะลดศีล ก็ลดแค่ 8 ให้เหลือ 5 ไม่ใช่ลดเหลือจนศูนย์ หรือแค่ 4 หรือแค่ 3 อันนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกธรรม แล้วก็เป็นอันตรายต่อชีวิตของเรา
ถ้าจะออกก็ให้ออกจากอบาย ออกจากความหลง ออกจากความทุกข์ วิเศษที่สุดประเสริฐที่สุด ออกแบบนี้ดีที่สุด ออกจากความหลง ออกจากอบายมุข ออกจากความทุกข์ อาจจะยังออกจากความทุกข์ไม่ได้ 100% แต่ว่าก็ขอให้ออกจากความทุกข์ ที่มันรุมเร้าจิตใจ โดยเฉพาะความทุกข์ที่เกิดจากอบายมุข เกิดจากการพนัน ความทุกข์ที่เกิดจากความเกียจคร้าน เกิดจากความยึดติดถือมั่น ไม่รู้จักปล่อยไม่รู้จักวาง ใจชอบไหลไปในอดีต อดีตผ่านไปแล้วก็ยังยึดยังเกาะเอาไว้ ไม่ยอมให้มันผ่านไป อนาคตยังไม่ถึง ก็คิดปรุงแต่งมโน จนกระทั่งเกิดความเครียดเกิดความกังวล
อย่างน้อยก็ให้ออกจากทุกข์ แบบนี้เสียบ้าง จะทำอย่างนี้ได้เพราะว่าเรารู้จักออกจากความหลงเพราะว่ามีสติ มีความรู้สึกตัวเป็นเครื่องปกปักรักษา ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ มันก็เรียกว่าออกจากอบายได้ ออกจากอบายภูมิ อบายภูมิซึ่งเมื่อคนหลงเข้าไป ส่วนมากเพราะอบายมุข เหล้า การพนัน เป็นต้น พอเข้าไปสู่อบายมุข มันก็หลุดเข้าไปในอบายภูมิคือ เกิดความทุกข์ เกิดความรุ่มร้อนในจิตใจ เกิดความเครียด ความศูนย์
ถึงแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข แต่ถ้ายังมีความหลงอยู่ หลงคิดหลงปรุงหลงเข้าไปในอารมณ์ จิตก็ยังเข้าไปสู่อบายภูมิ เกิดความรุ่มร้อน ความวิตกกังวล เกิดความเครียด เกิดความศูนย์ แต่ถ้ารู้จักออกจากความหลงเพราะมีสติ มีความรู้สึกตัว มันก็ออกจากอบายภูมิได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าเจริญสติ เจริญสมาธิ ภาวนาต่อเนื่องจนเกิดปัญญาจนเห็นว่า ไม่มีอะไรที่จะยึดมั่นถือมั่นได้เลย ทุกอย่างมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ถ้าเห็นแบบนี้ได้ก็ออกจากทุกข์ได้เลย หรือว่าออกจากทุกข์ได้ 80-90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ให้เราตั้งจิตปณิธานว่า แม้จะออกพรรษา ออกจากศีล ออกจากธรรม เราจะไม่ออกจากศีล ไม่ออกจากธรรม เราจะไม่ออกจากความเพียร ไม่ออกจากสติ เราจะออกจากความหลง เราจะออกจากอบายมุข ออกจากอบายภูมิ และออกจากความทุกข์ให้ได้ จะทำอย่างนี้ได้ก็ต้องมีธรรมะเป็นที่พึ่ง มีสติเป็นเครื่องรักษาใจ
ออกพรรษาแล้ว นอกจากมาทำบุญตามประเพณีแล้ว ก็ขอให้เราทุกคนกลับมาถามตัวเองว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ตลอดช่วงเข้าพรรษาเราได้มีความเจริญงอกงามอย่างไรบ้าง
หัวเผือกหัวมัน 3 เดือน มันก็จะโตเต็มที่เลย มันจะไม่ลีบ ไม่แคระ ไม่แกร็น ขนาดหัวเผือกหัวมันยังเปลี่ยนแปลง ยังโตขึ้น แล้วตัวเรา จิตใจของเรา 3 เดือน มันได้มีความเจริญงอกงามขึ้นบ้างไหม อย่าให้โตแต่ตัว บางคนบอกว่า 3 เดือนนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 10 กิโล อย่างนี้ จะไปเทียบกับหัวเผือกหัวมันไม่ได้ มันต้องดูว่าจิตใจเราเจริญงอกงามหรือไม่ มีศีลมากขึ้นหรือเปล่า มีสติเพิ่มขึ้นหรือไม่
รู้จักประหยัดอดออมมากขึ้น เพราะว่าเราไม่หลงติดในสิ่งเสพในวัตถุหรือเปล่า ถามตัวเองอย่างนี้แล้วก็ตอบตัวเองให้ได้ว่าเรามีความเจริญงอกงามขึ้นในทางศีลในทางธรรม ถ้าอย่างนี้ 3 เดือนที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า แต่ถ้าหากว่าไม่มีการเจริญงอกงามเลย ยังเหมือนเดิม เข้าพรรษากับออกพรรษาเหมือนเดิม อันนี้แสดงว่าเรายังต้องปรับปรุง ยังมีเวลาที่จะได้ปรับปรุงตัวเอง
ตลอดเวลา 3 เดือนต้องขอขอบคุณชาวบ้านใหม่ไทยเจริญ ตลอดจนบ้านกุดโง้ง บ้านวังเข้ รวมทั้งท่ามะไฟหวาน ที่ได้หถวายอาหาร ใส่บาตร เลี้ยงดูพระ แม่ชี ผู้ปฏิบัติธรรม ตลอดพรรษา แม้ว่าเศรษฐกิจฝืดเคือง ความเป็นอยู่ขัดสน เพราะสถานการณ์ไม่ปกติ ญาติโยมจากข้างนอกก็เหมือนกัน จากชัยภูมิ แก้งคร้อ รวมถึงที่ไกลที่ขวนขวายมา
บางคนมาเองไม่ได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด ก็ส่งอาหารมาทางไปรษณีย์อย่างต่อเนื่องตลอดพรรษาและก็คงทำอย่างนี้ตลอดแม้ออกพรรษาไปแล้ว ก็ขออนุโมทนาขอบคุณญาติโยม พ่อออกแม่ออกทุกคนที่ได้อุปถัมภ์บำรุงเลี้ยงดูชาววัดให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และขอบคุณญาติโยมที่ไกลด้วย เช่นเดียวกัน
ในวันออกพรรษาก็ขอถือโอกาสนี้ อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย อำนวยอวยพรให้ ญาติโยมทุกท่าน อยู่นอกวัด อยู่ใกล้วัด และที่อยู่ไกลออกไป ให้เจริญด้วยอายุวรรณะ สุขะพละ ขอให้มีความตั้งมั่นในการรักษาธรรมบำเพ็ญศีล มีความเพียรอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้อยู่ในอารักขาของธรรม บำรุงรักษากายและใจ ให้ปลอดภัยคลายทุกข์ให้ อยู่เย็นเป็นสุข ให้ก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวงด้วยดี
แม้ว่าจะมีความลำบาก เพราะว่าเศรษฐกิจฝืดเคืองเพราะ Covid แพร่ระบาด ก็ขอให้แคล้วคลาดผ่านอุปสรรค ความยากลำบากทั้งปวง ได้ด้วยอำนาจแห่งธรรม ด้วยอำนาจแห่งความดี ขอให้มีสติรักษาใจ มีปัญญานำพาชีวิต ให้ก้าวข้ามผ่านทุกข์ ให้เข้าถึงความสุขเกษมศานต์ มีพระนิพพานเป็นที่หมายด้วยกันทุกคนเทอญ