แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้วันพระลองฟังนิทานเรื่องหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกว่า นิทานชาดก นิทานนี้สั้นมาก แต่ว่าให้คติธรรมที่ดี มีบึงน้ำแห่งหนึ่ง น้ำท่าอุดมสมบูรณ์มาก มีปลามีเต่ามีสัตว์น้ำนานาชนิดอาศัยอยู่ แต่ต่อมาฝนแล้ง น้ำก็ค่อยๆเหือดหาย ระดับน้ำลดต่ำลงไปเรื่อยๆ
เต่ารวมทั้งสัตว์น้ำจำนวนมากก็อพยพไปอยู่ที่อื่น ไปที่มันมีน้ำอุดมสมบูรณ์กว่า แต่มีเต้าอยู่ตัวหนึ่ง มันไม่ยอมไป ยืนยันจะอยู่ที่เดิม เพราะว่านี่เป็นบ้านของฉันฉันไม่ย้ายไปไหน น้ำมันแห้งจนกระทั่งเรียกว่าผืนดินแตกระแหงเลย
วันหนึ่งก็มีช่างปั้นหม้อคนหนึ่ง มาที่บึงน้ำที่แห้งแห่งนี้ พร้อมกับจอบเพื่อจะขุดดินเอาไปปั้นหม้อ ช่างปั้นหม้อไม่เห็นเต่าตัวนี้ เพราะมันอยู่ในรู ก็เอาจอบฟันดิน ปรากฏว่าไปถูกเต่าตัวนี้ตาย พระพุทธเจ้าตรัสต่อเรื่องนี้ว่า อย่ายึดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าเป็นของเรา เพราะมิเช่นนั้นก็อาจจะลงเอย เหมือนกับเต่าตัวนี้ อันนี้ก็เป็นคติธรรมที่น่าสอนใจได้ดี
ไปยึดมั่นถือมั่นว่า นี่เป็นบ้านของฉัน ๆ บางทีก็เกิดอันตราย แม้ว่าบ้านมันจะให้ความอบอุ่น ให้ความปลอดภัย ให้ความสุขสบาย แต่ถ้าไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเราๆมากเกินไป มันก็อาจจะเกิดเภทภัยได้ เวลาอาตมานั่งรถจากที่นี่ไปภูหลง หรือว่าจากภูหลงไปที่สุคะโต เวลาผ่านบ้านชาวบ้าน มักจะมีไก่หลายตัวจะบินตัดหน้ารถ ส่วนใหญ่ก็รอดปลอดภัย แต่บางตัวก็โดนรถชนตาย แต่ว่าไม่ใช่รถวัด ก็มักจะเป็นรถชาวบ้าน ก็จะชนไก่ที่บินผ่านตัดหน้ารถ
ไก่ไม่ได้อยู่ตรงกลางถนน มันอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน แต่พอรถแล่น มันตกใจ ถ้ามันอยู่ที่เดิม มันก็ปลอดภัย เพราะว่ารถไม่ได้วิ่งเข้าหามัน แต่ทำไมมันถึงไม่ยอมอยู่เฉย ทำไมมันถึงบินตัดหน้ารถไปอีกฝั่งหนึ่ง เพราะว่าอีกฝั่งหนึ่ง คือรังของมัน คือบ้านของมัน เวลามันตกใจมันก็คิดว่า ถ้ามันบินกลับบ้าน มันจะปลอดภัยหรืออาจจะเป็นเพราะว่า มันยึดมั่นถือมั่นในบ้านของฉัน นี้เป็นรังของฉัน พอมีอะไรๆ ขึ้นมา ก็วิ่งกลับบ้าน
แต่การทำเช่นนั้น ก็ทำให้มันโดนรถชนตาย หรือว่าหวุดหวิด ถ้ามันอยู่ที่เดิม มันก็ปลอดภัยแล้ว แต่เป็นเพราะความห่วงบ้านมั้ง หรือความคิดว่า อยู่บ้านแล้วจะปลอดภัยกว่า ก็เลยบินกลับบ้าน เป็นเหตุให้โดนรถชนหรือเฉี่ยว อันนี้ก็คล้ายๆกับเต่าตัวที่ว่า ไก่มันยึดมั่นถือมั่นว่าอันนี้บ้านของฉัน รังของฉัน ต้องกลับไปให้ได้ ยิ่งมีอันตรายเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องกลับไป โดยที่ไม่รู้ว่า ทำเช่นนั้นกลับทำให้มันเจออันตรายยิ่งกว่า
อย่าว่าแต่เต่าหรือไก่เลย คนเราก็เหมือนกัน ถ้าไปยึดมั่นนะว่า นี่บ้านของฉันๆ บางทีบ้านนี้แทนที่มันจะให้ความปลอดภัย มันกลับทำให้เป็นอันตราย อย่างเช่นเวลามีพายุมา บ้านเราอาจจะไม่เจอพายุหนัก หลายคนบางทีเจอพายุหนัก อันตรายมาก ทางการบอกว่าให้อพยพหนี แต่ก็ไม่หนีเพราะว่าห่วงบ้าน หวงแหนบ้าน กลัวว่าบ้านเป็นอันตรายหรือว่ากลัวคนจะมาลักลอบมาขโมยทรัพย์สมบัติในบ้าน ก็เลยไม่ยอมหนี อยู่เฝ้าบ้าน ปรากฏว่าก็โดนพายุถล่ม บ้านพัง ตัวเองก็ตาย
บางทีไม่ใช่พายุ แต่ว่าน้ำท่วมน้ำป่าไหลหลาก หลายคนก็พากันหนีเอาตัวรอดไว้ก่อน บ้านจะเป็นยังไงเอาไว้ทีหลัง แต่บางคนก็ห่วงบ้างจนลืมชีวิต ก็เลยตายไปพร้อมกับบ้านที่ถูกน้ำท่วมหรือว่าถูกดินถล่มทับ
เวลาเรายึดมั่นถือมั่นว่า สิ่งใดเป็นของเรา เช่น ยึดมั่นถือมั่นว่า นี้บ้านของฉัน ๆ ต้องระวังนะเพราะว่าฉันจะกลายเป็นของบ้านทันทีเลย เรายึดว่า นี่คือบ้านของเรา ปรากฏว่า เรากลายเป็นของบ้านทันทีเลย ก็คือยอมตายเพื่อมันได้
มันไม่ใช่แต่บ้านอย่างเดียว รถยนต์ก็ดี ทรัพย์สมบัติต่างๆก็ดี ไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นของเราๆเมื่อไหร่ เราเป็นของมัน ไปยึดมั่นว่าเป็นของฉัน ฉันเป็นของมันทันทีเลย แล้วก็พอไปหวงแหนเข้า มันก็ลืมตัวไม่เสียดายชีวิต แต่ขอให้บ้าน รถยนต์ ทรัพย์สมบัติ ยังอยู่ต่อไปได้ ทั้งๆที่มันก็ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า จงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และพร้อมจะสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ
คือทรัพย์สมบัติยังไง มีค่าแค่ไหน สำคัญอย่างไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับอวัยวะ อวัยวะมีค่าเท่าไหร่สำคัญยังไงก็ไม่สำคัญเท่ากับชีวิต ชีวิตจะมีค่าเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญเท่ากับธรรมะ แต่อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องของการสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะเลย สละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะหรือเพื่อรักษาชีวิต ทั้งๆที่หลายคนก็รู้นี่มันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่พอถึงเวลาที่มีภัยคุกคามทรัพย์ ลืมตัว ยอมสละอวัยวะยอมสละชีวิตเพื่อมันได้
อันนี้เพราะความยึดมั่นถือมั่นว่า มันเป็นของฉันๆ พอยึดมั่นว่าเป็นของฉันเมื่อไหร่นี่ ฉันเป็นของมันทันที คือยอมตายเพื่อมันได้ ยอมพิกลพิการเพื่อมันได้ ก็ต้องระวัง เพราะว่ามันทำให้เราลืมตัว
เพราะฉะนั้น คติธรรมสั้นๆของพระพุทธเจ้าที่ทรงเล่า แม้ว่าจะดูเต่าตัวนี้ว่ามันโง่ แต่คนเราถ้าเราเผลอ เราก็อาจจะเป็นอย่างนั้นได้เหมือนกัน เพราะว่าพอเผลอพอลืมตัวแล้ว ปัญญามันก็ไม่เกิด มันมีแต่ความหลงเข้ามาทดแทน แล้วก็เลยเกิดภัยเกิดอันตรายแก่ตัวเอง
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 29 กันยายน 2564