แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
โรคภัยไข้เจ็บ ใครๆก็ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น เกิดขึ้นแล้วก็อาจจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่มีแต่โทษอย่างเดียว มันอาจจะมีประโยชน์ด้วยก็ได้ เขาพบว่าคนที่เคยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจตอนเด็กๆโตขึ้นจะไม่ค่อยเป็นเบาหวานเท่าไหร่ คนที่เป็นเบาหวานตอนโต ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจตอนเด็กๆ
แล้วเขายังพบอีกว่า เด็กที่เคยเป็นหัด โตขึ้นจะไม่ค่อยเป็นโรคหอบหืด หรือว่าโรคแพ้โน่นแพ้นี่ เช่น แพ้ละอองเกสร ส่วนคนที่เป็นหอบหืดหรือว่าเป็นโรคแพ้ละอองเกสร เป็นต้น เขาพบว่าตอนเป็นเด็กไม่ค่อยเป็นหัด หรือว่าไม่เคยเป็นหัด
อันนี้ก็เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ เพราะมันอาจจะบ่งชี้ว่า โรคที่เคยเป็นตอนเด็กๆ มันก็มีส่วนช่วยทำให้เกิดภูมิคุ้มกันบางอย่างในร่างกาย หรือว่าทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในร่างกายที่ทำให้เกิดโรคหลายโรคมันเกิดขึ้นได้ยากเมื่อโตขึ้น
และเดี๋ยวนี้เราพบว่า พอพ่อแม่เริ่มจะดูแลลูกๆให้มีสุขภาพดี โดยเฉพาะไม่ค่อยได้ไปสัมผัสกับเชื้อโรคอย่างเช่น ไม่ให้ไปเล่นดินเล่นทราย ปรากฏว่าเด็กจำนวนมากที่จริงยังไม่ทันโตเป็นวัยรุ่น แค่เป็นเด็กโตหน่อย ก็เป็นโรคแพ้นั่นแพ้นี่ เดี๋ยวนี้ก็มีโรคมือเท้าปาก แล้วก็โรคแพ้อะไรสารพัด อันนี้เป็นปัญหามากกับเด็กที่ครอบครัวมีฐานะดี
ถ้าเป็นเด็กชาวบ้านในหมู่บ้านตามชนบท หรือว่าเด็กที่อยู่ในถิ่นที่ยากจน ไม่ค่อยเป็นโรคพวกนี้เท่าไหร่โรคแปลกๆที่เกิดขึ้นในสังคมสมัยใหม่ อันนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่า การที่ได้สัมผัสกับเชื้อโรคในขณะที่เป็นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคในดินในน้ำจากการที่ได้เล่นดินเล่นทรายเล่นน้ำคลอง มันช่วยสร้างภูมิคุ้มกันบางอย่างที่ทำให้เด็กเหล่านี้พอโตขึ้นมาหน่อย หรือว่าพอโตเป็นวัยรุ่น จะไม่ค่อยเป็นโรคหลายๆอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นโรคแพ้นั่นแพ้นี่ อันนี้ยังไม่ต้องพูดถึงโรคเบาหวานหรือว่าหอบหืด
มนุษย์เรามักจะมองเชื้อโรคว่าเป็นอันตรายโดยเฉพาะมนุษย์ในสมัยใหม่ เพราะฉะนั้น ก็พยายามจะหาทางกำจัดเชื้อโรคโดยเฉพาะแบคทีเรียที่มันติดอยู่ตามเสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ ตามเนื้อตัว ตามข้าวของเครื่องใช้ เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ฆ่าเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ฆ่าเชื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อสารพัดเลย
ยิ่งพ่อแม่ที่รักลูกมากๆก็พยายามจะให้ลูกๆไม่ต้องไปสัมผัสกับเชื้อต่างๆเหล่านี้ตั้งแต่เล็ก อันนี้ดูเหมือนดี แต่ปรากฏว่าเด็กพอโตขึ้นแล้ว ป่วยเป็นโรคหลายๆอย่าง หลายๆแบบ ซึ่งเรียกว่าเป็นโรคสมัยใหม่
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาก็เริ่มมีการรณรงค์ ที่จริงทำกันมานานแล้ว คือให้พ่อแม่ปล่อยให้ลูกได้สัมผัสเชื้อโรคบ้างจากธรรมชาติ เช่น เล่นดินเล่นทราย แม้กระทั่งสัมผัสกับพวกสัตว์เลี้ยง พ่อแม่บางคนไม่อยากให้ลูกเล็กสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงเลย เช่น หมา เพราะกลัวเชื้อโรคจะมาติด มันก็จริง แต่ว่าเชื้อโรคที่จะมาติดลูก หรือติดกับเด็ก มันไม่ทำให้ป่วยมาก อย่างมากก็แค่เป็นไข้เล็กน้อย แต่พอหลังจากไข้ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ทำให้สามารถจะรับมือกับเชื้อที่ร้ายแรงต่างๆ ได้
ตอนหลังเขาก็ส่งเสริมให้พ่อแม่พาเด็กไปเล่น สัมผัสกับสิ่งต่างๆตามธรรมชาติ มันจะมีเชื้อโรคบ้างก็ไม่เป็นไร ดีเสียอีก เด็กเล่นดินเล่นทรายจนเนื้อตัวมอมแมมนั้น เขาถือว่าดี แต่ก่อนนี้ ไม่ได้เลย ถ้าเสื้อผ้ามอมแมม ถือว่าแย่มาก กลัวลูกได้รับอันตราย
แต่เดี๋ยวนี้เขาส่งเสริมด้วยซ้ำ เพราะว่าเชื้อโรคมันสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อย่าว่าแต่อะไรเลย เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่สัมผัสเชื้อโรคจากธรรมชาติ บางทีส่งเสริมให้กินเชื้อโรคเข้าไปทั้งปากด้วย เดี๋ยวนี้มีอาหารเสริมเพิ่มเชื้อโรคในร่างกาย จะเรียกว่าเชื้อโรคก็ไม่ถูกมันเป็นจุลินทรีย์ ที่ไปช่วยทำให้ร่างกายทำงานดีขึ้น เช่น นมเปรี้ยว
หรือว่าอาหารเสริม เช่น ที่เรียกว่า โปรไบโอติก พวกนี้ก็คือพวกแบคทีเรียชนิดต่างๆ เติมเข้าไปในร่างกาย เพราะว่าเดี๋ยวนี้มันหดหดหายไปจากร่างกายเยอะ อาจจะเป็นเพราะว่ากินยาปฏิชีวนะเข้าไป หรือว่ากินสารที่มันฆ่าเชื้อ พอมันไปฆ่าเชื้อในอวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น กระเพาะ มันก็เลยไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้ หน้าที่ของมันอาจจะไม่ใช่ป้องกันโรคอย่างเดียวแต่ยังทำให้การทำงานของระบบประสาทต่างๆในร่างกายเราดีขึ้น ทำให้การถ่ายท้อง ทำให้การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายดีขึ้น
อันนี้เรียกว่าเป็นการเหวี่ยงกลับมา จากเดิมที่อนามัยจัด ฆ่าเชื้อทุกอย่างที่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา ไม่ว่าจะที่ผิวหนัง หรือว่าข้างในร่างกาย แต่ตอนนี้ นอกจากส่งเสริมให้เด็กได้มีโอกาสสัมผัสกับเชื้อตามธรรมชาติ แม้จะป่วยบ้าง เป็นหัดบ้าง เป็นหวัดบ้าง แต่ก็ยังดี เพราะว่าทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ป้องกันโรคที่ร้ายแรงกว่าได้ และยังส่งเสริมให้กินเข้าไปอีก ให้เชื้อมันเข้าไปทำงาน อย่างนี้เรียกว่าเชื้อดี เป็นเชื้อดีที่ช่วยป้องกันเชื้อที่ไม่ดี และช่วยทำให้การทำงานของร่างกายดีขึ้น
เพราะฉะนั้น การที่เราได้สัมผัสกับเชื้อโรค ถือว่าเป็นของดี ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันในร่างกาย แต่ไม่ใช่แต่เชื้อโรคอย่างเดียว ถ้าได้เจอกับความทุกข์ เจอกับความผิดหวังอะไรต่างๆเหล่านี้บ้าง มันก็ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันความทุกข์ มีภูมิคุ้มกันโรคแล้ว ก็มีภูมิคุ้มกันความทุกข์ด้วย มันก็จะช่วยทำให้เราสามารถมีชีวิตที่ปกติสุขได้
ถ้าเด็กไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเลย เพราะพ่อแม่อนามัยจัด หรือไม่มีภูมิคุ้มกันความทุกข์เลย เพราะพ่อแม่คอยปกป้องประคบประหงม เด็กก็เติบโตมาด้วยร่างกายที่ไม่เข้มแข็ง และก็ด้วยจิตใจที่อ่อนแอ อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักเอาไว้
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 23 กันยายน 2564