แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันบุญที่สำคัญของพวกเรา ไม่ใช่เฉพาะชาวบ้านใหม่หรือชาวบ้านบนหลังเขาอย่างเดียว เป็นวันบุญสำคัญของชาวพุทธไทยทั่วประเทศเลย ทำบุญเดือนสิบมีชื่อเรียกต่างๆตามแต่ละภาค เป็นวันที่มีความหมายเหมือนกัน คือ เป็นวันที่พวกเราพร้อมใจกันมาทำบุญอุทิศให้กับพ่อแม่ บุพการี ญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปสู่ปรโลกแล้ว ท่านเหล่านั้นไปอยู่ในภพภูมิใด เราก็ไม่รู้ อาจจะอยู่ในภพภูมิที่ต้องรอรับส่วนบุญจากลูกหลาน หรือผู้ที่ยังอยู่ในโลกนี้ก็ได้
เพราะฉะนั้น วันนี้แหละเป็นวันบุญเดือนสิบ เป็นวันที่เรามาเข้าวัด มาทำบุญและอุทิศให้กับท่านผู้ที่ล่วงลับเหล่านั้น เพราะว่าเมื่ออยู่ในปรโลก สิ่งสำคัญมันก็คือบุญกุศล อันนี้ก็เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความกตัญญู พวกเราทุกคนมีพ่อมีแม่ บางคน พ่อแม่ยังอยู่ แต่บางคนพ่อแม่จากไปแล้ว และนอกจากพ่อแม่แล้ว ก็ยังปู่ย่าตายายญาติผู้ใหญ่ซึ่งล่วงลับไปก็มีไม่ใช่น้อย เราก็แสดงความกตัญญูด้วยการทำบุญอุทิศไปให้กับท่านเหล่านั้น เพื่อให้ได้เสวยสุขในปรโลก
ที่ว่าเรามาร่วมกันบำเพ็ญบุญในวันนี้ มันก็ทำให้วันนี้เป็นวันที่มีความหมาย แสดงให้เห็นว่าเรายังไม่ลืมพ่อแม่ ยังไม่ลืมบุพการี ยังไม่ลืมญาติผู้ใหญ่ ปู่ย่าตายาย รวมทั้งพี่น้องสายโลหิตที่ล่วงลับไปก่อนเรา ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ เรามีโอกาสทำบุญสร้างกุศล เราก็ทำบุญอุทิศไปให้ท่านเหล่านั้น อันนี้เป็นหน้าที่เป็นคุณธรรมของพวกเราทุกคน ที่จริงไม่ใช่เฉพาะเราชาวพุทธ ทุกคนที่เป็นมนุษย์ที่มีคุณธรรม ก็ต้องระลึกถึงบุญคุณพ่อแม่ และนึกถึงผู้มีพระคุณ บุพการี แปลว่าผู้ที่ทำความดีไว้ก่อน ส่วนใหญ่ก็คือพ่อแม่นั่นแหละ แต่ก็รวมไปถึงคนอื่นๆด้วย
เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว ก็ขอให้เราระลึกต่อไปว่า ในเมื่อบุญกุศลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกชีวิตที่อยู่ในปรโลก เพราะฉะนั้น จะให้ดียิ่งขึ้นถ้าหากว่าเราได้ขวนขวายทำความดีสร้างบุญสร้างกุศลตั้งแต่วันนี้ ในขณะที่ยังไม่ตาย ในขณะที่ยังไม่ได้ไปสู่ปรโลก เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อเราตายไปแล้ว และอยู่ในปรโลกก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ในภพภูมิใด
แต่ถ้าหากว่าเราไปอยู่ภพภูมิที่สุคติ เช่น อยู่ในสวรรค์ชั้นต่างๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องมีใครมาอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ อาหารก็ไม่ต้องส่งไปให้ เพราะว่ามีอาหารทิพย์อยู่แล้ว เทวดาในสวรรค์ชั้นต่างๆไม่ต้องรอให้ใครมาทำบุญอุทิศไปให้ เพราะว่าได้เสวยสุขอยู่แล้วในภพเหล่านั้น และที่ได้ไปเกิดเป็นเทวดาก็เพราะว่าได้ทำบุญกุศลตั้งแต่ยังเป็นมนุษย์ยังมีลมหายใจอยู่ในโลกนี้ แบบนี้ดีกว่า
สร้างบุญสร้างกุศลเสียแต่วันนี้เพื่อเป็นหลักประกันว่าบุญที่บำเพ็ญ มันจะตามไปหนุนส่งให้เป็นสุขในปรโลก หรือทำให้ไปอยู่สุคติภพ เพราะถ้าได้อยู่ภพภูมิอันเป็นสุคติแล้ว ไม่ต้องรอให้ลูกหลานมาทำบุญอุทิศไปให้ เพราะว่าสบายดีอยู่แล้ว
แต่ถ้าหากว่าไม่ทำบุญทำกุศลในเวลานี้ ในวันนี้ หรือในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ ยิ่งกว่านั้นยังทำบาปด้วย ก็คือ ไม่รักษาศีล ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ประพฤติผิดในกาม ลักขโมย พูดปด เสพสุรายาเมา รวมทั้งไปเบียดเบียนผู้อื่นต่างๆมากมาย ถ้าทำแบบนี้ บาปที่ทำ มันก็จะไปหนุนส่งให้ หรือฉุดให้ไปสู่ทุคติ ไม่ว่าจะเป็นนรก หรือว่ากลายเป็นเปรตอสุรกาย ถ้าอยู่ในปรโลกหรืออยู่ในภพภูมิแบบนั้น มีทางเดียวก็คือ ต้องรอรับส่วนบุญจากลูกหลานจากผู้ที่ยังอยู่
วันนี้เป็นวันสำคัญ เพราะว่า ตามคติความเชื่อของเรา ชาวบ้านเรา ของคนไทยเรา นรกเปิด ยมบาลอนุญาตให้สัตว์ต่างๆ ก็ที่อยู่ในทุคติ นรกก็ดี เปรตก็ดีมารับส่วนบุญ สัตว์เหล่านั้นไปอยู่ในทุคติภูมิเพราะอะไร เพราะว่าไม่ได้ทำความดี ไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศลในช่วงที่เป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นสัตว์ที่น่าสงสาร ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า บุพการี พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเรา ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติก่อนๆได้ไปอยู่ในปรโลกที่ว่านี้หรือเปล่า
แต่ว่า ตราบใดที่ยังอยู่ในปรโลกในทุคติ มันไม่มีทางที่จะได้รับส่วนบุญ นอกจากมีคนอุทิศส่วนบุญไปให้แต่ถ้าเราทำความดีสร้างบุญสร้างกุศลตั้งแต่วันนี้ บุญก็จะหนุนส่งให้ได้ไปสู่สุคติ และเมื่ออยู่ตรงนั้นแล้วไม่ต้องรอให้ลูกหลานมาอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้ ไม่ต้องไปเรียกลูกหลาน ไม่ต้องไปหลอกหลอนลูกหลานว่าอยากได้ส่วนบุญ ช่วยส่งไปให้ ไม่ต้องรอพอถึงวันเพ็ญเดือนสิบ จะได้ส่วนบุญจากลูกหลานที่มาทำบุญในวันนี้ เพราะว่าอยู่ในสุคติภพ มันสบายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทวดาหรือเป็นมุนษย์ อย่างนี้ดีกว่า
ก็ให้วันบุญเดือนสิบนอกจากเป็นวันที่ระลึกผู้ที่ล่วงลับที่จากไป เป็นวันที่เราทำบุญให้กับท่านเหล่านั้นแล้วก็ยังเป็นวันที่ระลึกหรือเตือนใจว่าทำความดีเสียแต่วันนี้ สร้างบุญสร้างบุญกุศลเสียแต่วันนี้ ดีกว่า เพื่อว่าเมื่อได้ไปสู่ปรโลก ก็จะได้ไปสู่สุคติ เพราะเมื่อได้ไปปรโลก ก็จะได้ไปสู่สุคติ เพราะบุญที่ได้บำเพ็ญหนุนส่งแล้วก็จะได้ไม่ต้องไปรอให้ใครทำบุญอุทิศไปให้
ขณะเดียวกันก็ควรจะเป็นเครื่องเตือนใจคนที่ยังมีพ่อมีแม่ด้วย ถือว่าโชคดี หรือว่ามีญาติผู้ใหญ่อยู่ ควรใช้โอกาสนี้ในขณะที่ท่านยังอยู่ มีลมหายใจ ทำความดีสร้างบุญสร้างกุศลให้กับท่าน ดูแลท่าน เลี้ยงดูท่าน เอาใจใส่ท่าน อันนี้ดีกว่า ดีกว่าที่จะรอให้ท่านตายไปแล้วถึงค่อยมานึกถึง ถึงค่อยไปทำบุญอุทิศให้ ทำความดีสร้างบุญสร้างกุศลให้กับท่านในขณะที่ท่านยังมีลมหายใจ ในขณะที่ท่านยังมีชีวิต ยังมีสุขภาพดี ถ้าเราทำอย่างนี้ มันก็เป็นการกตัญญูที่ประเสริฐ
อย่าไปรอแสดงความกตัญญูเมื่อท่านได้ล่วงลับไปแล้ว วิสัยของชาวพุทธเรา ในขณะที่บุพการี พ่อแม่เรายังอยู่เราทำความดีได้หลายอย่าง บำเพ็ญบุญกุศลได้หลายอย่างให้กับท่าน เพียงแค่ทำตัวไม่ให้เป็นภาระ ไม่ให้ท่านเป็นห่วง หรือว่าวิตกกังวล นี่ก็ถือว่าทำบุญให้กับท่านแล้ว เพราะเป็นการต่ออายุให้ท่านถ้าทำตัวเกกมะเหรกเกเร กินเหล้าเมายา เล่นการพนัน เป็นหนี้เป็นสินจนพ่อแม่เป็นห่วงเป็นกังวล อันนี้ถือว่าทำบาปให้ท่านแล้ว มิหนำซ้ำเกิดท่านตายไป จิตสุดท้ายระลึกถึงลูก เป็นห่วงลูก ผิดหวังในตัวลูก ความคิดแบบนี้แหล่ะที่จะฉุดท่านให้ไปสู่อบาย สู่ปรโลก สู่ทุคติ ไม่ได้ไปเสวยสุขในสัมปรายภพ
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะช่วยพ่อช่วยแม่ ก็ดูแลท่านตั้งแต่ยังมีลมหายใจอยู่ ดูแลท่านตั้งแต่วันนี้ เดี๋ยวนี้ อย่าไปคิดถึงการทำบุญให้ท่านเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ไม่ว่าจะในโอกาสใดก็ตาม วันสงกรานต์ก็ดี วันบุญเดือนสิบก็ดี จะไปรอทำบุญตอนนั้น มันสู้ทำบุญตอนนี้ในขณะที่ท่านมีลมหายใจอยู่ไม่ได้
เพราะฉะนั้น ก็ให้เราระลึกมาถึงวันนี้ วันบุญเดือนสิบ เราควรจะทำอะไรที่จะเป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเราเอง กับพ่อแม่ บุพการีที่ยังมีชีวิตอยู่ และทั้งที่ล่วงลับไป ก็ขออนุโมทนาญาติโยม พ่อออกแม่ออกทุกคนที่มาร่วมกันทำบำเพ็ญบุญกุศลในวันนี้ เราไม่ได้มาวัดกันมานานแล้วเพราะว่าโควิดไม่อำนวย แต่วันนี้เป็นวันสำคัญก็ขวนขวายมากันด้วยความระมัดระวังตัว ไม่ให้โควิดมาติดมาระบาด ในขณะเดียวกันถือโอกาสได้ทำบุญสร้างกุศลเหมือนกับลูกผู้มีความกตัญญู
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 21 กันยายน 2564