แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ตามหมู่บ้านในชนบทแไม่ว่าจะเป็นภาคไหน อีสาน เหนือ กลาง ใต้ ภาพที่เราเห็นเป็นประจำคือเป็ดไก่และนอกจากเป็ดไก่แล้ว ยังมีสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เห็นบ่อยเรียกว่าอยู่ประจำหมู่บ้านเลยคือหมา หมาส่วนใหญ่ มีเจ้าของ มีคนเลี้ยง แต่ถ้าเป็นเมือง มันจะมีหมาจรจัด หมาข้างถนนเย่อะ ไม่มีเจ้าของแล้วกลายเป็นภาระ
อย่างที่อเมริกามีหมาจรจัดถึง 2 ล้านตัว หมาพวกนี้จะไม่มีโอกาสมาเดินเล่นตามถนนอย่างกรุงเทพฯหรือว่าชัยภูมิ ถูกจับหมด และถ้าเกิดว่าไม่มีใครรับไปเลี้ยงก็จะถูกกำจัดเรียกว่าการุณยฆาต ใช้ศัพท์สวยเลย แต่ความหมายคือการฆ่า เพราะว่า หมาพวกนี้ถ้าปล่อยให้เพ่นพ่านตามท้องถนน ก็กลัวว่ามันจะแพร่เชื้อโรคโดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้า โรคหมาบ้า ก็เลยต้องกำจัด
แต่ก่อนจะกำจัด เขาก็จะเอามาอยู่ในสถานพักพิงก่อน เพื่อรอว่ามีคนรับไปเลี้ยงหรืออุปการะ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครรับไปเลี้ยง เพราะว่าหมาพวกนี้มันโทรม มันสกปรก มันไม่เชื่องเพราะว่าไม่มีใครสอนมันเพราะฉะนั้นก็ไม่มีคนรับไปเลี้ยง พอไม่มีคนรับไปเลี้ยง ถึงเวลาหนึ่งก็ถูกกระทำการุณยฆาต
มีหลายคนที่เขาสงสารหมาพวกนี้ อยากจะช่วยหมาเหล่านี้ จะทำอย่างไรดี หมาจรจัดที่ถูกขังอยู่ในสถานพักพิง เขาพบว่าถ้าหากว่ามีคนมาอุปการะ มันก็รอดตาย แต่จะทำอย่างไรให้คนมาอุปการะ รับไปเลี้ยง มันก็ต้องเป็นหมาที่มีคนดูแล ทำความสะอาด ให้อาหารให้ยา จะได้ไม่สกปรกไม่มอมแมม แล้วก็ไม่อ่อนแอ และข้อที่สำคัญก็คือต้องสอนให้มันรู้จักคำสั่งง่ายๆ พูดง่ายๆคือรู้ภาษาคนบ้าง มันจะได้เชื่อง
เช่น ถึงเวลากินก็กิน ยังไม่ถึงเวลากินก็ให้รอ แล้วก็ไม่เล่นพ่าน แต่คราวนี้จะหาคนมาสอนมาดูแลหมาพวกนี้ จนกระทั่งมันดูน่ารับไปอุปการะเลี้ยงดูได้อย่างไร เพราะว่าจะทำอย่างนี้ได้ต้องมีเวลา แล้วก็ทำโดยที่ไม่มีค่าตอบแทนด้วย ก็มีคนหนึ่งนึกขึ้นมาได้ว่า มีคนกลุ่มหนึ่งที่จะทำงานนี้ได้ คือใคร คือคนในเรือนจำ
คนในเรือนจำมีเวลาเยอะ แล้วก็สามารถที่จะดูแลหมาโดยที่ไม่เรียกร้องค่าตอบแทน ก็เลยไปติดต่อเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐแมสซาชูเซตส์ อเมริกา ปรากฏว่าเขาซื้อความคิดนี้ ก็เลยประกาศรับสมัครผู้ต้องขังว่า ใครอยากจะรับหมาไปเลี้ยงบ้างในระยะเวลา 8 อาทิตย์ สองเดือน
ก็มีหลายคนรับอาสาดูแลหมา เพราะว่าหลายคนเหงา เบื่อ เซ็ง อยู่ในคุกไม่มีอะไรทำ ดูแลหมาดีกว่า อย่างน้อยก็มีเพื่อน เขาก็เลยส่งหมาไปให้นักโทษเหล่านี้ดูแล ดูแลทำอะไรบ้าง ทำความสะอาด ให้ยามัน ให้อาหารมัน แล้วก็พามันออกไปเดินเล่นไม่งั้นมันหงอยมันเฉา แล้วก็ต้องรู้จักสอนให้มันรู้จักคำสั่งพื้นฐานง่ายๆ มันจะได้ทำสร้างภาระให้กับผู้อุปการะ
ปรากฏว่า พอโครงการนี้เริ่มไปไม่นาน ผู้ต้องขังมีความสุขมากเลย หมาก็มีความสุขอยู่แล้วที่มีคนดูแล แต่ว่าคนที่รับหมาไปดูแลก็ไม่คิดเลยว่าจะมีความสุขที่ได้ดูแลหมา หลายคนบอกว่านึกว่าเราจะช่วยหมาไม่ให้หมามันตายเพราะสงสารมันมาก ถ้าไม่เอามาดูแลเอามาสอนมัน มันก็ตายแน่ ถูกการุณยฆาต อยากจะช่วยให้มันมีผู้อุปการะ ก็เลยปลุกปล้ำกับมัน สอนมัน พามันไปเดินเล่น แล้วก็ต้องอดทนกับหมาบางตัวที่เกเร
หลายคนคิดว่าจะช่วยหมาไม่ให้ตาย แต่ปรากฏว่าหมากลับช่วยเขา ช่วยเขาให้มีความสุข แล้วก็หมาจำนวนมากทำให้จิตใจเขาอ่อนโยน เพราะมันน่ารัก ถึงแม้ว่าใหม่ๆมันจะดูเกเร ไม่น่าคบเลย แต่ว่าพอดูแลไปๆ มันเป็นหมาที่ดีเลย เป็นหมาที่เชื่องเป็นหมาที่น่ารัก จิตใจก็อ่อนโยน จิตใจคนดูแลก็อ่อนโยน
หลายคนยังได้คิดว่า ที่คิดว่าเราลำบากกว่าใคร อยู่ในคุก ที่แท้ยังมีหมาที่ลำบากกว่าเราอีก พวกนี้ร่อนเร่ จรจัด ไม่มีกิน เห็นหมามันลำบาก แล้วเกิดความสงสาร ได้คิดว่า นี่เรายังไงก็สบายกว่าหมา ยังมีกินอิ่มนอนอุ่น
และสิ่งที่หลายคนนึกไม่ถึงว่า มันช่วยขัดเกลาจิตใจของคนเหล่านั้น เจ้าตัวพบว่า เราอดทนมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น จากการเลี้ยงหมา เพราะว่าหมาพวกนี้ไม่เคยรู้จักคำสั่ง มันไม่เคยมีใครสอน กว่าจะสอนให้มันเชื่อง กว่าจะสอนให้รู้ภาษาคนบ้าง ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความอดทน และความอดทนที่เกิดขึ้นทำให้นักโทษเหล่านี้ใจเย็น
หลายคนพอออกจากคุกแล้วเปลี่ยนไป รับผิดชอบกับหน้าที่การงานมากขึ้น ไม่ค่อยเกกมะเหรกเกเรเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็ใจเย็น ไม่วู่วาม ไม่ใจร้อน พอกลับไป ก็สามารถปรับตัวเข้ากับครอบครัว เข้ากับสังคมได้ แล้วก็ไม่กลับไปเข้าคุกอีกเลย หลายคนขอบคุณหมา
คนที่ดูแลหมาขอบคุณหมา เพราะว่าหมาช่วยขัดเกลาให้ตัวเองเปลี่ยนไป นอกจากมีความสุข หายเหงาระหว่างอยู่ในคุกแล้ว กลับไปสู่โลกภายนอก สามารถอยู่กับผู้คนได้ อดทนได้มากขึ้น
อันนี้มันเป็นความรู้สึกคล้ายๆกับคนที่สมัครเป็นจิตอาสาดูแลเด็กเล็กที่บ้านปากเกร็ด นนทบุรี เมืองไทยมีเด็กเล้กที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง หรือ พ่อแม่เลี้ยงไม่ไหว เพราะว่ายังหนุ่มยังสาวอยู่ ยังเป็นเด็กอยู่ ก็มาให้บ้านปากเกร็ดเลี้ยง มีตั้งแต่เด็กเล็กทารกแบเบาะจนถึงเด็ก 8-9 ขวบ พวกนี้ต้องการพี่เลี้ยง ลำพังเจ้าหน้าที่ดูแลไม่ไหว ต้องอาสาสมัครพี่เลี้ยงไปอุ้ม ไปเล่น ไปคุย
หลายคนสงสารเด็ก อยากจะไปช่วยเด็ก ปรากฏว่า ได้พบความจริงว่า เด็กต่างหากที่ช่วยตัวเอง บางคนเป็นไมเกรน กินยาเป็นประจำ แต่พอไปเป็นจิตอาสาดูแลเด็กอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แค่ 2-3 อาทิตย์ ก็ลืมกินยาไปเลย ถามว่าทำไมถึงลืมกินยา เพราะว่ามันหายปวด ทำไมถึงหายปวด เพราะว่ามีความสุขที่ได้ดูแลเด็ก
บางคนเป็นผู้บริหารองค์กร หรือเป็นผู้จัดการ ใจร้อน ชอบด่าว่าลูกน้อง พอไปเป็นจิตอาสาตามภรรยาไป ไม่นานจิตใจเยือกเย็นมากขึ้น อดทนกับลูกน้องมากขึ้น พูดจานุ่มนวลมากขึ้นจนลูกน้องแปลกใจว่าทำไมเจ้านายเปลี่ยนไป เจ้าตัวพบว่าเด็กพวกนี้เขามาสอนเรา เพราะว่าเด็กบางคนก็ดื้อ เพราะว่าไม่มีคนดูแลมาตั้งแต่เล็ก งอแง คนที่ดูแลต้องใจเย็น ความใจเย็นก็ทำให้คุณภาพจิตเปลี่ยนไป
ความรักเด็กทำให้ต้องใจเย็น ต้องอดทนแล้ว ก็พออดทน ใจเย็น เวลากลับไปทำงาน ไปเจอลูกน้อง ความใจเย็นก็ยังอยู่ มันก็ทำให้พฤติกรรม ความสัมพันธ์กับลูกน้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
เพราะฉะนั้น ในการช่วยคน หรือช่วยหมานี่ สุดท้ายก็พบว่า คนหรือหมาที่ช่วยเรา อันนี้เป็นความจริงที่หลายคนสัมผัสได้ จากการที่ได้ไปทำกิจกรรมเหล่านี้
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 12 กันยายน 2564