แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันคล้ายมรณภาพของหลวงพ่อคำเขียน ถึงแม้ว่าท่านจะละสังขารไป 7 ปีแล้ว แต่ท่านก็ยังอยู่ในใจเรา เมื่อใดที่เรานึกถึงท่าน ท่านก็ยังอยู่กับเรา อยู่ที่นี่มีอะไรมากมายที่ชวนให้นึกถึงหลวงพ่อ เพราะว่าเกือบ 40 ปีที่ท่านอยู่ที่นี่ ท่านได้ทำอะไรต่างๆมากมายให้กับที่นี่ ไม่ว่าจุดไหนของสุคะโต ก็จะมีร่องรอยที่ชวนให่นึกถึงท่าน
อย่างเช่น ศาลาหลังนี้ อาตมาก็ทันตอนที่เริ่มก่อสร้างได้ใหม่ๆ ก็มีผลงานของท่านฝากเอาไว้ ที่ศาลาหลังนี้ ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีการปูพื้นข้างล่าง จะฉันก็ฉันข้างบ่น พิธีการต่างๆก็จัดข้างบน เวลาเห็นสะพานก็นึกถึงท่าน เพราะว่าสมัยก่อนสะพานไม่ได้เป็นแบบนี้ เรียกว่าต้องไปขนเอาปีกไม้มาต่อๆกันให้เป็นสะพานคนเดินข้าม หลวงพ่อเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนหนึ่ง ถึงแม้สะพานดีขึ้นมากแล้ว เวลาอาตมาเดินข้ามสะพานนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่าน
ต้นไม้ป่าร่มครื้น อดไม่ได้ที่จะนึกถึงท่านเช่นกัน เพราะว่าท่านปลูกต้นไม้เอาจริงเอาจังมาก ไม่ว่าไฟจะเผาผลาญทำลายไปอย่างไร ท่านก็ไม่ทิ้งไม่ลดละที่จะปลูกซ่อมขึ้นมา ที่จริงแม้กระทั่งหนอนที่บนศาลาก็ยังอดนึกถึงท่านไม่ได้ หลวงพ่อลงมือปูอิฐตัวหนอนเองเลย ทั้งที่ตอนนั้นท่านก็อายุมากแล้ว 60 กว่า หลวงพ่อพยายามทำเองหลายอย่าง แล้วก็ไม่ค่อยจะรบกวนลูกศิษย์เท่าไหร่
แม้กระทั่งงานต้องที่ใช้แรงเช่น ปูตัวหนอน ท่านก็มาลงมือทำ มีลูกศิษย์มาช่วยด้วย อะไรที่ท่านทำเองได้ท่านก็ทำ ไม่ค่อยรบกวนลูกศิษย์ ทั้งที่ลูกศิษย์ก็มีกำลังวังชามากกว่าท่าน เพราะว่าท่านอยากให้ลูกศิษย์มีเวลาภาวนาเยอะๆ เรื่องเสนาสนะท่านก็อาสาทำเอง สมัยที่อาตมามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆปี 26-27 เรียกว่าเรื่องเสนาสนะแม้กระทั่งเรื่องป่าเองแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย
มีคราวหนึ่งสมัยที่หอไตรยังอยู่ข้างบน อาตมาก็พักอยู่ตรงนั้นแหละ ตรงหอไตรมีทางเข้าออกป่ามีทางเล็กเข้าออกจากป่า วันหนึ่งเห็นหลวงพ่อออกมาจากป่าพร้อมกับเณรตัวเล็กๆหลายคน ก็แปลกใจว่าหลวงพ่อทำอะไร ท่านบอกว่าพาเณรไปดับไฟในป่า อาตมาไม่รู้เรื่องเลย ทั้งที่ตรงนั้นมันใกล้จุดที่เกิดไฟไหม้ป่า แต่ไฟคงไม่ลามมารุนแรง และท่านก็ไม่ได้มาเรียกให้ไปช่วยดับ เพราะเห็นอาตมากำลังเดินจงกรมอยู่ก็ให้ปฏิบัติไป
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านทำ มันก็ยังมีร่องรอยมีหลักฐาน พอเห็นก็อดนึกถึงท่านไม่ได้ ท่านก็เลยไม่ได้ไปไหน ก็ยังอยู่ในใจของลูกศิษย์ที่ยังมาทันเห็นท่านทำอะไรต่ออะไรมากมายที่นี่ แต่ท่านไม่ได้ทำนั่นทำนี่อย่างเดียว ท่านอยู่ให้เราเห็นด้วย และก็เย็นให้เราสัมผัสได้ ความเมตตา ความสงบเย็น เป็นสิ่งที่ลูกศิษย์หลายคน หรือผู้ที่ได้มารู้จักกับท่าน ได้สัมผัสและประทับใจ
อาตมาก็โชคดีเหมือนกันที่ได้มาเห็นได้มารู้จักกับหลวงพ่อสมัยที่ท่านยังไม่มีชื่อเสียงมาก ยังไม่ได้เป็นที่เคารพนับถือว่าเป็นอาจารย์กรรมฐานชื่อดัง ได้มาเห็นได้มาอยู่กับท่านสมัยที่คนยังเข้าใจท่านผิดเยอะ สมัยที่ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือถ้าย้อนหลังไปกว่านั้นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เคยมาลาดตะเวนแถวนี้ก็เคยระแวงท่าน
ใช่แต่เท่านั้นแม้กระทั่งญาติโยมทั้งในและนอกหมู่บ้านที่ไม่เข้าใจท่านก็มีเยอะ มีการต่อว่า มีการตำหนิ มีการวิพากษ์วิจารณ์ หรือแม้กระทั่งคุกคามท่าน แต่ท่านก็สงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว ไม่มีความโกรธแค้นหรือทุกข์ร้อนกับการกระทำเหล่านั้นเลย
อันนี้ก็เป็นความเย็นที่ลูกศิษย์ลูกหาสัมผัสได้ ซึ่งก็ช่วยได้เวลาลูกศิษย์เกิดความรุ่มร้อนขึ้นมา เพราะว่าถูกกระทบ ถูกตำหนิ ถูกต่อว่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือว่าเจออนิฏฐารมณ์ หรือโลกธรรมฝ่ายลบถ้านึกถึงท่าน มันก็ช่วยทำให้ได้สติขึ้นมา แทนที่ใจจะรุ่มร้อนหวั่นไหว ใจก็สงบเย็นและนิ่งได้ การระลึกถึงท่านอย่างนี้อาตมาว่ามีประโยชน์
การระลึกถึงท่านว่าท่านทำอะไรก็ดีอยู่ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้เกิดความตั้งใจจะเจริญรอยตามท่าน อย่างเช่น ปลูกป่า ท่านรักษาป่าลูกศิษย์ลูกหานึกถึงสิ่งที่ท่านทำแล้ว ก็อยากจะทำอย่างนั้นบ้าง ที่เรามีปลูกป่า ที่เรามีการเดินธรรมยาตราเพราะว่านึกถึงสิ่งที่ท่านทำ นึกถึงสิ่งที่ท่านได้เพียรพยายาม
แต่นอกจากนึกถึงสิ่งที่ท่านทำแล้ว ถ้าเรานึกถึงสิ่งที่ท่านเป็นด้วย ความเมตตา ความสงบเย็น ความมั่นคงไม่หวั่นไหว ถ้านึกถึงท่านมันก็จะเป็นมงคลแก่เรา ในยามที่เราใจกระเพื่อม ในยามที่เรารุ่มร้อน ในยามที่เป็นทุกข์ จนอยู่ไม่สุขเพราะถูกกระทบ เมื่อนึกถึงความเย็นของท่าน นึกถึงความสงบของท่าน ก็ทำให้ ได้สติขึ้นมาว่านี่คือสิ่งที่ควรทำ
ถึงแม้ว่าจะทำได้ไม่ดีพอ หรือว่าอาจจะเผลอตีโพยตีพายโวยวาย หรือว่า ตอบโต้ด้วยความรุนแรงด้วยถ้อยคำ แต่พอระลึกได้ถึงความเย็นของท่าน ความสงบนิ่งของท่าน มันก็ช่วยทำให้อย่างน้อยๆมีความตั้งใจว่าต่อไปจะทำให้ดีขึ้น ทำให้เร็วขึ้น ถ้าระลึกได้บ่อยๆ ต่อไปก็จะได้สติไว ไม่ผลุนผลันพรันแล่น ตอบโต้ไปตามสิ่งที่มากระทบ
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ลูกศิษย์ลูกหาที่ได้ทันพบท่าน สัมผัสกับท่านยประจักษ์ได้ แต่ว่าก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีโอกาสพบท่าน อาจจะรู้จักท่านผ่าน CD ผ่านเทปธรรมะ หรือผ่านหนังสือ ไม่ได้เห็นว่าท่านทำอะไร สิ่งที่ท่านทำให้ดู อยู่ให้เห็น เย็นให้สัมผัสได้ ไม่ปรากฏไม่ประจักษ์ เพราะไม่ได้พบกับท่านเป็นส่วนตัว แต่อย่างน้อยก็ให้ระลึกถึงคำสอนของท่าน
เวลาทุกข์เวลาโกรธ อย่าปล่อยให้ใจหมดเนื้อหมดตัวไปกับสิ่งเหล่านั้น ให้นึกถึงคำสอนของท่าน โดยเฉพาะอย่างที่ว่า เห็น ไม่เข้าไปเป็น มันช่วยทำให้ได้สติ และช่วยทำให้ถอนใจออกมาจากความทุกข์ ออกจากความโกรธได้ เวลาคนเราโกรธ เวลาทุกข์ ใจมันงอแง ใจมันปั่นป่วน มันรุ่มร้อน
มันอาจจะยากที่จะนึกถึงคำสอนของใครแม้กระทั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า มานึกถึงได้ก็หลังจากที่ทุกข์ไปเรียบร้อยแล้ว หรือว่าอาละวาดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังดี เพราะว่าถ้าเรานึกถึงบ่อยๆ มันก็จะไวขึ้นๆ จนกระทั่งขณะที่เรากำลังทุกข์ พอนึกถึง เห็น อย่าเข้าไปเป็น มันก็ถอนจิตออกมาดูออกมาเห็น ไม่เข้าไปเป็น หรือคำสอนที่ว่าในทุกข์มีความไม่ทุกข์ ทุกข์มันช่วยทำให้ไม่ทุกข์ ให้หมั่นนึกเอาไว้ เวลาทุกข์ เวลาโกรธ
ใหม่ๆมันก็นึกไม่ออกหรือนึกได้ก็หลังจากที่ทุกข์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ต่อไปเมื่อเราพยายามระลึกถึงอยู่บ่อยๆ มันก็จะเร็วขึ้นๆ จนกระทั่งเห็นทุกข์ที่มันกำลังปรากฏอยู่ เช่น ความโกรธที่กำลังแสดงตัวอยู่ แล้วก็สามารถที่จะถอนจิตออกมาได้ หรือวางระยะห่างจากมันได้
อันนี้คือสิ่งที่ทุกคนทำได้ และควรทำด้วย ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ที่เคยรู้จักท่าน หรือว่าไม่เคยพบปะท่านส่วนตัว เพราะฉะนั้นถ้าเราแบบนี้มันจะเป็นมงคลต่อชีวิตเรา เพราะจะช่วยทำให้เราห่างไกลจากความทุกข์มากขึ้น และนึกถึงสิ่งที่ท่านทำก็ดีอยู่ ระลึกถึงสิ่งที่ท่านเป็นก็มีคุณค่า แต่ถึงแม้จะไม่เห็นว่าท่านทำอะไรไม่ได้สัมผัสกับความเย็นที่ท่านเป็น แต่ว่าระลึกถึงคำสอนของท่าน มันก็ช่วยเราได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์ที่รู้จักท่านเป็นส่วนตัว หรือว่าไม่เคยรู้จัก แต่รู้จักผ่านตัวหนังสือผ่าน CD
ถ้าทำอย่างนี้ได้ก็เหมือนกับว่าท่านยังอยู่กับเรา ไม่ได้ไปจากเราและก็ช่วยคุ้มครองอารักขาเราตลอดเวลา ไม่ได้อารักขาเราเพราะว่าเราบำเพ็ญอามิสบูชา แต่เป็นเพราะว่าเราปฏิบัติบูชาด้วยการเจริญสติ ทำความรู้สึกตัว แล้วก็ระลึกถึงคำสอนของท่านอยู่บ่อยๆ มันก็ช่วยทำให้ได้สติมากขึ้น เมื่อใดก็ตามที่เรามีสติ มีความรู้สึกตัว มีสติช่วยอารักขา มีความรู้สึกตัวช่วยดูแลจิตใจของเรา มันก็เหมือนกับว่าท่านได้อยู่ ช่วยอารักขาเรา
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2564