แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เนลสัน แมนเดลา เป็นอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็นรัฐบุรุษระดับโลกทีเดียว เพราะว่าช่วยนำพาประเทศให้หลีกพ้นสงครามกลางเมืองระหว่างคนต่างผิวสีให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีของคนต่างผิวต่างสี อย่างเท่าเทียมกัน
ก่อนที่เขาจะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ชีวิตเขาก็ลำบากมาก ได้รับความอยุติธรรมมากมายหลายอย่างเพราะว่าเป็นคนผิวดำ เขาติดคุก 27 ปี ช่วงที่ติดคุกก็ลำบากยากแค้นมาก ถูกจับขังไว้ในเกาะ ไม่มีโอกาสได้พบญาติพี่น้องเท่าไร ปีหนึ่งมีสิทธิ์ได้พบคนที่มาเยี่ยมแค่ 2 คน มีสิทธิ์ได้รับจดหมายจากภายนอกแค่ 2 ฉบับ
เป็นภาวะที่โดดเดี่ยว อ้างว้างมากมาย แถมผู้คุมก็โหดร้ายทารุณ ปฏิบัติกับนักโทษเหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ ติดคุก 27 ปีโดยที่ได้รับความยากลำบากมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ว่าเขาก็สามารถที่จะรักษาใจให้เข้มแข็ง จนกระทั่งได้รับอิสรภาพ
ช่วงที่เขาอยู่ในคุก แม้จะมีความยากลำบาก ต้องทำงานหนักหลายอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่มีความหมายกับเขามาก เป็นกิจกรรมที่เขาขาดไม่ได้ นั่นก็คือ การทำสวนผัก ตอนที่ทำใหม่ๆ เนื้อที่ก็มีไม่มาก กว้างไม่ถึงเมตร ยาวก็ 10 เมตรกว่าๆ ทำในพื้นที่คุก ดินก็แห้งแข็ง เขาก็พยายามปรับปรุงดิน ทำวันละนิดวันละหน่อย แต่ก่อนทำด้วยมือ ไม่มีพรั่วไม่มีจอบ
ผ่านไป 1 ปีจึงได้พรั่วได้จอบมาช่วยขุดดิน แล้วเขาก็ลงเมล็ดพันธุ์ต่างๆ เขาดูแลอย่างดีทุกวันๆ ผักที่ปลูกก็เป็นของที่คนชอบ เช่น แครอท พริก หอมแดง ปลูกทุกวันๆ ตอนหลังย้ายไปที่อื่น เขาก็ยังไม่ทิ้งการปลูกผัก
ตอนหลังก็ได้พื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยแค่ไหน เขาก็จะไม่ทิ้งการมาดูแลผัก หรือสวนที่เขาดูแลวันละ 2 ชั่วโมง เช้ากับบ่าย ถามว่าทำไมถึงมีความหมายกับเขามาก เพราะว่าทำให้เขามีเรี่ยวมีแรงมีกำลังใจ
เคยมีฝรั่งมาสัมภาษณ์เขา เกี่ยวกับชีวิตของเขาในคุก เวลาเขาพูดถึงสวนผักของเขา เขาจะยิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบานเลยทีเดียว เพราะว่าเขารู้สึกมีความสุขที่ได้พูดถึงสวนผักของเขา มันเป็นความสุขที่เขาได้สัมผัสตลอดเวลาที่ทำสวน เขาบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เขาได้ปลดปล่อยจิตใจ ปลดปล่อยจิตใจจากอะไร จากความทุกข์ จากความลำบากในคุก
เพราะว่าในคุกแทบจะ 24 ชั่วโมง มันชวนให้หดหู่ ชวนให้คับแค้นได้ง่าย แต่ว่าพอเขาได้มาทำสวน เหมือนกับเขาได้ปล่อยวางความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง เรียกว่าลืมความยากลำบากต่างๆที่เจอ สวนก็เลยเหมือนที่ฟื้นฟูจิตใจของเขา จะเรียกว่าเป็นที่พักใจก็ได้ เพราะว่าถ้าไม่ได้ทำสวน จิตใจก็จะไปจมอยู่กับปัญหา แม้จะได้นอนแม้จะได้พัก แต่ว่าก็พักแค่กาย แต่ใจก็เหมือนไม่ได้พัก
เพราะว่าคิดถึงความคับแค้นที่ได้รับ หรือว่าบางทีก็ห่วงลูกห่วงภรรยาที่ไม่ได้เจอหน้ากันเลยเป็นสิบๆปี นอกจากเวลาที่เขามาเยี่ยมได้แค่ปีละครั้ง การที่เขาได้ทำสวน ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา มันเป็นช่วงเวลาที่เขาได้หลบหลีกความทุกข์ใจ เพราะว่าถ้าปล่อยใจเฉยๆไม่ทำอะไรเลย ใจก็จะคิดโน่นคิดนี่ ทำให้เครียด ทำให้ท้อแท้ ทำให้หมดไฟ
ตอนหลังพอมีคนมาสัมภาษณ์เขาเรื่องนี้ คนสัมภาษณ์เองบางทีก็เล่าเรื่องชีวิตให้เขาฟังว่า เขามีความเครียด มีความทุกข์ แมนเดลาก็แนะนำคนที่มาสัมภาษณ์ว่า ให้รู้จักหาสวนของเธอให้เจอ เป็นคำแนะนำที่มีค่ามาก หาสวนของเธอให้เจอ เป็นคำแนะนำที่มีคุณค่ามาก หาสวนให้เจอหมายถึงอะไร ก็หมายถึงหากิจกรรมที่จะทำให้เรามีชีวิตชีวา
เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราวางความทุกข์ยากต่างๆที่เจอมาตลอดทั้งวัน อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราได้มีหลีกหนี บรรยากาศที่มันหดหู่ หรือว่าโหดร้ายก็ได้ เป็นเพราะว่าแมนเดลามีสวนผัก มันทำให้เขามีความหวังอยู่เสมอ แม้ว่าจะถูกกระทำย่ำยีอย่างไร ใจก็ไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง เพราะว่ามีที่ๆเขาจะได้เติมพลัง แล้วก็รักษาความใฝ่ฝันเอาไว้ได้
เขาใฝ่ฝันที่จะให้ประเทศมีประชาธิปไตย มีความเคารพกันระหว่างคนสีผิว ติดคุกมาเกือบ 30 ปีก็ยังไม่ทิ้งความใฝ่ฝันนี้ เพราะว่ามันมีสิ่งที่ช่วยบำรุงใจเขา สวนผักนี้ก็เป็นเหมือนกับสถานที่ที่เติมความสุขให้เขา เติมพลังใจให้เขา เห็นต้นไม้ เห็นผักที่เติบโต ก็ทำให้เขามีชีวิตชีวา เพราะได้เห็นสิ่งที่สดชื่นงดงาม
ในยามนี้ยุคโควิดผู้คนมีความทุกข์มาก หลายคนก็ทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล ทำงานเรียกว่าทุกวันแทบไม่ได้หยุด คนไข้ก็มาก ผู้ป่วยก็เยอะ อาสาหลายคนก็ทำงานไม่ได้หยุดเลยหามรุ่งหามค่ำ บางทีเจอความทุกข์ของผู้คนแล้วจิตใจมันก็ห่อเหี่ยว แต่ถ้าหากว่าเรารู้จักมีเวลาพักบ้าง ไม่ใช่แค่พักกาย พักใจด้วย พักใจด้วยการหากิจกรรมบางอย่างทำ ที่มันช่วยเติมพลังเติมความสุขให้กับจิตใจ ให้กลับมามีชีวิตชีวา
อาจจะไม่ใช่สวนอย่างแมนเดลาก็ได้ แต่ว่าถ้าทำ บางคนอาจจะชอบก็ได้ ปลูกผักปลูกต้นไม้ทุกวัน หรือว่าวาดรูป ปักผ้า หรือว่าเล่นดนตรี ไม่ได้ให้ใครฟัง ให้ตัวเองฟัง ถ้าหากรู้จักปลีกเวลาหากิจกรรมที่เราชอบ มันก็จะทำให้เรามีความสุข เพราะว่าได้ปล่อยวางความทุกข์ต่างๆ ความเหนื่อยยากลำบากต่างๆที่เจอมาทั้งวัน แล้วก็ให้ใจได้พักแทนที่มันจะคิดแต่เรื่องงานเรื่องการก็ได้
มาอยู่กับสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เรารัก สิ่งที่ทำให้เราเกิดความสดชื่นเบิกบาน แต่ละคนก็มีกิจกรรมที่ชอบอยู่แล้ว บางคนรู้สึกว่าจะได้พลังจากการเล่นแสตมป์ บางคนอาจจะได้พลังจากการวาดรูป อันนี้เรียกว่าสวนเป็นสวนในความหมายที่แมนเดลาพูดถึง ถ้าเรารู้จักหากิจกรรมที่เป็นพื้นที่หรือสวนที่เติมพลังให้กับเรา ก็ทำให้เราสามารถที่จะมีเรี่ยวมีแรงมีชีวิตชีวาทำงานต่อไปได้
เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้พักจากอารมณ์ต่างๆที่ทำให้เศร้าหมอง เพราะบางคนไม่มีอะไรทำก็เปิดโทรศัพท์ดูข่าว เจอข่าวคราวต่างๆเกี่ยวกับโควิดก็หดหู่สิ้นหวัง ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ใจก็แย่ ร่างกายก็เสื่อมโทรม แต่ว่าวางเรื่องเหล่านี้ลงมาทำสิ่งที่เราชอบ อาจจะออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาก็ได้ เท่าที่มันจะทำได้ในเวลานี้
หรือไม่เช่นนั้นก็กลับมาที่ลมหายใจ ลมหายใจก็เป็นสวนได้เหมือนกัน สวนแห่งความสุขที่ทำให้ใจสงบ ทำให้ใจหลีกเร้นจากความวุ่นวาย บางทีสวนอยู่ที่ใจเรา ไม่ได้อยู่ที่ข้างนอก ไม่ได้อยู่ที่กิจกรรมก็ได้ อยู่กับความรู้สึกตัว อยู่กับสติ มันก็ช่วยเติมพลังให้จิตใจสดชื่นเบิกบานได้
ในยามนี้สำคัญมาก อย่างที่แมนเดลาแนะนำฝรั่งที่มาสัมภาษณ์ว่า หาสวนของเธอให้เจอ เป็นคำแนะนำที่เหมาะมากสำหรับผู้คนในยุคนี้ โดยเฉพาะพวกเรา หาให้เจอ แล้วก็ให้เวลากับสิ่งนั้นทุกวันๆ ถ้าเป็นการทำอะไร มันดีกว่าการไปเสพ ดูหนังฟังเพลงก็ยังไม่ดีเท่ากับการทำบางอย่างที่สร้างสรรค์ ปลูกต้นไม้เห็นต้นไม้โต ปลูกผักเห็นผักงดงาม มันก็บำรุงใจ เหมือนกับน้ำชโลมใจได้ ทำให้มีเรี่ยวมีแรงที่จะอยู่ แล้วก็ทำสิ่งดีๆต่อไป
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วันที่ 6 สิงหาคม 2564