แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เมื่อประมาณสัก 3000 ปีมาแล้ว ที่อิสราเอล มีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่องค์หนึ่งชื่อ โซโลมอน เป็นกษัตริย์ที่ฉลาด และก็มีความสามารถมาก มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งพระองค์อยากจะทดสอบความสามารถ ภูมิปัญญาของเสนาบดีคู่ใจคนหนึ่ง ก็เลยเรียกมา แล้วก็ให้ไปหาแหวนวงหนึ่งเพื่อจะใช้สวมใส่ในพิธีสำคัญในอีก 6 เดือนข้างหน้า
แหวนวงนี้ จะต้องมีความพิเศษคือว่า คนที่มีความสุข เห็นแล้วจะเศร้าทันที ส่วนคนที่กำลังเศร้าโศกอยู่ เห็นแล้วก็มีความสุขในทันใดเลย เป็นโจทย์ที่สร้างความหนักใจให้กับเสนาบดีคนนี้มาก กษัตริย์โซโลมอนก็รู้ว่าแหวนอย่างนี้หาไม่ได้หรอก แต่ก็อยากจะทดสอบความสามารถของเสนาบดีคนนี้
เสนาบดีคนนี้ก็เลยเดินทางเร่ร่อนเพื่อไปแสวงหาแหวนวงนี้ เรียกว่าเดินทาง ตลอด 6 เดือน ตะลอนไปก็ไม่ได้เจอแหวนอย่างที่ว่า จนกระทั่งใกล้ถึงกำหนดพิธีสำคัญที่กษัตริย์โซโลมอนจะต้องใช้สวมแหวนวงนี้ในงาน เสนาบดีก็เลยต้องกลับมายังเมืองหลวงเยรูซาเล็ม แล้วก็มาด้วยความหมดหวังว่าคงไม่สำเร็จ
แต่ก็ยังมีความหวังอยู่บ้างในวันสุดท้ายก่อนถึงพิธีสำคัญ เสนาบดีผ่านมาย่านที่เรียกว่าเป็นแหล่งเสื่อมโทรมหรือว่าชุมชนแออัดที่มีคนยากคนจนเยอะแยะ ก็ไปเห็นชายชราคนหนึ่ง ท่าทางมีความสุขทั้งๆที่ยากจน ก็เลยเกิดความคิดขึ้นมาได้ รีบตรงไปที่ร้านขายแหวน แล้วก็ซื้อแหวนทองเกลี้ยงมาวงหนึ่ง เสร็จแล้วก็ไปให้ช่างแกะสลักข้อความ ก็มีแค่ 4-5 คำ
เสร็จแล้วก็รีบเข้าวังเลย ทันพอดี แล้วก็ถวายแหวนวงนี้ให้กับกษัตริย์โซโลมอน พระองค์เห็นแล้วก็ยิ้มดีใจ เพราะมันคือแหวนที่ต้องการ ทั้งๆที่เดิมก็คิดว่าไม่มีทางพบแหวนแบบนี้
แหวนวงนี้มีข้อความ 4-5 คำว่า แล้วมันก็จะผ่านไป มันตรงกับที่กษัตริย์โซโลมอนต้องการเลย ก็คือว่า คนที่มีความสุข เห็นแหวนวงนี้แล้วก็จะเศร้าเลย ส่วนคนที่เศร้าโศกเห็นแหวนวงนี้ก็จะมีความสุขทันทีเลย
แล้วมันก็จะผ่านไป อันนี้เป็นสัจธรรมความจริง แล้วก็เป็นสิ่งที่ จะว่าให้กำลังใจคนที่กำลังมีความทุกข์ ไม่ว่าจะเศร้าโศกเสียใจ หรือว่ากำลังอ่อนอกอ่อนใจ ท้อแท้ เพราะว่าความทุกข์ที่ตัวเองประสบอยู่นั้น ในที่สุดแล้ว มันก็จะผ่านไป เหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้คนเรามีความทุกข์ จะเป็นความเศร้าโศก จะเป็นความเหนื่อยยากลำบาก จะเป็นความคับแค้น ล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยง ในที่สุดมันก็ต้องผ่านไป
อันนี้เป็นสิ่งที่เตือนใจ แล้วก็ให้กำลังใจคนที่กำลังมีความทุกข์เป็นอย่างดี รวมทั้งคนที่กำลังต้องประสบกับความทุกข์เพราะการแพร่ระบาดของ covid คนที่ทุกข์ยากเดือดร้อน ไม่ว่าเพราะความเจ็บป่วย หรือเพราะว่าเศรษฐกิจถดถอย หลายคนก็เฝ้าแต่ภาวนาให้เหตุร้ายเหล่านี้มันผ่านไปสักที แต่บางทีก็ดูเหมือนกับว่า มันจะอยู่ค้ำฟ้า แต่ที่จริง แล้วมันก็จะผ่านไป
ไม่ใช่เฉพาะเหตุร้ายๆ ความทุกข์ยากลำบาก อย่างอื่นก็เหมือนกัน ความเหนื่อยยากเพราะต้องเจออุปสรรค หรือว่าต้องปากกัดตีนถีบเพื่อเลี้ยงลูก ดูแลครอบครัว หรือว่าทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโดยเฉพาะ covid ซึ่งมาแล้ววันแล้ววันเล่า ไม่ได้ลดเลย จนบางคนก็ท้อ แต่ถ้าเราตระหนักถึงความจริง หรือเชื่อมั่นว่า ในที่สุดมันก็จะผ่านไป เราก็จะมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป เพราะเรามั่นใจว่า ในที่สุดมันก็จะผ่านไป เหมือนกลางคืนที่ ในที่สุดก็จะต้องกลายเป็นสว่าง
ที่จริงไม่ใช่เฉพาะเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่มันจะผ่านไปในที่สุด ความทุกข์หรือความรู้สึกทุกข์ที่อยู่ในใจเราก็เหมือนกัน มันก็ไม่เที่ยง ในที่สุดมันก็จะผ่านไปเหมือนกัน เหตุร้ายบางอย่าง มันยังไม่ทันผ่านไปเลย แต่ว่าความทุกข์ในใจเรามันก็จะเลือนหายไปเลยก็ได้
เหตุการณ์บางอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้แล้ว อย่างเช่น คนรักตายจากไป หรือว่าตัวเองเกิดอุบัติเหตุ ต้องตัดขา เสียขา หรือว่าเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เหตุการณ์เหล่านี้จะให้มันพลิกผันกลายเป็นว่ากลับมาเดินได้ มันอาจจะยากหรือว่าเป็นไปไม่ได้ คนที่จากไปแล้ว เขาก็ไม่ฟื้นขึ้นคืนมาแล้ว
แต่ความรู้สึกเศร้าโศก ความทุกข์ มันไม่มีวันที่จะยั่งยืน แม้เหตุการณ์ไม่แปรเปลี่ยน แต่ความรู้สึกแปรเปลี่ยนได้ เพราะอะไร เพราะว่าเริ่มทำใจได้ ยอมรับได้ คนที่ตาบอด คนที่เสียขา คนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต คนที่สูญเสียคนรัก วันแล้ววันเล่าก็อาจจะรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ คับแค้น แต่ว่าพอผ่านไปสักระยะหนึ่ง ความรู้สึกเหล่านั้นก็จะคลี่คลาย แล้วเขาก็จะกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม
เวลาที่คนมีความทุกข์แบบนี้ อย่าไปท้อแท้ท้อถอย หรือว่าอย่าเพิ่งไปตีอกชกหัว หรือว่าไปหมดหวังหมดกำลังใจ ให้เชื่อมั่นว่า ความรู้สึกเหล่านี้มันจะอยู่กับเราไม่ได้นาน เพราะว่าทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง แต่ในระหว่างที่ยังอยู่กับเรา ก็อย่าไปเร่งให้มันหายไป หรือไปผลักไสมัน เพราะยิ่งทำอย่างนั้น ก็จะเหมือนกับไปต่ออายุให้มัน
เหตุร้ายๆที่อยู่รอบตัวเรา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา หรือในโลกนี้เช่นโควิตก็เหมือนกัน เราเชื่อมั่น เรารู้แน่ว่า ในที่สุดมันก็จะผ่านไป แต่ก็อย่าไปเร่ง หรือไปรอคอยว่า เมื่อไหร่มันจะไปสักที ขืนทำอย่างนั้น ก็ยิ่งเป็นทุกข์ เพราะว่ามันจะทำใจไม่ได้ว่า ทำไมไม่ไปสักที ทำไมยังเป็นอยู่อย่างนี้ อันนี้ยิ่งทำให้ทุกข์ มันจะต้องผ่านไปในที่สุด แต่อย่าไปเร่งหรืออย่าไปรอคอยมันมากเกินไป
ให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด โดยความเชื่อมั่นว่า ความทุกข์ก็ดี เหตุร้ายก็ดี เชื่อมั่นว่ามันจะต้องผ่านไปในที่สุด ในขณะเดียวกัน คนที่มีความสุขก็ต้องตระหนักว่า ความสุขที่เรามีตอนนี้ ในที่สุดมันก็จะผ่านไป ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกสุข หรือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข เช่น สุขภาพ คนรัก เงินทอง การงาน ชื่อเสียง พวกนี้มันก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน ในที่สุดมันก็จะกลายเป็นอดีตไป
หรือถึงแม้จะไม่แปรเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกในใจมันแปรเปลี่ยนไปแล้ว เพราะว่ามันเบื่อ ยังร่ำรวยเหมือนเดิม แต่ก็เบื่อแล้ว เพราะว่าไม่มีอะไรใหม่ เพราะฉะนั้นก็อย่าไปลิงโลดดีใจกับความสุขที่มี ให้เตือนใจเอาไว้ว่า สักวันหนึ่งมันก็จะเลือนหายไป
เพราะฉะนั้นอย่าไปหลงกับความสุขมาก อย่าไปเพลินกับมันมาก มันมาก็ดีแล้ว แต่อย่าไปยึดมั่นสำคัญหมายกับมัน หรือว่าไปหลงไปเพลินกับมัน เพราะถ้ามันเสื่อมมันสลายมันหายไปเมื่อไร มันก็จะทุกข์เมื่อนั้น แต่ว่าถ้าหากเรารู้ทันมัน ไม่เพลินไปกับมัน ถึงเวลาที่มันเสื่อมไป ใจก็ไม่ทุกข์ มันทำได้อยู่ เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่มีความทุกข์ ก็ให้ระลึกว่า ให้เชื่อมั่นว่า แล้วมันก็จะผ่านไป
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต แสดงธรรมก่อนฉันเช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2564