แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
วันนี้เป็นวันแรกของการเข้าพรรษา ตามธรรมเนียมก็จะมีพิธีกรรมสั้นๆในวันแรกของการเข้าพรรษาเรียกว่าอธิษฐานเข้าพรรษา อธิษฐานในที่นี้ไม่ได้แปลว่าขอตามความเข้าใจของคนทั่วไป อธิษฐานแปลว่าขอนั้น เป็นอธิษฐานที่เป็นภาษาไทย แต่ถ้าภาษาบาลีแปลว่าความตั้งใจมั่นหรือความตั้งใจหนักแน่นที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้บรรลุให้สำเร็จ อธิษฐานในความหมายนี้ เป็นความดี ท่านจัดว่าเป็นบารมีชนิดหนึ่งเลย
บารมีก็เหมือนกัน ภาษาบาลีมันต่างจากความเข้าใจในภาษาไทย บารมีในภาษาบาลีหมายถึงคุณงามความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่งยวด ถ้าบารมีในภาษาไทยมีนัยยะถึงคนที่มีอำนาจ มีความสามารถ มีบริษัทบริวารเยอะ เช่น ผู้มีบารมี แต่บารมีในภาษาบาลีแท้ๆคือ คุณความดีที่บำเพ็ญอย่างยิ่ง ซึ่งพระโพธิสัตว์ท่านได้บำเพ็ญ และเมื่อได้บำเพ็ญครบ 10 ประการเรียกว่าทศบารมีก็สามารถที่จะพัฒนาตน ให้คนเป็นพระพุทธเจ้าได้ พระพุทธเจ้าในปัจจุบันก็บำเพ็ญบารมีในอดีตชาติจนกระทั่งได้ครบถ้วนสำเร็จ แล้วก็เลยส่งผลให้ได้บรรลุพุทธภาวะเป็นพระพุทธเจ้า
อธิษฐานอย่างที่ว่าเป็นบารมีอย่างหนึ่ง เพราะว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่หนุนเสริมทำสิ่งที่ยากให้สำเร็จได้ แต่เราอาจจะใช้การอธิษฐานสำหรับการทำความดีที่ได้ไม่ยากมาก แต่ว่ามันอาจจะสวนทางกับกิเลสที่ทำให้เราย่อหย่อนหรือว่าละทิ้งสิ่งที่ควรทำไปในที่สุด การเข้าพรรษาเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของชาวพุทธโดยเฉพาะพระสงฆ์รวมถึงแม่ชีด้วย เพราะว่าเป็นช่วงเวลาของการทำความเพียร ช่วงเวลาของการฝึกฝนอบรมตนเพื่อให้เจริญงอกงามตั้งมั่นในธรรมะหรือว่าในอริยมรรคมีองค์ 8
เพราะฉะนั้น ในการฝึกฝนอบรมตนจะได้ผล ก็ต่อเมื่อเราให้เวลากับการทำความเพียรนั้น ถ้าเราทำความเพียรตลอด 3 เดือน มันก็จะเกิดอานิสงส์มาก เพราะฉะนั้นเวลากุลบุตรจะบวชเป็นภิกษุ ก็มีความเชื่อมีธรรมเนียมในพรรษาว่าบวชเอาพรรษาคือบวชให้ได้พรรษา เพราะว่าถ้าบวชให้ได้พรรษา ก็ได้ทำความเพียรตลอด 3 เดือน ไม่ใช่แค่ 1 อาทิตย์ 1 เดือนถ้าได้ทำความเพียรตลอด 3 เดือน มันก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในทางพฤติกรรมและในทางนิสัยใจคอ หรือว่าจิตใจ
แต่ว่าในการที่คนเราจะอยู่ปฏิบัติตลอดพรรษา มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว ปฏิบัติคนเดียว หรือปฏิบัติกับหมู่คณะหรือท่ามกลางหมู่คณะ โดยเฉพาะการปฏิบัติท่ามกลางผู้คนที่มากหน้าหลายตาในอาวาสหรือในวัด มันก็ต้องอาศัยความอดทน อาศัยความอดกลั้น เพราะว่าบางครั้งก็อาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันมีความเห็นกระทบกระทั่งกันเพราะว่ามีคนหลากหลายนิสัยใจคอภูมิหลังต่างกัน แม้แต่จะสวดให้พร้อมเพียงกัน ใหม่ๆก็เป็นเรื่องยาก
เวลาทำกิจร่วมกัน การฉันอาหาร การตักอาหารหรือว่ากิจกรรมอื่นๆ ความที่นิสัยใจคอไม่เหมือนกัน ภูมิหลังที่แตกต่างกันก็อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกใจเรา เพราะฉะนั้น การจะอยู่ให้ครบถ้วนตลอด 3 เดือนมันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยังไม่ต้องพูดถึงว่ากิเลสที่มันอยู่ภายใน มันก็ไม่ค่อยชอบที่เราจะมาทำความเพียร เพราะความเพียรมันเป็นไปเพื่อลด เพื่อบันทอนหรือเพื่อเผากิเลส
พูดอีกอย่างหนึ่งเป็นการสวนทางกับนิสัยใจความเคยชินและสิ่งหลายอย่างที่ควรทำ มันถูกต้องก็จริงแต่ว่ามันไม่ถูกใจ เพราะฉะนั้นจึงมีแรงต้าน ทำให้การเข้าพรรษาก็อาจจะทำไม่ได้สำเร็จ ที่ตั้งใจว่าจะจำพรรษาให้ครบ 3 เดือน อยู่ไปๆ ไม่ทันถึงเดือนเลย ก็ไปเสียแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าขัดแย้งกับคนนั้นคนนี้ ไม่ชอบคนนั้นคนนี้ ทนอยู่ด้วยกันไม่ได้ หรือถึงแม้ว่าผู้คนที่อยู่ด้วยกันจะเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน แต่ว่าข้างในใจ กิเลสมันบ่นมันโวยวาย ตีโพยตีพาย ทนความยากลำบากไม่ได้ ตื่นเช้าไม่ไหว มันเหงา มันเบื่อ มันเซ็ง มันจำเจ อาหารไม่อร่อยไม่ถูกปาก ไม่มีน้ำอัดลมไม่มีกาแฟดื่มทนไม่ไหว ไปดีกว่า
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีการอธิษฐาน ไม่มีการปักใจลงไปเรียกว่าตัดสินใจแน่วแน่ว่า จะจำพรรษาให้ครบถ้วน 3 เดือนก็อาจจะพ่ายแพ้กิเลสก็ได้ เคยมีพระรูปหนึ่งตั้งใจว่าจะบวช 1 เดือน ไม่ได้คิดจะเอาพรรษาด้วยซ้ำ แต่ว่าพอบวชมาได้สัก 1 อาทิตย์ มาขอลากลับไปบ้าน ถามว่าทำไม ตอบว่าเป็นห่วงโยมแม่ เพราะท่านไม่มีคนช่วยดูแล ก็เลยจะไปอยู่ใกล้ๆดูแล ไปได้สักอาทิตย์หนึ่งปรากฏว่ากลับไปบ้านก็หายไปเลย ไม่ได้กลับมา แล้วก็สึก อันนี้เรียกว่าโดนกิเลสมันหลอก
ก่อนหน้านี้ก่อนบวชก็ไม่ได้ห่วงแม่อะไร ไม่ได้ดูแลแม่เท่าไหร่ แต่พอมาบวชอยู่วัดกลับคิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่ อันนี้เรียกว่า มันโดนกิเลสหลอก กิเลสมันทนไม่ไหว เพราะว่าอยู่วัดไม่สะดวกไม่สบาย ไม่มีสิ่งปรนเปรอ แล้วก็มันน่าเบื่อ จำเจ กิเลสก็หาข้ออ้าง มาหลอกให้เป็นห่วงแม่ จะได้มีข้ออ้างที่หนักแน่น แล้วก็ดูดีในการที่จะออกจากวัด แล้วพอออกจากวัดได้ กิเลสก็ล่อหลอกให้สึกหาลาเพศไปในที่สุด มันค่อยๆหลอกไปทีละก้าว ๆ ทีแรกก็บอกว่าไปหาแม่ก่อน เพื่อจะได้ออกจากวัด พอออกจากวัดแล้ว ก็หาเหตุผลให้ออกจากสมณเพศเพราะว่ามันไม่ถูกใจกิเลส กิเลสมันเหี่่ยวแห้งเพราะไม่มีสิ่งปรนเปรอ
เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าเราไม่มีการตัดสินใจแน่วแน่ อย่างที่เรียกว่าอธิษฐาน กิเลสก็จะหาช่องมารบกวน มาคอยทำให้เกิดความโลเล แม้ว่าตั้งใจจากที่บ้านมาแล้วว่า จะมาบวชให้ครบพรรษา แต่พอได้มาบวชจริงๆแค่อาทิตย์เดียวก็ย่ำแย่แล้ว อันนี้เป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นจึงมีธรรมเนียมอธิษฐานเข้าพรรษาหรืออธิษฐานพรรษา แต่ว่าก็อย่าให้มันเป็นเพียงแค่พิธีกรรม แต่ว่ามันเป็นการแสดงถึงความตั้งใจ ตัดสินใจแน่วแน่เด็ดขาดว่า จะอยู่ให้ครบถ้วนไตรมาส 3 เดือน มันเป็นการตอกย้ำเพื่อไม่ให้เกิดความโลเล
คนเราเวลาทำอะไรก็ตาม โดยเฉพาะการทำสิ่งที่ยาก สิ่งที่ไม่คุ้น มันมักจะมีความโลเล ซึ่งทำให้เกิดความลังเลจนกระทั่งทำได้ไม่ตลอด ทำแล้วก็มาคิดว่าทำดีไหม ผ่านไป 1 วันแล้วก็ยังคิดอีกว่าดีไหม แต่พอเราปักใจแน่วแน่ว่า ฉันจะทำให้มันสำเร็จให้ได้หรือว่าทำให้ครบถ้วนให้ได้ จะเกิดอะไรขึ้นเป็นไงเป็นกัน พอเราตัดสินใจแน่วแน่แบบนี้ ความโลเลหรือความลังเลก็หายไป มันก็ทำให้มุ่งไปในทิศทางข้างหน้าได้อย่างราบรื่น
บางครั้ง เวลาเราทำอะไร มักจะพูดว่าฉันจะทำให้ดีที่สุด คำพูดเท่านี้มันอาจจะไม่มีความหมายอะไรก็ได้ แม้จะดูดีว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่ว่าทำแค่ไหน ทำเท่าไหร่ไม่รู้ มันก็เป็นจุดอ่อนเปิดช่องให้กิเลสเข้ามาเหนี่ยวรั้ง มารบกวนหรือมาขัดขวางได้แต่พอเราตัดสินใจแน่วแน่ว่า ฉันจะอยู่ให้ครบ 3 เดือน มันจะให้ความรู้สึกหรือความแน่วแน่ที่แตกต่างกัน มันดีกว่าคำพูดว่าฉันจะทำให้ดีที่สุดแต่แค่ไหนไม่รู้ บางทีมันก็เป็นแค่ข้ออ้างเพื่อที่จะได้ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดลงไป
เพราะฉะนั้น เวลาที่เราจะทำอะไรที่มันดี แต่ว่ายากเพราะไม่คุ้นเคย การอธิษฐานเป็นสิ่งที่ช่วยย้ำ เป็นการเสริมแรงให้กับความใฝ่ดี คนเราทุกคนล้วนแต่มีความใฝ่ดีอยู่ในจิตใจ ความใฝ่ดีก็พาเรามาที่นี่ ทิ้งบ้าน ทิ้งความสะดวกสบาย แต่ว่าควบคู่กับความใฝ่ดีก็มีความใฝ่ไม่ดีหรือกิเลสคอยชักจูงให้เขว หรือคอยเหนี่ยวคอยรั้งไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า แต่เมื่อเราคิดว่าเราจะทำสิ่งดี แล้วมันจะดียิ่งขึ้นถ้าหากว่าเรามีการอธิษฐาน คือการตัดสินใจอย่างมั่นคงแน่วแน่เด็ดขาด ในพรรษานี้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งกับใคร ไม่ว่าฉันจะเบื่อ ฉันจะเหงาอย่างไร หรือว่าฉันจะมีความทุกข์อย่างไร ฉันก็จะอยู่ให้ครบพรรษาให้ได้ ออกพรรษาแล้วยังไงก็ค่อยว่ากันทีหลัง พอคิดอย่างนี้ได้ก็ไม่มีความลังเลว่าจะบวชต่อดีไหม จะอยู่ดีไหม ถ้าเราไม่ใช่แค่สักแต่ว่า อธิษฐานตามธรรมเนียมหรือว่าเป็นเพียงพิธี แต่ว่าตัดสินใจแน่วแน่ ปักใจลงไป
และที่จริงแล้วนอกจากการอธิษฐานว่าจะจำพรรษาให้ครบ 3 เดือน แล้วเราก็ควรที่จะอธิษฐานเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัวด้วย อธิษฐานเข้าพรรษาเช้าวันนี้เราจะทำด้วยกันเป็นหมู่คณะว่าเป็นจุดมุ่งหมายร่วมกันว่าเราจะอยู่ร่วมกันในพรรษา และแต่ละคนก็จะมีอธิษฐานเพิ่มเติมเป็นพิเศษโดยการใคร่ครวญว่า เรามีจุดอ่อนตรงไหน มันมีนิสัยไม่ดีอะไรบ้างที่เราอยากจะลดอยากจะละ หรือควรลดควรละ หรือว่าเลิกไปเลย เช่น บางคนติดเกม บางคนติดบุหรี่ บางคนติดโซเชียลมีเดีย เสียเวลาไปกับมัน หมดพลังงานไปกับสิ่งเหล่านี้ จนกระทั่งไม่เป็นอันทำอะไรแม้กระทั่งพักผ่อน เราก็จะอธิษฐานว่าในพรรษานี้ฉันจะงดใช้โทรศัพท์มือถือเลย หรือว่างดการใช้โซเชียลมีเดีย อย่างพระบางรูปก็อธิษฐานเลยว่าจะงดใช้ Line ตลอดพรรษางดใช้ Facebook ตลอดพรรษา จะให้เวลากับการปฏิบัติอย่างเต็มที่ บางคนติดกาแฟ ก็อธิษฐานว่าจะเลิกจะงดกาแฟ บางคนชอบบ่นก็อาจจะอาจจะอธิษฐานว่า ในพรรษานี้ไม่ว่าจะเจออะไร ฉันจะไม่บ่น อาจจะบ่นในใจแต่ไม่บ่นออกมาเป็นคำพูด อันนี้เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้การจำพรรษาของเราก่อให้เกิดอานิสงส์ที่เป็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากขึ้น
สมัยที่ผมไปบวช ปฏิบัติกับหลวงพ่อเทียนที่วัดสนามใน ตอนนั้นยังหนุ่มอยู่ ก่อนไปก็อธิษฐาน 2 ข้อ อธิษฐานว่าจะอยู่ปฏิบัติที่วัดสนามในให้ครบ 30 วัน ที่อธิษฐานอย่างนี้เพราะว่า กิเลสมันอาจจะหาข้ออ้าง พอทำความเพียรไปสักพัก มันทนไม่ไหว มันเบื่อ มันเซ็ง มันเครียด มันก็จะหาข้ออ้างไปอยู่ที่อื่น นั่นก็คือหนีการปฏิบัตินั่นเอง มันเคยมีเหตุการณ์ทำนองนี้ก็เลยตัดสินใจว่าเราอธิษฐานไปเลยว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะอยู่ให้ครบ 30 วัน ซึ่งก็ช่วยได้มาก เพราะว่าพอปฏิบัติไป 3 อาทิตย์เริ่มมีปัญหา อยากจะไปอยู่ที่อื่น ปัญหานี้คือปัญหาการปฏิบัติ มันเกิดเรียกว่าคลายความเพียร ท้อแท้ แต่พออธิษฐานแบบนี้ก็ต้องอยู่ ใหม่ๆก็เหมือนจำใจ อยู่ให้ครบพรรษา แต่ว่าพออยู่ไปครบอีก 1 อาทิตย์ มันเกิดความเปลี่ยนแปลง การปฏิบัติเข้าที่เข้าทางเห็นผลทันที
อธิษฐานข้อสองว่า ไม่นอนกลางวัน ไม่ว่าจะอย่างไร ง่วงอย่างไรก็จะไม่นอน จะทู่ซี้กับความง่วงให้ได้ ง่วงมากๆก็ไปอาบน้ำ เอาน้ำลูบหน้า พออธิษฐานแบบนี้เข้าก็พยายามนอนให้เต็มที่เพราะถ้านอนเต็มที่แล้ว กลางวันง่วงก็ไม่ใช่เพราะร่างกายอ่อนเพลีย หรือว่านอนไม่ดี แต่เป็นเรื่องของกิเลส กิเลสมาชักจูงให้คลายความเพียรก็จะไม่ยอมทำตามมัน
เพราะฉะนั้น นอกจากการอธิษฐานพรรษาแล้ว ถ้าเราอธิษฐานอย่างอื่นเพิ่มเติมด้วย อาจจะดูเหมือนเล็กน้อย แต่ว่าถ้าเราทำทุกวัน มันก็สามารถเป็นการหนุนเสริมให้ความเพียรเพิ่มพูนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการปิดช่อง ปิดโอกาสไม่ให้กิเลสเข้ามาครอบงำ แต่อธิษฐานนอกจากการลด การละ การเลิกในสิ่งที่ไม่ดีหรือพฤติกรรมที่ก่อปัญหาให้กับเราแล้ว อาจจะรวมไปถึงการอธิษฐานที่จะทำความดีเพิ่มเติม ความดีที่เราไม่ค่อยคุ้น ความดีที่เราไม่ค่อยได้ทำ หรือสิ่งดีๆที่เราอยากจะทำ หรือว่ามันช่วยให้การปฏิบัติก้าวหน้า เช่น ตื่นเช้าให้ตรงเวลา บางคนอาจจะอธิษฐานว่าจะตื่นเช้ามาทำวัตรไม่ให้ขาด ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยก็จะมาทำวัตรตลอดพรรษา ไม่ว่าวัตรเช้าวัตรเย็น หรือบางคนก็อธิษฐานว่าจะทำความเพียรอย่างน้อยวันละ 4 หรือวันละ 5 ชั่วโมง สิ่งดีๆที่ควรทำ ควรถือโอกาสทำในพรรษานี้เสียเลย อาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องของทางธรรมอย่างเดียว อาจจะเป็นเรื่องของทางโลกก็ได้ อย่างเช่น สุขภาพ เราจะฉันมังสวิรัติ เราจะออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน
เพราะฉะนั้น ถ้าเราอธิษฐานในลักษณะอย่างนี้ ทั้งลดละสิ่งไม่ดี และก็เพิ่มพูนสิ่งดีๆที่ควรทำ มันก็จะช่วยทำให้เรามีกำลังในการทำความเพียร เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น มันเป็นการช่วยเสริมแรงให้กับความใฝ่ดี และทำให้เรามีกำลังใจในการที่จะทำความดีที่ยากกว่านี้ในภายภาคหน้าให้สำเร็จได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการลดเป็นการปิดช่องไม่ให้กิเลส ความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำ หรือว่าเข้ามาบงการชีวิตจิตใจของเรา จนกระทั่งอยู่กับที่ หรือว่าถอยหลังด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น ก็ให้เราใช้ช่วงเวลาเข้าพรรษานี้ในการทำความดีทำความเพยรให้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นพระ แม่ชี โยม เราก็อธิษฐานได้ อธิษฐานในทางลดละสิ่งที่ไม่ดี แล้วก็เพิ่มพูนทำสิ่งดีๆให้สม่ำเสมอทุกวันเป็นประจำ
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมวัตรเช้า วัดป่าสุคะโต วันที่ 25 กรกฏาคม 2564