แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ช่วงนี้กำลังมีมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เป็นมหกรรมที่ผู้คนจากทั่วโลกได้มาแสดงความสามารถ และเราก็ได้เห็นถึงความสามารถทางกายของหลายคนทีเดียวซึ่งต้องอาศัยความพากเพียร ความพยายามมุ่งมั่นในการเคี่ยวกรำตนเองในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การยกน้ำหนัก การกระโดด หรือว่ากีฬาสารพัด และจะได้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่นในจิตใจของผู้คน ซึ่งมุ่งที่จะไปให้ถึงความเป็นเลิศ คือ เป็นที่หนึ่งได้เหรียญทอง
แต่ว่าบางครั้งมันก็แสดงให้เราเห็นถึงน้ำใจของนักกีฬาหลายๆคน ที่เขาแสดงถึงความเสียสละ แล้วก็มีความเอื้อเฟื้อรวมทั้งมีสิ่งที่เรียกว่า น้ำใจนักกีฬา ให้เราเห็นอยู่ อาจจะไม่บ่อยแต่ว่ามันก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆบางทีมันก็เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ
อย่างเมื่อ 30 ปีก่อน มีการแข่งเรือใบ นักกีฬาแคนาดาตามมาเป็นที่ 2 ตามคนที่ 1 อย่างติดๆเลย ขณะที่แล่นเรือใบอยู่ แล้วจู่ๆเขาเห็นนักกีฬาสิงคโปร์ที่แล่นเรืออยู่กำลังพลิกคว่ำ ตัวนักกีฬาสิงคโปร์ก็ลอยคออยู่กลางทะเล นักกีฬาแคนาดาแทนที่จะมุ่งมั่นจะเอาชนะเพราะว่าใกล้จะแซงที่ 1 อยู่แล้ว เขาเปลี่ยนใจเลยหันหัวเรือไปยังตำแหน่งที่นักกีฬาสิงคโปร์กำลังลอยคออยู่ ซึ่งลอยคออยู่ไม่ไกลจากเรือของเขา เรือนั้นที่กำลังอับปาง
ในทะเลตอนนั้นคงจะหนาว และถ้าไม่ช่วยนี่ นักกีฬาสิงคโปร์ก็คงจะแย่ นักกีฬาแคนาดตกลงเข้าไปช่วยเพื่อนชาวสิงคโปร์ซึ่งก็ไม่ได้รู้จักกันหรอก แต่เห็นเขากำลังเดือดร้อน ช่วยเสร็จก็หันหัวเรือตัวเองไปยังจุดหมายเส้นชัย ปรากฏว่าแทนที่จะเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ได้เหรียญทอง ก็เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 11 เรียกว่าไม่ได้ทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดงเลย เพียงเพราะว่าเขาเข้าไปช่วยเพื่อนที่กำลังอยู่ในอันตราย แต่เขาก็ภาคภูมิใจที่เขาได้ทำสิ่งที่มีค่ามาก
เราจะเห็นน้ำใจแบบนี้อยู่เนืองๆ มีคราวหนึ่งแข่งมาราธอน การแข่งมาราธอนนี่ ชาวอัฟริกามักจะมาเป็นที่หนึ่งเพราะว่าอดทนมาก ครั้งนั้นก็มีนักกีฬาเคนย่าวิ่งมาเกือบถึงเส้นชัยแล้ว อีกแค่ 2-3 ก้าว หรือแค่เมตรสองเมตรเท่านั้น แต่จู่ๆเขาก็หยุด เพราะเขาได้สัญญานจากกรรมการ เพราะเขานึกว่าถึงเส้นชัยแล้ว เกิดความสับสนในการตีความสัญญานของกรรมการ เขาเลยหยุดเลย ทั้งๆที่อีกแค่ 2-3 ก้าวก็จะถึงเส้นชัย
ข้างหลังเขา ก็มีนักกีฬาสเปนวิ่งตามมาติดๆเลย พอนักกีฬาสเปนเห็นนักกีฬาชาวเคนย่าหยุดไม่ยอมวิ่งเข้าเส้นชัย เขาก็ตะโกนเรียกให้วิ่งไปเลย วิ่งไปอีกหน่อยเดี๋ยวก็ถึงเส้นชัยได้ที่ 1 แล้ว นักกีฬาเคนย่าคนนี้คงฟังไม่รู้เรื่อง ก็หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ สุดท้ายนักกีฬาสเปน พอวิ่งมาถึงนักกีฬาเคนย่า เขาทำยังไงรู้ไหม เขาผลักเลย ผลักหลังให้นักกีฬาเคนยาวิ่งต่อจนกระทั่งไปถึงเส้นชัย ที่จริง เพียงแค่วิ่งแซง เขาก็ได้ที่ 1 แล้ว ได้เหรียญทองตามความมุ่งหวัง
เพราะว่านักกีฬาทุกคนมาแข่งขันก็เพราะอยากได้เหรียญทอง มันมีค่ามากกว่าเหรียญเงินเยอะ แต่ว่านักกีฬาสเปนคนนี้แกสนใจเหรียญทอง สนใจชัยชนะน้อยกว่าการทำสิ่งที่ถูกต้อง มีนักข่าวถามเขาว่าทำไมคุณถึงไม่แซงเข้าเส้นชัยเลย ทำไมไม่แซงนักกีฬาเคนย่าคนนั้น เข้าเส้นชัยเลย เขาตอบว่า ขืนผมทำอย่างนั้น ผมจะภูมิใจตัวเองได้อย่างไร ผมจะแบกหน้าขึ้นไปรับเหรียญทองโอลิมปิกได้อย่างไร เขารู้สึกว่าถ้าเขาวิ่งแซงได้เหรียญทองก็จริง แต่ว่าไม่ภูมิใจ เพราะว่าจริงๆแล้วนักกีฬาเคนย่าคนนั้นเข้าถึงเส้นชัยก่อน เพียงเพราะความสับสน ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ก็เลยหยุดอยู่หน้าเส้นแค่ 2- 3 ก้าว
อันนี้ก็เป็นตัวอย่าง ซึ่งก็มีอยู่เนืองๆ ของคนที่เขาเห็นว่า แม้ชัยชนะ หรือเหรียญทองจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าสิ่งสำคัญกว่าคือความถูกต้อง หรือความมีน้ำใจ บ่อยครั้งเวลาเราเข้าสู่ลู่แข่งขัน หรือสนามแข่งขัน ผู้คนนึกถึงแต่ชัยชนะ จนบางทีลืมความถูกต้อง จนบางทีลืมความมีน้ำใจหรือลืมความเป็นมนุษย์ หลายคนพออยากได้เหรียญทองมากๆนี่ กลายเป็นเครื่องไปเลย เป็นเครื่องจักรไปเลย เครื่องจักรที่มุ่งจะไล่ล่าเอาชัยชนะ แต่ว่าลืมความเป็นมนุษย์ในจิตใจ
นักกีฬาที่ยกมาเป็นตัวอย่าง เขาเป็นนักกีฬา อยากจะได้ชัยชนะก็จริง แต่ว่าเขาไม่ลืมความเป็นมนุษย์ ความเป็นมนุษย์คืออะไร คือความมีเมตตา ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รวมทั้งการรักความถูกต้อง การรักความถูกต้อง หรือความยุติธรรม บางทีเราก็เรียกว่าน้ำใจนักกีฬา
แต่ว่า สิ่งที่ต้องมีมากกว่านั้นคือ ความเสียสละ ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คนเรา ทุกคนก็อยากจะได้รับความสำเร็จ แล้วก็มุ่งมั่นพากเพียรเพื่อจะเอาชนะ หรือให้ได้ความสำเร็จ แต่ถ้าหากว่าเรามุ่งมั่นมากไป มันก็ลืมตัว เรียกว่าความเป็นมนุษย์ ลืมความถูกต้อง ละทิ้งความมีน้ำใจ ซึ่งถ้าเกิดว่า แม้จะได้ชัยชนะ แต่มันก็ไม่น่าภาคภูมิใจ ความเห็นแก่ตัวความอยากได้รับความสำเร็จ อยากได้ชื่อเสียง อันนี้มันก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ มันก็เป็นแรงผลักดัน ทำให้คนเราพัฒนาตน แต่ว่าอย่าให้มันมาบดบังความเป็นมนุษย์ของเรา
การนึกถึงตัวเอง มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เสียหาย น่าเกลียด แต่ว่าก็อย่าให้มันมากไป จนกระทั่งลืม ลืมเพื่อนมนุษย์ หรือว่ามองข้ามประโยชน์ของผู้อื่น หรือมองข้ามคนที่กำลังประสบทุกข์ ไม่ว่าเราทำอะไร มุ่งหวังอะไรก็ตาม ก็ให้นึกถึงผู้อื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเห็นเขากำลังเดือดร้อน ถ้าเรามุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนแล้วก็มองข้ามคนที่ทุกข์ยากเดือดร้อน แม้ว่าเราจะได้รับความสำเร็จ อาจจะไม่ใช่การแข่งกีฬา แต่จะเป็นการทำงาน อาจจะเป็นการเรียน ถ้าหากว่าเราละทิ้งความถูกต้องหรือว่าไม่มีน้ำใจช่วยเหลือผู้ที่กำลังเดือดร้อน มันก็ไม่ถูกต้อง
บางครั้งเรากำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสมัครงานก็แล้วแต่ แต่ว่าเราได้ข่าวว่าเพื่อนบ้านกำลังเดือดร้อน บางทีเห็นความเดือดร้อนต่อหน้าต่อตาเลย ถ้าเราจะเมินเฉยเขา อ่านหนังสือต่อไป เพื่อจะได้รับความสำเร็จ แต่ว่าไม่สนใจใยดีความทุกข์ของเขา อันนี้มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องแล้ว บางครั้งเราก็ต้องวางหรือพักการทำประโยชน์ส่วนตนไว้ก่อน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น และถ้าหากว่าเราทำได้อย่างนั้น มันก็จะมีความภาคภูมิใจ
อันนี้เราเรียกว่าเป็นชัยชนะที่สำคัญ ชัยชนะที่แท้จริงไม่ใช่การคว้าเหรียญทอง หรือชนะคนอื่น แต่มันคือการชนะใจตัวเอง ชนะกิเลส ตัณหาตัวเอง โดยเฉพาะกิเลสหรือตัณหาที่อยากได้ อยากได้ความสำเร็จอยากได้ชัยชนะ พวกนี้ก็เป็นตัณหาชนิดหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าเราปล่อยให้มันครอบงำใจ ถึงน่าจะได้ชัยชนะสมหวัง แต่ว่ามันก็เป็นความพ่ายแพ้อีกแบบหนึ่งเหมือนกัน
สู้ชนะใจตัวเองด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น แม้จะไม่ได้เหรียญทอง แม้จะไม่ได้รางวัล แม้จะไม่ได้ความสำเร็จ แต่มันก็เป็นชัยชนะที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วัดป่าสุคะโต วันที่ 26 กรกฎาคม 2564