แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
เทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 64 ก็เริ่มวันนี้ พูดถึงเทศกาลเข้าพรรษาสำหรับชาวพุทธจำนวนมาก ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลา เป็นเทศกาลของการทำบุญ การทำความดี หรือเป็นเทศกาลแห่งการปฏิบัติธรรม เป็นช่วงเวลาของการฝึกฝนอบรมตน หรือว่าขัดเกลากิเลสให้มันเบาบาง เพิ่มพูนกุศลธรรมให้เจริญงอกงามขึ้นมาในใจ
และส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงการทำบุญ การปฏิบัติธรรมก็นึกถึงวัด อยากจะมาทำบุญที่วัด และก็ตั้งใจจะมาปฏิบัติธรรมที่วัด แต่ว่าปีนี้จะทำอย่างนั้นไม่ได้ หรือว่าไม่สะดวก เพราะว่าตอนนี้โควิดแพร่ระบาดกระจายกว้างขวางมาก ปีที่แล้วยังพอมาวัด ได้มาทำบุญ มาปฏิบัติธรรมที่วัด แต่ปีนี้ สิ่งที่ไม่เคยเจอก็เจอ สิ่งที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ หลายอย่างที่อยากจะทำก็ทำไม่ได้
แต่ขึ้นชื่อว่าการทำบุญ การทำความดีหรือการปฏิบัติธรรม มันไม่จำเป็นต้องที่วัดก็ได้ มันไม่ได้เกี่ยวกับสถานที่ มันไม่ได้ผูกติดกับสถานที่ ในเมื่อมีความตั้งใจอยากจะมาใช้ช่วงเวลาในการเข้าพรรษาระดมทำความเพียรในการทำความดีสร้างบุญสร้างกุศลหรือว่าปฏิบัติธรรม มาทำที่วัดไม่สะดวกก็ทำที่บ้านนั่นแหละ
พรรษานี้ถือว่าเรามาทำบ้านให้เป็นวัดก็แล้วกัน โควิดผลักดันหรือบังคับกระตุ้นเร่งเร้าให้เราทำบ้านให้เป็นวัดโดยเฉพาะช่วงเข้าพรรษา สิ่งดีๆที่เราอยากจะทำที่วัด เราก็ทำที่บ้านนั่นแหละ บางคนตั้งใจว่าในพรรษานี้จะสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นประจำทุกเช้าเย็น ก็ทำที่บ้านนั้นแหล่ะ อาจจะชวนคนที่บ้านมาทำด้วย ดีเสียอีก เพราะเวลามาวัดบ่อยครั้งเราก็มาคนเดียว คนอื่นไม่ได้มาด้วย หรือไม่ได้อยากมา
แต่ว่าพอเรามาทำบ้านให้เป็นวัด ก็เป็นโอกาสที่จะเชิญชวนให้เขามาร่วมทำความดี บำเพ็ญบุญกุศลกับเรา สวดมนต์ ไหว้พระหรือว่าใส่บาตร รวมทั้งบริจาคสิ่งของเป็นทาน โดยเฉพาะช่วงนี้ก็มีคนเดือดร้อนมาก นอกจากการทำความดี บำเพ็ญบุญกุศลด้วยการใส่บาตรถวายพระ บริจาคสิ่งของช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากมากมายเหลือเกิน ทั้งคนป่วย ทั้งคนขาดข้าวปลาอาหาร เศรษฐกิจฝืดเคือง ทำงานทำการไม่ได้
เวลาเข้าพรรษาสำหรับพระก็จะมีการอธิษฐาน อธิษฐานคือการตั้งใจมั่นหรือทำใจแน่วแน่ที่จะทำความดีอย่างเป็นรูปธรรม เช่น เมื่อเช้าพระก็อธิษฐานเข้าพรรษาว่า จะเข้าพรรษาครบไตรมาส จะไม่ไปไหน อธิษฐานในที่นี้หมายถึงการตั้งใจมั่น ปักใจลงไปว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งลงไปที่จะเป็นการทำความดี เป็นความดีที่เป็นรูปธรรม เช่น อยู่ในวัด จำพรรษาตลอด 3 เดือน
สำหรับฆราวาสญาติโยม อาจจะอธิษฐานอย่างอื่นก็ได้ ไหนๆเรามาทำบ้านให้เป็นวัดแล้ว ก็อธิษฐานวิธีที่เราจะทำที่บ้าน เช่น อธิษฐานว่าจะทำวัตรสวดมนต์เป็นประจำทุกวัน อธิษฐานว่าจะนั่งสมาธิเจริญสติเป็นประจำเช้าเย็นวันละ 10 นาที 15 นาที เป็นอย่างน้อย ปกติเวลาอธิษฐานหรือเวลาการทำความดีในพรรษา เรามักจะเน้นเรื่องการลดการละสิ่งที่ไม่ดี เช่น สุรา ยาเสพติด หลายคนก็อธิษฐานหรือตั้งใจว่าจะงดเหล้างดบุหรี่ในพรรษา
หลายคนไม่ได้ติดเหล้า ติดบุหรี่ แต่ว่าติดอย่างอื่น ติดกาแฟ ภาพยนตร์ซีรีส์ เดี๋ยวนี้มีให้ดู 24 ชั่วโมงเลย แถมสะดวก ไม่ได้สิ้นเปลืองอะไร ก็เลยติดง่าย ในพรรษานี้ก็อธิษฐานไปเลยก็ดีว่า เราจะงดใช้ Social Media LINE ก็ดี Facebook Twitter ก็ดี หรือว่าทำให้มันน้อยลง ให้เวลากับมันน้อยลง หรือว่าจะงดดูหนังตลอดพรรษา
สิ่งไม่ดีที่เราคิดว่ามันสร้างปัญหาให้กับเรา กินเวลา ทำให้เราไม่มีสมาธิ ทำให้เราไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้เราฟุ้งซ่าน ความเครียดเกิดขึ้นมากมาย เราก็ถือโอกาสในพรรษานี่แหละ ลดละเลิกสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นบาปเป็นความชั่วร้ายก็ได้ แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถจะใช้ชีวิตเจริญงอกงามหรือว่าทำให้ชีวิตจิตใจมีความสุขได้
ลดละสิ่งที่ไม่ดีแล้ว อธิษฐานก็ยังรวมถึงการทำความดีเพิ่มพูนขึ้น หรือความดีที่ไม่เคยทำก็ทำซะ เป็นความดีที่เป็นรูปธรรมไม่ต้องมาก ไม่ต้องยาก แต่ว่าขอให้ทำทุกวัน เช่น การทำวัตรสวดมนต์ การนั่งสมาธิ การบริจาคทาน หรือการออกกำลังกาย บางทีกิเลสมันก็คอยถ่วงหน่วงไม่ให้เราเกิดความเพียรแม้กระทั่งการออกกำลังกายซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและจิตใจ เราก็ใช้ช่วงเวลาพรรษาอธิษฐานว่าเราจะออกกำลังกายทุกวัน ๆละ 10 นาที 1 ชั่วโมงก็แล้วแต่
อธิษฐานมันจะมีความหมายมีประโยชน์ได้ ก็ต่อเมื่อสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ มันเป็นรูปธรรม แล้วเมื่ออธิษฐานแล้วก็ทำทุกวัน และถ้าทำอย่างนี้ได้ แม้จะอยู่บ้าน บ้านก็กลายเป็นวัด และยิ่งถ้าเราอธิษฐานในเรื่องของการบำเพ็ญทางจิต เป็นการเจริญสติ การทำสมาธิ ฝึกจิตให้มีความอดกลั้นต่อความโกรธ ความโลภ เราก็จะทำให้จิตใจเราเจริญงอกงาม ก็กลายเป็นว่าทำให้วัดมาสถิตมาอยู่ในใจเรา
ทีแรกทำบ้านให้เป็นวัด แต่ต่อไปก็จะมีวัดมาสถิตในใจ หมายความว่า ช่วยทำให้จิตใจเราสงบเย็น เพราะว่ามีธรรมะเป็นเครื่องรักษา มีสติเป็นเครื่องคุ้มครอง สิ่งเศร้าหมองก็ไม่สามารถจะมาครอบงำ ความเครียดความท้อแท้ ความสิ้นหวังที่เคยทำให้เราสลดหดหู่ห่อเหี่ยว ตอนนี้มันก็สลายหายไป หรือว่ามารบกวนน้อยลง เพราะว่าใจเรามีเครื่องคุ้มครอง ก็เหมือนกับว่าใจเราเป็นวัดแล้ว เพราะว่าวัดเป็นที่สงบ ที่ร่มรื่น
หลายคนหนีร้อนมาพึ่งเย็นมาวัด ก็เพราะสัมผัสได้ถึงความสงบ แต่ไม่จำเป็นต้องมาสัมผัสความสงบจากสถานที่ก็ได้ สัมผัสความสงบในจิตใจของเราก็ทำได้ หากว่าเราจะทำความดี บำเพ็ญกุศล โดยเฉพาะการเจริญภาวนา โดยมีทานและศีลเป็นเครื่องค้ำจุน
อันนี้คือ สิ่งที่อยากจะชักชวนให้พวกเราทำ ด้วยการอธิษฐานสิ่งดีๆที่เราอยากจะทำในพรรษานี้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นพระเป็นแม่ชี เป็นฆราวาสญาติโยมก็ทำได้ และมันก็จะทำให้เข้าพรรษาในปีนี้มีความหมายมีคุณค่าต่อจิตใจของเรา เป็นเครื่องคุ้มกันความทุกข์ ความห่อเหี่ยวซึ่งตอนนี้มันอึมครึม แผ่กระจายไปทั่ว ไม่ให้เข้ามารบกวนจิตใจของเรา ก็จะทำให้พรรษานี้ เราจะมีความสงบเย็นร่มรื่นแจ่มใสเบิกบาน
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วัดป่าสุคะโต วันที่ 25 กรกฎาคม 2564