แม้ "ข้อความถอดเสียงนี้" จะพยายามให้ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด ผู้ศึกษาพึงตรวจสอบกับเสียงธรรมบรรยายต้นฉบับ ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง [รับข่าวสารทางอีเมล]
ที่ประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารร้านหนึ่งชื่อแปลกดี ร้านรวมอาหารสั่งผิด ทำไมถึงมีชื่อนี้ ก็เพราะว่าร้านนี้เขาจะเจาะจงจ้างคนที่มีปัญหาความจำเสื่อม ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนแก่ให้มาเป็นพนักงานมาเป็นบริกรเสิร์ฟอาหาร เวลาลูกค้ามาร้าน พนักงานเหล่านี้ก็จะไปรับคำสั่งว่า ลูกค้าต้องการอะไร แต่ส่วนใหญ่บริกรเหล่านี้จะจำผิด เพราะว่าความจำเสื่อมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอาหารที่ลูกค้าได้รับ บางครั้งไม่ตรงกับที่สั่ง เขาทำสถิติเอาไว้ 40 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ตรงกับลูกค้าสั่ง
แต่ปรากฏว่าลูกค้าส่วนใหญ่ เรียกว่าร้อยทั้งร้อยพอใจบริกรของร้านนี้ ทั้งๆที่ปกติเวลาได้อาหารไม่ตรงกับที่สั่ง คนส่วนใหญ่ก็จะไม่ถูกใจ ก็จะหงุดหงิด จะโวยวาย จะยืนยันยืนกรานเอาอาหารที่สั่งให้ได้ แต่ว่าลูกค้าร้านนี้เกือบร้อยทั้งร้อยเขาพอใจอาหารที่ไม่ตรงกับที่สั่ง อันนี้ก็น่าคิด แต่ว่ากว่าที่จะถึงตรงนั้น ที่น่าสนใจก็คือทำไมร้านอาหารเขาถึงเจาะจงจ้างคนที่มีความจำไม่ดีหรือความจำเสื่อมมาเป็นบริกร เพราะว่าเขาอยากจะช่วยเหลือคนเหล่านี้ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ญี่ปุ่นมีคนอายุยืน มีคนแก่เยอะ พออายุยืนความจำก็มักจะเสื่อม ถ้าเป็นหนักก็เป็นอัลไซเมอร์ไปเลย แต่ว่าหลายคนความจำเสื่อมแต่ก็ยังพอรู้เนื้อรู้ตัวไม่ถึงกับไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร คนเหล่านี้เนื่องจากว่าความจำไม่ค่อยดีก็อาจจะทำให้จำผิดๆถูกๆและมักจะถูกคนปกติรังเกียจ ถ้าเป็นพ่อเป็นแม่ก็ให้อยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้ออกไปไหน กลัวว่าเดี๋ยวจะหลงทางบ้างกลัวว่าจะทำอะไรเสียหายบ้าง คนเหล่านี้ก็เลยใช้ชีวิตแบบหงอยเหงา ถูกตัดขาดจากสังคม ก็ทำให้อาการแย่ลงแล้วก็มีความทุกข์มากขึ้น
เจ้าของร้านเป็นคนหนุ่ม อยากจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ ให้ออกมาทำงาน มีบทบาท เพราะว่าถ้าได้ทำงานโดยเฉพาะได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้คน ได้มาปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้น เพราะคนเหล่านี้ถ้าหากว่าตัดขาดจากผู้อื่นโดยเฉพาะไม่ฝึกจิตฝึกใจ มันจะหงอยจะเหงา จะเสื่อมลง แต่ว่าอย่าว่าแต่คนที่ความจำเสื่อมเลย คนเฒ่าคนแก่ที่ความจำไม่เสื่อมแต่ว่าวันๆหนึ่งไม่ได้เจอใคร อยู่แต่ในบ้าน ลูกหลานไม่ค่อยได้เจอ ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
เจ้าของร้านอยากจะช่วยสงเคราะห์คนเหล่านี้ ให้เขาได้มีงานมีการ ไม่ใช่เพื่อหารายได้ แต่เพื่อว่าให้มีความสุข รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เขาก็เลยเจาะจงเลือกจ้างคนที่มีปัญหาความจำเสื่อม แต่ที่มันแปลกก็คือว่า พอจ้างคนเหล่านี้มาเป็นบริกร ทั้งๆที่อาหารที่ลูกค้าสั่งไม่ตรง แต่ลูกค้าก็ยังพอใจ อย่างที่ตั้งประเด็นว่าถ้าคนเราที่สั่งอาหารได้อาหารที่ไม่ถูกใจเรา ไม่ตรงที่เราสั่ง ก็ไม่พอใจ แต่ทำไมลูกค้าในร้านนี้ เกือบ 100% พอใจ ทั้งๆที่อาหารที่ได้มาก็ไม่ตรงกับที่สั่ง เหตุผลหนึ่งก็คือเพราะว่าเตรียมใจไว้แล้วว่า สั่งไป อาหารที่ได้มา อาจจะไม่ตรงกับที่ต้องการ
เพราะฉะนั้น พอเกิดอาหารไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็ยอมรับได้ ไม่ทุกข์ ไม่โมโห ไม่หงุดหงิด เพราะฉะนั้นคนเราถ้าหากว่าเราเตรียมใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าอาจจะต้องเจออะไรบ้าง แม้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกใจ ไม่ตรงกับการคาดหวัง แต่พอเจอเข้าจริงๆก็ทุกข์น้อย เหมือนกับเราเดินทางไปกรุงเทพฯแล้วเตรียมใจแล้วว่าจะเจอรถติด พอเจอรถติดจริงๆก็ไม่ทุกข์มาก แต่ถ้าเราเตรียมใจมากไปกว่านั้นการทำงานต้องมีอุปสรรคมีความล้มเหลวบ้าง หรือว่าคนเราก็ต้องเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจบ้าง หรือว่าต้องเจอความพลัดพรากสูญเสียบ้าง ความเจ็บป่วย ถ้าเรารู้จักทำใจ พอถึงเวลาเอาเข้าจริงๆเราก็จะไม่ทุกข์ไม่โวยวายตีโพยตีพาย การที่เราได้เตรียมใจล่วงหน้ากับสิ่งที่ไม่ถูกใจ มันมีประโยชน์ ช่วยทำให้พอเจอเข้าจริงๆไม่หงุดหงิด อันนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่หงุดหงิดกับอาหารที่สั่ง ไม่ได้ตามที่สั่ง
แต่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือว่าลูกค้าไม่ถือบริกร ไม่ถือสา เพราะบริกรมีความจำเสื่อม อาจจะจำผิดๆถูกๆ พอไม่ถือสามันก็ไม่หงุดหงิด ไม่ทุกข์ เหมือนกับว่าเวลามีคนเมามาด่าว่าเรา พอเราไม่ถือสาหรือว่ามีคนบ้ามาชนเรา ทีแรกเราอาจจะโกรธว่ามาชนเราแต่พอหันกลับไปเป็นคนบ้าเป็นคนเสียสติ เราก็ไม่ถือสา พอไม่ถือสาก็ไม่โกรธ ลูกค้าเขาไม่ถือสาบริกรเพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นคนที่มีความจำเสื่อม ก็ไม่ถือสา ทำผิดมาก็ให้อภัย อันนี้เป็นแง่คิดของคนเรา แม้จะเจอสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือว่าเป็นไปดั่งใจ แต่ถ้าเกิดว่าเรารู้จักเตรียมใจล่วงหน้า แล้วก็ไม่ถือสา เจออะไรก็ไม่ทุกข์ เหตุที่ทุกข์ก็เพราะว่าเราไม่เข้าใจ เราไปยึดติดถือมั่น ก็เลยเกิดความทุกข์ขึ้นมา ถ้าคิดดูให้ดีๆความทุกข์มันอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรมากระทบกับเรา
ลูกค้าเขาไม่ใช่แค่ไม่โกรธเขามีความสุขด้วย เพราะว่าเป็นโอกาสได้ลุ้นว่าจะเจออะไร การที่ได้ลุ้นหรือว่าเกิดความตื่นเต้น หรือว่าว่าจะเจออะไร มันก็ทำให้เป็นความสุขเหมือนกัน เป็นความสนุก เป็นประสบการณ์ที่ดึงดูดลูกค้ามาร้านนี้มาก ทำให้ร้านนี้มีชื่อเสียง ถ้ามีร้านอย่างนี้มากๆก็จะช่วยคนที่เขามีความจำเสื่อมให้เขามีบทบาท ต่อไปก็มีร้านสำหรับคนพิการ หรือว่าร้านสำหรับคนที่อาจจะเป็นใบ้หรือหูหนวกก็ได้ มันก็ทำให้คนเหล่านี้มีบทบาท รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ส่วนลูกค้าก็จะมีความสุขด้วยได้ช่วยเหลือเกื้อกูล เป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งทุกวันนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ นับเป็นเรื่องที่ให้แง่คิดให้กับจิตใจของเราด้วย
- พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล แสดงธรรมก่อนฉันเช้า วัดป่าสุคะโต วันที่ 20 พฤษภาคม 2564